DOHOME แนวโน้มปี 68 พลิกเติบโต ได้แรงหนุนจากงานโครงการภาครัฐและเอกชน

*งวด 4Q67 มีกำไรสุทธิ 160 ลบ. -19%YoY +108%QoQ ขณะที่ทั้งปี 67 มีกำไร 673 ลบ. +15%YoY
*คาดกำไรปี 68 ราว 884 ลบ. +31%YoY ได้แรงหนุนจากโครงการก่อสร้างทั้งรัฐและเอกชนที่ทยอยออกมามากขึ้น
*เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” และประเมินราคาเหมาะสม DOHOME ราว 7.85 บาท

Investment Highlight
งวด 4Q67 มีกำไรสุทธิ 160 ลบ. -19%YoY +108%QoQ ขณะที่ทั้งปี 67 มีกำไร 673 ลบ. +15%YoY
งวด 4Q67 มีกำไรสุทธิ 160 ลบ. -19%YoY +108%QoQ โดยมีรายได้ 7,623 ลบ. +4%YoY +3%QoQ มีปัจจัยเติบโตจาก SSSG +1.5% สนับสนุนจากงานโครงการภาครัฐ ส่วน %GPM ทรงตัวที่ 16.8% (4Q66 = 16.9%, 3Q67 = 16.4%) ขณะที่ %SG&A ปรับลดลงสู่ 13.7% (4Q66 = 13.9%, 3Q67 = 14.7%) จากการควบคุมต้นทุนและประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ช่วง 4Q66 มีรายได้พิเศษจากค่าสินไหมทดแทนจากเหตุการณ์น้ำท่วม 53 ลบ. หากพิจารณาเฉพาะกำไรปกติงวด 4Q67 จะ +13%YoY +108%QoQ

ภาพรวมทั้งปี 67 มีรายได้ 30,991 ลบ. -1%YoY เนื่องจากไม่มีการขยายสาขาขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน SSSG ทั้งปีติดลบ 5.3% จากกำลังซื้อที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม %GPM ปรับดีสู่ 17.13% จากปีก่อน 15.7% จากการปรับ Product Mix และทยอยเพิ่มสัดส่วนสินค้า House Brand อย่างไรก็ตาม %SG&A ปรับเพิ่มขึ้นสู่ 13.58% จากปีก่อน 12.62% จากรับรู้ต้นทุนในการขยายสาขาใหม่จากปีก่อนเต็มปี ส่งผลให้ทั้งปี 67 มีกำไร 673 ลบ. +15%YoY
คาดกำไรปี 68 ราว 884 ลบ. +31%YoY ได้แรงหนุนจากโครงการก่อสร้างทั้งรัฐและเอกชนที่ทยอยออกมามากขึ้น

เราคาดการณ์รายได้ปี 68 ราว 34,141 ลบ. +10%YoY มีปัจจัยสนับสนุนจากทั้งงานโครงการภาครัฐและโครงการอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนที่ทยอยออกมามากขึ้น สะท้อน SSSG ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมาเป็นบวก 1-2% อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกค้าทั่วไปยังไม่ฟื้นตัวจากกำลังที่ซื้อที่ยังอ่อนแอ โดยเราคาด SSSG ทั้งปีราว 5% นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายสาขาใหม่แบ่งเป็นสาขาขนาดใหญ่ 3 แห่ง สู่ทั้งหมด 27 แห่ง และสาขาขนาดเล็ก 3 แห่ง สู่ทั้งหมด 18 แห่ง ขณะที่ %GPM มีแนวโน้มปรับดีขึ้นสู่ 18% จากปีก่อนที่ 17.1% จากการปรับ Product Mix และเพิ่มสัดส่วน House Brand จาก 20% สู่ 21% ซึ่งสินค้ากลุ่มดังกล่าวมีมาร์จิ้นราว 33-35% ส่วน %SG&A คาดปรับเพิ่มขึ้นสู่ 14.2% จากปีก่อน 13.6% จากค่าใช้จ่ายในการขยายสาขาใหม่ อย่างไรก็ตาม บริษัทพยายามปรับลดค่าใช้จ่ายดังกล่าวลงจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า ทั้งนี้ เราคาดกำไรปี 68 ราว 884 ลบ. +31%YoY

เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” และประเมินราคาเหมาะสม DOHOME ราว 7.85 บาท
เราประเมินราคาเหมาะสม DOHOME ปี 68 โดยอิง Prospective PE ที่ 30.7x ณ ระดับ -1SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปี จากค่าเฉลี่ยในอดีตที่ราว 41.7x สะท้อนภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่อ่อนแอ แต่ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม (HMPRO = 16.7x, GLOBAL = 17.5x) ที่ 17x อย่างไรก็ตาม เราคาดกำไร DOHOME มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะทรงตัวในปี 68 ทั้งนี้ เราคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 68 ราว 0.26 บาท คำนวณเป็นราคาเหมาะสม 7.85 บาท มีอัพไซต์ 8% และล่าสุดบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล โดยแบ่งเป็นจ่ายเป็นหุ้นในอัตรา 21:1 (เดิม : ใหม่) และจ่ายเป็นเงินสดในอัตรา 0.00529 บาท/หุ้น คิดเป็น %Yield รวมราว 4.83% กำหนด XD วันที่ 4 มี.ค.68 และจ่ายปันผลวันที่ 26 พ.ค 68 อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นมีอัพไซต์จากราคาเป้าหมายเพียง 8% จึงเริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”

ปัจจัยเสี่ยง
i) แนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในอุตสาหกรรมค้าปลีก
ii) แผนการขยายสาขาไม่เป็นไปตามเป้า
iii) การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมเริ่มชะลอลง
iv) ภาครัฐหยุดกระตุ้นเศรษฐกิจ
v) ภาครัฐปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ
vi) บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการขายเหล็กราว 31% ของรายได้ จึงมีโอกาสที่ผลประกอบการจะผันผวนตามทิศทางราคาเหล็ก

Analyst: Salakbun Wongakaradeth,CISA
02-687-7287
Salakbun@globlex.co.th