Today’s NEWS FEED

News Feed

ฟิทช์ คงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท ไทยประกันชีวิตที่ ‘A-’แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

357

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(27 กุมภาพันธ์ 2568)----------ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (Insurer Financial Strength Rating: IFS Rating) ของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI ที่ ‘A-’ (หรืออยู่ในระดับ “แข็งแกร่ง”) และคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Rating) ของ TLI ที่ ‘AAA(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

การคงอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลประกอบการที่เข้มแข็งของ TLI ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอัตรากำไรจากมูลค่าของธุรกิจใหม่ (New Business Value Margin: NBV Margin) ที่ดี รวมทั้งโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัทในธุรกิจประกันภัยที่ยังแข็งแรง (‘Favourable’ Company Profile) และการมีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง (Risk-Based Capitalisation) อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของโครงสร้างเครดิตของบริษัทได้ถูกลดทอนไปบ้างจากความเสี่ยงด้านสินทรัพย์และการลงทุนของบริษัท

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
ผลการดำเนินงานที่เข้มแข็ง: TLI มีผลการดำเนินงานที่เข้มแข็งแม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและอัตราเงินเฟ้อทางการแพทย์ (medical inflation) ที่สูง โดยบริษัทมีอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ 11% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของช่วงระหว่างปี 2565 ถึงช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ที่ 10% อัตรากำไรจากมูลค่าของธุรกิจใหม่ (NBV Margin) ของ TLI ยังคงแข็งแกร่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ที่ 62% (9M66: 62%) โดยได้รับการสนับสนุนจากอัตรากำไรจากธุรกิจใหม่ที่ดีจากผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์และประกันชีวิตแบบตลอดชีพ และการมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (annualized premium equivalent) ของประกันชีวิตสัญญาเพิ่มเติม ทั้งนี้ อัตรากำไรจากธุรกิจใหม่ของมูลค่าของประกันชีวิตสัญญาเพิ่มเติม ได้ลดลงเล็กน้อยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 แต่ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่ 92% (9M66: 101%)

ผลการดำเนินงานของบริษัทยังได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานด้านการลงทุนที่ได้สร้างอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่า 3% อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งส่งผลให้โครงสร้างรายได้และผลการดำเนินงานมีเสถียรภาพมากขึ้น

ความแข็งแรงในด้านการตลาด: TLI มีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งในประเทศไทย โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ในด้านเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2567 ที่ 13.4% แม้ว่าบริษัทจะมีขนาดธุรกิจในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับบริษัทประกันอื่นในภูมิภาค ฟิทช์ประเมินโครงสร้างการดำเนินงานของ TLI ว่าอยู่ในระดับ ‘แข็งแรง’ (Favourable) เมื่อเทียบกับบริษัทประกันอื่นในประเทศไทย เนื่องจากบริษัทมีโครงสร้างของธุรกิจที่ ‘แข็งแกร่ง’ และการมีบรรษัทภิบาลที่ ‘ดี’ (Neutral)

TLI มีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ครอบคลุมหลากหลายประเภท เช่น ประกันชีวิต ประกันออมทรัพย์ ประกันสุขภาพ และประกันชีวิตประเภทควบการลงทุน บริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายและแข็งแกร่ง ในปี 2567 ช่องทางตัวแทนประกันมียอดขายประมาณ 74% ของเบี้ยประกันรวม ในขณะที่การขายประกันผ่านธนาคารพาณิชย์ มีสัดส่วนที่ 19% ของเบี้ยประกัน และ ช่องทางอื่นๆ คิดเป็น 7% ของเบี้ยประกัน

ฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง: ฟิทช์ประเมินคะแนนในด้านเงินกองทุนของ TLI ตามแบบจำลอง Fitch Prism Global Model ว่าอยู่ในระดับ 'แข็งแกร่งมาก' (Extremely Strong) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับการประเมินของฟิทช์เมื่อปี 2566 อัตราส่วนเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (RBC) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเป็น 410% ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 จาก 398% ณ สิ้นปี 2566 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 140% อย่างมาก ฟิทช์คาดว่าบริษัทจะมีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งและมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่แข็งแรงในระยะยาว

อัตราส่วนสินทรัพย์เสี่ยงต่อส่วนของผู้ถือหุ้นยังคงสูง: TLI ยังคงมีอัตราส่วนสินทรัพย์เสี่ยงต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อยู่ในระดับสูงที่ 185% ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 (2566: 182%) สินทรัพย์เสี่ยงของบริษัทส่วนใหญ่มาจากการลงทุนในตราสารหุ้นและตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิตสากลต่ำกว่าระดับลงทุน (below investment grade) และการมีสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ (50% ของการลงทุนทั้งหมดของ TLI ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 และเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่มีน้ำหนักความเสี่ยงที่ 15% ตามเกณฑ์ของฟิทช์) อัตราส่วนสินทรัพย์เสี่ยงต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับที่กำหนดไว้ตามเกณฑ์ของฟิทช์สำหรับบริษัทประกันชีวิตที่มีอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลที่ช่วงระดับ ‘A’ (category) ทั้งนี้บริษัทมีสัดส่วนการลงทุน (portfolio mix) ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก โดยมีตราสารหนี้และเงินฝากคิดเป็น 80% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

- การปรับตัวลดลงของอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (RBC) มาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 280% และการปรับตัวแย่ลงของระดับเงินกองทุนของบริษัทซึ่งวัดจากแบบจำลอง Prism Model ของฟิทช์ลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า "ระดับแข็งแกร่ง" เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง
- การปรับตัวลดลงของความสามารถในการทำกำไรซึ่งสะท้อนจากอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ต่ำกว่า 6.5% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง และมูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (value of new business) ที่ลดลง เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

- การที่บริษัทมีขนาดของธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นและมีการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมหลากหลายประเภทธุรกิจมากขึ้น ด้านการกระจายตัวเชิงภูมิศาสตร์ที่ดีขึ้น และช่องทางการขายที่มีความหลากหลาย และ
- การรักษาระดับเงินกองทุนของ TLI ให้ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศของ TLI ไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้อีก เนื่องจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศที่อยู่ในอันดับเครดิตที่สูงที่สุดแล้ว

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตามสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com/esg

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ยืน 1200 จุด By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ในท้องทุ่งสีเขียว หุ้นไทยบวกยืน 1200 จุดได้อีกครั้ง ...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้