คาด SET Index ปรับตัวลง: แรงกดดันจากความกังวลทิศทางการค้าและเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางสงครามการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หากแต่พอมีแรงพยุงจากความหวังในการดึงดูดนักท่องเที่ยวตะวันตกจากการเดินทางไปเยอรมนีของนายกฯ รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน
แนวรับ-ต้าน
1,165 –1,180
กลยุทธ์การลงทุน
1) ท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง: CENTEL, CPALL, CPAXT, ERW, KTC, MINT
2) Dividend: AP, KKP, LHHOTEL, LHSC, SIRI, SPALI, TISCO, TTW
3) Defensive: BDMS, BH, PR9
4) Selective: BCP, PT, TFG
5) Short sell: CBG, CPF, HANA, OR, ORI
Tit-for-tat ที่ตอบโต้กันไปมา
สงครามการค้าดุเดือด ไม่ยอมโดนฝ่ายเดียว: คาด SET Index มีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากการลดสถานะในสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย สอดรับกับ Dow Jones, S&P500 และ Nasdaq ที่ปรับตัวลงเมื่อคืนที่ผ่านมา สวนทางกลับ 1) VIXที่ปรับตัวขึ้น 3.21%สู่ 23.5 ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.67 และ 2) ราคาทองคำ COMEX ที่ปรับตัวขึ้น 0.67% ปิดที่ $2,920.6 ต่อออนซ์หลังปธน.สหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาอัตรา 25% มีผลบังคับใช้เมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมกับขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 10% เป็น 20%
ขณะที่ด้านคู่ค้ามีการตอบโต้โดย 1) แคนาดา ประกาศในวันจันทร์ว่าจะเก็บภาษี 25% กับสินค้าสหรัฐฯมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดาตั้งแต่วันที่4 มี.ค.68 และการเก็บภาษีกับสินค้าที่เหลือมูลค่า 1.25 แสนล้านดอลลาร์แคนาดาจะมีผลบังคับใช้ภายใน 21 วัน และ
2) จีนประกาศในวันอังคารว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯบางรายการเพิ่มอกี 15% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.68 พร้อมกับควบคุมการส่งออกสินค้าไปยังบริษัทสหรัฐฯ 15 แห่งส่วนเม็กซิโกจะประกาศมาตรการตอบโต้ทางการค้าต่อสหรัฐฯในวันที่ 9 มี.ค.68 ภาพข้างต้นส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการค้าและเศรษฐกิจโลก ซึ่งทุกฝ่ายอาจต่างเป็นผู้เสียประโยชน์หากมีการตอบโต้กันไปมาด้วยมาตรการกีดกันทางการค้า รวมถึงอาจส่งผลให้ธนาคารกลางต่างๆต้องชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปอันเนื่องมาจากเงินเฟ้อทางด้านอุปทาน
หนึ่งในตัวอย่างคือทาร์เก็ต คอร์ป ซึ่งเผยว่าการเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากเม็กซิโกจะทำให้บริษัทต้องปรับขึ้นราคาสินค้าด้านการเกษตรอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้นอกจากนี้ เช้านี้ (เวลาไทย) ติดตามปธน.สหรัฐฯกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรส ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางนโยบายการค้าของสหรัฐฯเพิ่มเติม
หวังนายกฯดึงท่องเที่ยวและจีนกระตุ้นเศรษฐกิจ: มองทางลงจำกัดโดยการท่องเที่ยวยังมีความหวังจากการที่นายกฯเดินทางไปเยอรมนีในวันที่ 3-8 มี.ค.68 เพื่อร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ITBBerlin2025และยังมีหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่อาจเผยออกมาในช่วงการประชุม 2 สภา ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 11 มี.ค.68 ส่วนเช้านี้ติดตาม PMIภาคบริการจีนเดือนก.พ.68 จาก Caixin
ปัจจัยเพิ่มเติม
รมช.คลังเผยกระทรวงการคลังร่วมกับธปท.ได้ยกร่างพ.ร.บ.สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการจัดตั้ง NaCGA ซึ่งจะเป็นกลไกสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SME โดยผ่านการทำประชาพิจารณ์แล้วและเตรียมเสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณาในเดือนมี.ค.68
จีนกำหนดเป้าหมายการเติบโตของ GDP ในปี 68 ไว้ที่ประมาณ 5% ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับสหรัฐฯ โดยรอยเตอร์เผยจีนได้ปรับเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณเป็น 4% ของ GDP จาก 3% เมื่อปีที่แล้ว และตัวเลข 4% นี้จะถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ย้อนหลังไปถึงปี 53 ตามข้อมูลที่เข้าถึงได้ผ่าน Wind Information
นายไพบูลย์ เลขาธิการพรรคพลังประชารฐั เผยการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ (วันที่ 24 มี.ค.68) มั่นใจว่าจะทำให้นายกฯหวั่นไหวแน่ ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงขั้นจะทำให้มีการยุบสภาได้หรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่าในระยะเวลาอันสั้น