วันพุธที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้น สูงสุดราว 27 จุด โดยได้แรงหนุนจากผลการประชุม กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 เสียงปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ลงมาที่ 2.00% มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่ม Big-Cap น าโดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ค้าปลีก และไอซีที ขณะที่มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นสุดในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,231.14 จุด +24.75 จุด +2.05% มูลค่าการซื้อขาย 62,529 ลบ. Program Trading +1,422.15 ลบ.ต่างชาติ +2,063.15 ลบ. TFEX +21,775 สัญญา ตราสารหนี้ +867.26 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก2.25% เป็น 2.00% ต่อปี ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้ม ขยายตัวต่ ากว่าที่ประเมินไว้จากภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ถูกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศ
+ กลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ยืนยันการส่งมอบร่างตัวประกันอิสราเอล4 ราย เพื่อแลกกับการที่อิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์กว่า
600 คนในคืนนี้เช่นกัน
+ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและรัสเซียจะพบปะกันที่กรุงอิสตันบูลของตุรกีเพื่อหารือกันเกี่ยวกับการกลับมาเปิดสถานเอกอัครราชทูตของทั้งสองประเทศ

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 188.04 จุด หรือ -0.43% ส่วนดัชนี Nasdaqและ S&P500 ฟื้นตัวขึ้นปิดในแดนบวก ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) อย่างใกล้ชิด โดยคาดหวังว่าแนวโน้มเชิงบวกของบริษัทอาจเป็นตัวก าหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 31 เซนต์ หรือ 0.45% ปิดที่68.62 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของอุปสงค์เชื้อพลิง นอกจากนี้ราคาน้ ามันยังถูกกดดันจากความเป็นไปได้ที่จะมีการทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาความเป็นไปได้ในการเรียกเก็บภาษีน าเข้าทองแดง ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของทรัมป์ในการใช้มาตรการกำแพงภาษีเพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมของตน
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลงสู่ระดับ657,000 ยูนิตในเดือนม.ค. โดยลดลง 10.5%MoM และต่ ากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 680,000 ยูนิต จากระดับ 734,000 ยูนิตในเดือนธ.ค.

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ต่อ โดยมีแรงหนุนจากที่ประชุมกนง. มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.25% เป็น 2.00% ต่อปี ประกอบกับนักลงทุนยังจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้ มองกรอบดัชนี 1,220-1,240 จุ

กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• MSCI Rebalance : MSCI Global Standard : เข้า - ออก PTTGC, TOP MSCI Global Small Cap : เข้า GPSC,PTTGC, SCGP, TOP ออก BSRC, DCC, ERW, GFPT, KAMART, PSG, PSH, SAPPE, STECON, THG, TIPH (ใช้ราคาปิด 28 ก.พ.)
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกระแสซีรีส์ "The White Lotus" : WPH RP MINT CENTEL BA BAREIT
• หุ้นส่องออก ม.ค. เติบโตดี : STA NER GFPT AAI ITC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : AP LH SIRI SC SPALI QH MTC SWAD TiDLOR