Today’s NEWS FEED

News Feed

พบ แสนสิริ ติดอันดับ1ปี67 โกยรายได้มากสุดเกือบ 4 หมื่นลบ. ส่วน ศุภาลัย คว้าแชมป์กำไรเพิ่มกว่า 6 พันล้านบาท

419


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(4 มีนาคม 2568)----------ทยอยประกาศผลประกอบการปี 2567 ออกมากันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ที่ประกาศผลประกอบการของปี 2567 ออกมากันครบแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มีรายได้รวมลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 แต่ก็มีอีกหลายบริษัทที่มีรายได้รวมเพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ สวนทางกับทิศทางการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567 ซึ่งศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้รายงานว่า มูลค่ารวมของยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั้งปี 2567 ลดลงจาก ปี 2566 ประมาณ 6.3% จากปัจจัยลบรอบด้าน ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย รวมไปถึงปัญหาของการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างลำบาก เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติวงเงินสินเชื่อ ส่งผลให้การโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2567 ลดลง ทั้งในส่วนของจำนวนและมูลค่ารวม ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่พยายามหาช่องทางในการสร้างรายได้แบบต่อเนื่องตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา

 

ตารางแสดงรายได้รวมและกำไรสุทธิปี 2567ของผู้ประกอบการอสังหาฯในตลาดหลักทรัพย์
อันดับ บริษัท รายได้รวม % เปลี่ยนแปลงจากปีก่อนหน้า กำไรสุทธิ % เปลี่ยนแปลงจากปีก่อนหน้า
1 แสนสิริ 39,205 2.0% 5,253 -13.3%
2 เอพี (ไทยแลนด์) 37,460 -2.4% 5,020 -17.1%
3 ศุภาลัย 31,985 0.5% 6,190 3.3%
4 แลนด์แอนด์เฮ้าส์ 28,151 -6.7% 5,491 -26.6%
5 พฤกษา โฮลดิ้ง 20,996 -19.7% 4,561 -79.3%
6 เอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น 20,302 -15.2% 1,706 -31.3%
7 สิงห์ เอสเตท 15,362 -3.6% 1,457 33.4%
8 เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ 14,566 -13.3% 1,438 -22.3%
9 ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ 11,985 -20.9% 1,052 -61.3%
10 แอสเซทไวส์ 9,941 39.1% 1,457 33.4%
11 ควอลิตี้เฮ้าส์ 8,695 -5.9% 2,150 -14%
12 แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ 8,011 7.6% 111 -69%
13 อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ 6,685 75.0% 334 N/A

 

นายสุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย มองว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์มีรายได้รวมในปี 2567 ลดลงคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 15% เมื่อเทียบกับปี 2566 แต่ก็มีผู้ประกอบการบางรายเช่นกันที่มีรายได้เพิ่มขึ้น หรือลดลงจากปีก่อนหน้านี้ไม่มาก หรือลดลงประมาณ 2 – 3% เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังมีกำลังซื้ออยู่ในตลาดต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการรายใดจะเข้าถึงและสามารถดึงดูดให้ผู้ซื้อจองและโอนกรมสิทธิ์ได้มากกว่ากัน


สำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้มากที่สุดในปี 2567 ใน 5 อันดับแรก คือ แสนสิริ มีรายได้รวมทั้งปี 2567 ประมาณ 39,204 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ประมาณ 2% ตามมาด้วย เอพี (ไทยแลนด์) มีรายได้รวมประมาณ 37,460 ล้านบาท และ ศุภาลัย มีรายได้ประมาณ 31,985 ล้านบาท ส่วน แลนด์แอนด์เฮ้าส์ มีรายได้รวม 28,151 ล้านบาท และ พฤกษาฯ มีรายได้รวม 20,996 ล้านบาท

ทั้งนี้ใน 5 อันดับแรกนี้ ครองผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยมาต่อเนื่องทั้งรายได้และยอดขาย โดยผู้ประกอบการบางรายอาจเคยครองตำแหน่ง อันดับที่ 1 หรือ อันดับ 2 ต่อเนื่องมายาวนาน แต่ด้วยภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงโฟกัสของผู้ประกอบการที่เปลี่ยนไปมีผลต่อรายได้รวมเช่นกัน

ส่วนของกำไรสุทธิในกลุ่ม 5 อันดับแรก มีเพียง ศุภาลัย เท่านั้นที่มีผลกำไรเป็นบวกเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของปี 2566 ขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ มีกำไรลดลงไม่มากหรือมีนัยสำคัญอะไรต่อผลประกอบการมากนัก โดยเฉพาะ แสนสิริ และเอพี (ไทยแลนด์) ที่ลดลง 13.3% และ17.1% ตามลำดับ เนื่องจากผลกำไรยังมีมูลค่าเกิน 5 พันล้านบาท ซึ่งกำไรที่ลดลงในปีที่ผ่านมาอาจจะชดเชยกลับมาในปี 2568 นี้ก็เป็นไปได้ แม้ว่าสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะยังไม่ฟื้นตัว และมีทิศทางที่ต้องจับตามองอยู่ก็ตาม

อย่างไรก็ตามในปี 2568 ผู้ประกอบการรายใหญ่มีแผนจะเปิดขายโครงการใหม่มากกว่าปี 2567 และยังคงเป็นการขับเคี่ยวกันของ 3 รายหลัก คือ เอพี (ไทยแลนด์) ที่ประกาศแผนการลงทุนมีมูลค่าโครงการวมมากถึง 65,000 ล้านบาท จากจำนวน 42 โครงการ ในขณะที่ แสนสิริ เปิดขายโครงการใหม่จำนวน 29 โครงการ เท่านั้น แต่มีมูลค่าโครงการมากถึง 52,000 ล้านบาท โดยโฟกัสไปที่กลุ่มสินค้าระดับบน-ลักชัวรีมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าเฉลี่ยต่อโครงการสูงกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ และ ศุภาลัย มีโครงการเปิดขายใหม่จำนวน 36 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 46,000 ล้านบาท

ด้วยแรงกดันในตลาดที่อยู่อาศัยยังคงมีต่อเนื่องในปีนี้ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงเหลือ 2% แล้วก็ตาม แต่มาตรการช่วยเหลือหรือมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯจากรัฐบาลยังไม่มีความเคลื่อนไหว
รวมไปถึงการที่ผู้ประกอบการทุกรายพยายามกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทยผ่อนปรนเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อ การผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ชั่วคราวเพื่อให้กำลังซื้อส่วนหนึ่งกลับเข้ามาในตลาด แต่ดูเหมือนจะยังไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยงานภาครัฐ หากเป็นแบบนี้เชื่อว่าปี 2568 จะยังเป็นอีกปีที่ตลาดที่อยู่อาศัยต้องเผชิญกับความท้าทายต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้