Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ลิเบอเรเตอร์ : DITTO Non-rated Bloomberg cons. n.a.

282


Equality for All
DITTO : บมจ. ดิทโต้ (ประเทศไทย)


รายได้หลัก 2 ทาง คือ บริการทางด้านระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลแบบครบวงจร สัดส่วน 29% และ Innovation Technology Engineering Project มีสัดส่วน 51% (งานระหว่างทำ เช่น สวนสัตว์แห่งใหม่ เฟสแรก 5.3 พัน ลบ. และ พิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า 2 พัน ลบ. โดย DITTO ถือหุ้น 25-30% ใน consultum แต่ละงาน) ขณะที่ธุรกิจ Printer ไม่ได้เน้นแล้ว รายได้เหลือเพียง 9%
ผลการดำเนินงานปี 2024 น่าพอใจ : กำไรสุทธิ 458 ลบ. +36.7% y-y สอดคล้องกับรายได้ 2.4 พัน ลบ. +33.9% y-y อัตรากำไรขั้นต้น 27.1% ลดลงจาก 29.8% ปีก่อน จากสัดส่วนงานโครงการ Innovation Tech Engr. มีสัดส่วนเพิ่มสูงถึง 49.4% ทำให้ดึงอัตรากำไรลงมาในช่วงก่อสร้าง อย่างไรก็ดีเราคาดว่างานบำรุงรักษา(MA)เมื่องานเสร็จ ซึ่งมีมูลค่าราว 20% ของมูลค่างานจะมาดึงอัตรากำไรขึ้นในระยะถัดไป
งานในมือ และความคืบหน้า : ณ 31 ธ.ค. 2024 มีทั้งสิ้น 4.1 พัน ลบ. เป็นงานโครงการ 2.3 พัน ลบ. และ งานจัดการเอกสารฯ 1.8 พัน ลบ. คาดรับรู้รายได้ปีนี้ 3 พัน ลบ. โดย ผบห.คาดจะได้งานอีก 1 พัน ลบ.ในกลางปีนี้ โดย 1-2 ปีนี้จะมีประมูลงานอีกราว 7 พัน ลบ. เพียงพอสำหรับการทำธุรกิจ โดยในนั้น 4 พัน ลบ. จะเป็นงานสวนสัตว์แห่งใหม่เฟส 2 คาดประมูลปลายปีนี้ โดยเฟส 1 ผบห.เผยคืบหน้าไปแล้ว 46% ทว่ามีการปรับแบบทำให้ผู้ว่าจ้างขยายเวลาไปเสร็จในปี 2026
ธุรกิจใหม่ Carbon credit : DITTO อยู่ระหว่างพัฒนาป่าชายเลน 1.7 แสนไร่ ซึ่งเป็นป่าที่ผลิต Blue Carbon ได้ ซึ่งเป็นป่าที่ดูดซับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงกว่าป่าทั่วไป 3-10 เท่าตัว ซึ่งโครงการของ DITTO คาดดูดซับได้ 9.4 tCO,e / ไร่/ ปี โดยในพื้นที่นี้เป็นการปลูกใหม่ 2 หมื่นไร่ ที่เหลือเป็นการให้งบแก่เกษตรกรในพื้นที่ในการพัฒนาบำรุงดูแลรักษา แล้วแบ่งผลประโยชน์ 20% ในอนาคต


ตลาด Carbon Credit ในไทย : จากการสอบถาม ผบห. สรุปประเด็นที่น่าสนใจได้ดังนี้
ปัจจุบันในไทยยังเป็นภาค “สมัครใจ” ทำให้ราคา Carbon Credit ไม่สูงเพียง 200-300 บาท/ ตัน เทียบกับในสิงคโปร์ SGD25/ ตัน (ราว 634 บาท/ ตัน) ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ผลักดันไปสู่ภาคบังคับคือ การออกกฏหมาย Carbon tax ซึ่งสิงคโปร์ได้เริ่มใช้ไปแล้วในปี 2019 (เครื่องมืออื่นๆ เช่น การหักกลบ Carbon Credit, กำหนดโควต้าการปล่อยคาร์บอนฯ เป็นต้น)

ประเทศไทยอยู่ระหว่างร่างกฏหมายสำหรับภาคบังคับ คาดกระบวนการอนุมัติจะเกิดขึ้นในปีนี้ แล้วเริ่มบังคับใช้ในปี 2026 ซึ่ง ผบห. เชื่อว่าตลาดการซื้อขายที่เกิดจาก “ภาคบังคับ” จะเกิดในปี 2027 พร้อมกับการเก็บเกี่ยวผลผลิตของ DITTO

ปัจจุบันไทยปล่อยก๊าซเรือกระจกจากทุกภาคส่วนรวมกันราวๆ 385 ล้านตัน/ ปี (เกษตรกรรม-อุตสาหกรรม-บำบัดของเสีย) ซึ่งผลผลิตที่ DITTO ทำได้จาก 1.7 แสนไร่ จะอยู่ที่ราว 1 ล้านตัน/ ปี จะเห็นว่าอุปสงค์นั้นมากกว่าอุปทานอย่างมาก และในปัจจุบัน DITTO ผู้เล่นรายเดียวที่มุ่งพัฒนาในเชิงพาณิชย์


ในระยะที่ประเทศไทยยังไม่สามารถเป็น Net zero ได้ เราคาดว่าการซื้อขาย Carbon Credit มีแนวโน้มจะจำกัดระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขายในประเทศก่อน ในราคาตลาดของประเทศไทยเอง

DITTO อยู่ระหว่างขออนุมัติ กลต.ออก Investment Token สำหรับผลผลิต Carbon Credit ของพื้นที่ป่าชายเลน 17,531 ไร่ เป็น 400 ล้าน Token โดยใช้มาตรฐาน T-VER และ Premium T-VER ที่จะอ้างอิงผลผลิตกับ 4 แสนตัน เรามองว่าผู้ลงทุนจะเป็นผู้ที่ต้องการ lock ราคาต้นทุน Carbon credit ที่ยังเป็นขาขึ้นในระยะยาว ส่วนผลตอบแทนของการออก Token นั้นเรายังไม่มีข้อมูลมากเพียงพอในการคำนวน

 

รางวัลเป็นของคนที่รอได้
“ เรามีมุมมอง บวก กับทิศทาง DITTO ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า โดยระหว่างรอพัฒนาการด้านกฏหมาย “ภาคบังคับ” และ การเติบโตของป่าชายเลน(ปัจจุบันโตสูง 1.5 เมตรแล้ว) ซึ่ง ผบห.ตั้งเป้าจะเก็บเกี่ยว Carbon Credit เพื่อสร้างรายได้ในปี 2027 คาดผลกำไรรายปีจะยืนได้ 400+ ลบ./ ปี จาก Backlog ที่หนาแน่น พร้อม Dividend yield ที่ 2.4% ต่อปี ซึ่งมองว่าอยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับนักลงทุนที่รอได้ ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ Trailing P/E ที่ 15.9x เรามองว่าอยู่ในระดับสมเหตุสมผลสำหรับการพิจารณาศึกษาลงทุน จากที่เคยขึ้นไปถึง 81-119 เท่าในปี 2021-22 ”

จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #14076 Jaroonpan.W@liberator.co.th

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ปลุกหุ้นใหญ่ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้