Today’s NEWS FEED

News Feed

TEGH ปี 67 รายได้เพิ่มขึ้น 38.86% กำไรโต 158.86%-ปักหมุดรายได้ปีนี้โต 30% – เล็งดันบ.ย่อย TEBP เข้าตลาด mai

641


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(4 มีนาคม 2568)-------TEGH เปิดงบปี 2567 รายได้แตะ 16,843.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.86% กำไรสุทธิ 556.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 158.86% บอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.21 บาท/หุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 19 มีนาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ฟากแม่ทัพหญิง “สินีนุช โกกนุทาภรณ์” ระบุตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 30% ประเมินยอดขายยางแท่งมีลุ้นออลไทม์ไฮต่อเนื่อง ลุยสร้างการเติบโตในทุกธุรกิจ ทั้งยางธรรมชาติ น้ำมันปาล์ม และพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ พร้อมเตรียมแผนนำบริษัทย่อย “TEBP” ระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)

นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจร ที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการผลิต เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2567 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567) บริษัทฯ มีรายได้ 16,843.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.36% ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่บริษัทฯ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ 14,774 ล้านบาท ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ 1,907 ล้านบาท และธุรกิจพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ 139 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 88%, 11%, 1% ของรายได้ทั้งหมดตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 556.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 158.86% หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 202.60% ก่อนหักรายการพิเศษบันทึกค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ถาวรของบริษัทย่อย จำนวน 94.05 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 20 มีนาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้จะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมีกำหนดจัดประชุมในวันที่ 25 เมษายน 2568

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 30% แตะระดับ 22,000 ล้านบาท จากทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งยางธรรมชาติ น้ำมันปาล์ม และพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ โดยเฉพาะธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแท่ง มีโอกาสที่ยอดขายจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High) จากปริมาณขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 250,000-280,000 ตัน และราคายางธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น โดยที่ผ่านมากลุ่มบริษัทฯ TEGH มียอดการผลิตและจำหน่ายยางแท่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งในปี 2567 มีมียอดขายยางแท่ง 220,284 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มียอดขาย 197,240 ตัน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 11.68% โดยมีสัดส่วนปริมาณส่งออกยางแท่งที่ 66.1% เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 47.75% อันเป็นผลมาจากการขยายกำลังการผลิตยางแท่งที่เพิ่มขึ้นเป็น 390,000 ตันต่อปี และมีปริมาณขายยางแท่งเกรด EUDR ทั้งหมดที่ 51,743 ตัน โดยคิดเป็นสัดส่วนยางแท่งเกรด EUDR ถึง 45.11% ของปริมาณส่งออกยางแท่งทั้งหมดในครึ่งปีหลัง สะท้อนถึงความสามารถในการขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และความต้องการสินค้ายางแท่งเกรด EUDR โดยเฉพาะตลาดยุโรป ที่ถึงแม้จะมีการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมาย EUDR ออกไปอีก 1 ปี (เริ่มบังคับใช้ 31 ธันวาคม 2568)

ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ มีแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเทิร์นอะราวด์ในปีนี้ หลังจากปรับปรุงกระบวนการผลิต ซ่อมบำรุงเครื่องจักร ติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ลูกใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น และหม้อนึ่งปาล์มต่อเนื่อง (Sterilizer) ที่ติดตั้งแล้วเสร็จไปในปีก่อน พร้อมดำเนินการทดสอบเครื่องจักรในช่วงผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาด หรือภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบจะเพิ่มขึ้นอีก 20% ในปี 2568 และจะเพิ่มเป็น 50% ภายในปี 2569 พร้อมเตรียมพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในปีนี้ โดยการนำทะลายปาล์มมาเพิ่มมูลค่าใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับทดแทนการซื้อไฟฟ้าจากภายนอกของโรงงานในกลุ่มบริษัทฯ และจากสภาวะตลาดปาล์มน้ำมันที่ไม่ปกติในช่วง 2-3 ปีที่ผ่าน บริษัทฯ จึงได้พิจารณาบันทึกการด้อยค่าสินทรัพย์ถาวรของบริษัทย่อยในสายธุรกิจปาล์มน้ำมันเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการใช้งานในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทฯ ประเมินว่าจะช่วยลดภาระค่าเสื่อมระหว่างปี 2568-2570 ลงได้ประมาณปีละ 20 ล้านบาท

ด้านธุรกิจด้านพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ ปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างโดดเด่น หลังขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพโซน 3 เฟสที่ 1 เสร็จเรียบร้อย ที่กำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ 30,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และรับรู้รายได้จากการขายก๊าซชีวภาพผ่านทางท่อให้กับ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GGC) แล้วเมื่อช่วงปลายปี และมีแนวโน้มที่ความต้องการใช้ก๊าซชีวภาพจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ ล่าสุดเตรียมขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพโซน 3 เฟสที่ 2 เพิ่มอีก 90,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ควบคู่กับการศึกษาและพัฒนายกระดับขึ้นเป็นก๊าซไบโอมีเทนอัด (CBG) เพื่อใช้ทดแทนก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และก๊าซธรรมชาติ (NGV) สำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งในอนาคต

นอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการ TEGH ได้มีมติอนุมัติแผน Spin-Off ของบริษัทย่อย คือ บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด (TEBP) ในการออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) และแผนการนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินและสร้างการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต ภายใต้แผน Spin-Off นั้น TEBP จะเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) เท่ากับหุ้นละ 1 บาท โดยจะออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น และ TEGH จะขายหุ้นเดิมจำนวนไม่เกิน 15 ล้านหุ้น รวมจำนวนหุ้นที่จะ IPO ทั้งหมดไม่เกิน 90 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 30.00% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ TEBP โดยภายหลังการ IPO TEGH ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ TEBP และ TEBP จะยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ TEGH ภายหลังการ IPO

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ลุ้น หวยออก By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ลุ้น หวยออก ระหว่างรอ ครม. ระหว่างรอผลประชุม เฟด เงินบาทแข็งค่า.....

ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่

ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่

มัลติมีเดีย

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้