Bumrungrad Hospital (BH TB)
แนวโน้มการฟื้นตัวยังไม่แน่นอน
คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 225 บาท
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BH แต่ด้วยราคาเป้าหมายที่ลดลงเหลือ 225 บาท โดยเรามองหุ้นยังขาดปัจจัยหนุนระยะสั้น เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการ 1Q68 จะอ่อนแอ ขณะที่รายได้จากผู้ป่วยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ยังมีความไม่แน่นอนว่าผ่านระดับต่ำสุดไปหรือยัง การซื้อขายในระดับต่ำกว่ากลุ่ม อยู่ที่ P/E ปี 68 ที่ 20 เท่า ซึ่งเรามองว่าสมเหตุสมผล เมื่อพิจารณาถึงความไม่แน่นอนของผู้ป่วยตะวันออกกลาง ทั้งนี้หุ้นอาจกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งใน 2Q68 หลังจากผ่านพ้นช่วงเดือนรอมฎอน และแรงกดดันจากคูเวตลดลงเมื่อฐานเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ โดยปัจจัยหนุนที่อาจช่วยให้ผลประกอบการดีกว่าคาด ได้แก่ การฟื้นตัวของผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยจากซาอุดีอาระเบียหลังจากข้อตกลง MOU กับรัฐบาล และการเติบโตของตลาดในประเทศที่แข็งแกร่งกว่าคาด
ปัญหาผู้ป่วยตะวันออกกลางยังคงไม่คลี่คลาย
รายได้จากผู้ป่วยตะวันออกกลางลดลง 19% YoY ใน 4Q67 โดยรายได้จากคูเวตลดลง 73% เนื่องจากรัฐบาลยังหยุดส่งตัวผู้ป่วยไปต่างประเทศ ขณะที่รายได้จาก UAE ลดลง 37% จากนโยบาย Decentralization ของรัฐที่มีการกระจายส่งผู้ป่วยไปยังที่อื่นมากขึ้น โดย BH กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาและพยายามทำสัญญาใหม่กับทางรัฐ UAE เพื่อดึงผู้ป่วยกลับมา แม้ผู้บริหาร BH จะมีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัว แต่เรายังไม่เห็นกรอบเวลาที่แน่ชัด อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่ปริมาณผู้ป่วยอาจไม่ฟื้นตัวกลับไปที่ระดับเดิม หรืออาจต้องมีการปรับราคาลดลงเพื่อให้สามารถต่ออายุสัญญาได้
แนวโน้มระยะสั้นยังไม่สดใส
ผู้บริหารคาดว่ารายได้ 1Q68 จะลดลง 5% YoY แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นราคาค่ารักษา 4% เมื่อต้นปีนี้ ความท้าทายหลัก ได้แก่ การที่เดือนรอมฎอนอยู่ในไตรมาส 1 ทั้งหมด (เทียบกับ 22 วันใน 1Q67) และการลดลงต่อเนื่องของรายได้จากคูเวต เราคาดการณ์กำไร 1Q68 อยู่ที่ 1.69 พันล้านบาท (-14% YoY, -11% QoQ) เนื่องจากรายได้ที่ลดลง 5% และอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอลงจากสัดส่วนรายได้ของผู้ป่วยตะวันออกกลางที่ลดลง
ปรับลดประมาณการกำไรปี 68-69 ลง 7-8%
จากความไม่แน่นอนของผู้ป่วยตะวันออกกลาง เรามีมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้น และปรับลดประมาณการกำไรปี 68-69 ลง 7-8% โดยคาดว่ารายได้ปี 68 จะเติบโตเพียง 1% YoY (เทียบกับ +3% ก่อนหน้า) จากอัตรากำไรที่ลดลงเนื่องจากผู้ป่วยตะวันออกกลางมีสัดส่วนลดลง และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้เรายังคงไม่ได้รวมโรงพยาบาลภูเก็ตไว้ในประมาณการ เนื่องจากข้อมูลยังมีจำกัด นอกจากนี้การเปิดให้บริการโรงพยาบาลในภูเก็ตคงถูกเลื่อนออกไปเป็น 1H70 (จาก 2H69) เนื่องจากการอนุมัติ EIA ล่าช้า โดยแม้ว่าเราจะมองว่าโรงพยาบาลภูเก็ตจะเพิ่มมูลค่าให้กับ BH ในระยะยาว แต่ในปีแรกจะมีแรงกดดันด้านต้นทุนเพิ่มราว 350 ล้านบาทกระทบกำไร
Nontapat Sahakitpinyo
nontapat.sahakitpinyo@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 2352