26 ก.พ. 2568 13:40:53 218
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (26 กุมภาพันธ์ 2568)-------กลุ่มดุสิตธานี เผยผลประกอบการปี 2567 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะรายได้รวมไตรมาสที่ 4 ที่ระดับ 6,100 ล้านบาท และพลิกผลขาดทุนเป็นกำไรสุทธิที่ 310 ล้านบาท ระบุปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากการส่งมอบพื้นที่อาคารค้าปลีกได้สำเร็จตามเป้าหมาย การฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมในช่วงไฮซีซั่น การกลับมาให้บริการของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ รวมถึงการเติบโตอย่างน่าพอใจของธุรกิจอาหาร ระบุภาระดอกเบี้ยจากการลงทุนในโครงการลงทุนใหญ่ยังเป็นปัจจัยหน่วงผลประกอบการ ขณะที่ปี 2568 ตั้งเป้าปลดล็อคมูลค่าลงทุน สร้างการเติบโตของรายได้ในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยวางเป้าหมายธุรกิจโรงแรม (ไม่รวมรายได้จากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ) ขยายตัว 15-18% ธุรกิจอาหารเติบโต 20-25% และมีแผนขับเคลื่อนมูลค่า -โครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์คนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 (ตุลาคมถึงธันวาคม) ปี 2567 ของกลุ่มดุสิตธานี บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 6,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 224% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายได้ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 1,089 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 310 ล้านบาท พลิกจากที่เคยขาดทุนในงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 146 ล้านบาท (YoY) และจากที่เคยขาดทุนในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ที่ 538 ล้านบาท (QoQ)สำหรับผลประกอบการงวด 1 ปี (มกราคมถึงธันวาคม) ปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 11,204 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 โดย EBITDA อยู่ที่ 1,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.4% และมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 237 ล้านบาท ลดลงจากผลขาดทุน 570 ล้านบาทในปีก่อน "ผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของกลุ่มดุสิตธานีเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเราสามารถพลิกผลขาดทุนให้กลับมาเป็นกำไรสุทธิได้ ซึ่งปัจจัยหลักมาจากรายได้จากการส่งมอบงานก่อสร้างพื้นที่อาคารค้าปลีก (Bare Shell) ของโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค รายได้จากช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโรงแรมที่มีลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรายได้จากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ที่รับรู้รายได้เต็มไตรมาส หลังจากเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 ขณะที่รายได้จากธุรกิจอาหารเติบโตได้อย่างน่าพอใจ จากการขยายตลาดและการเพิ่มลูกค้าใหม่ของบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด (Epicure) และบองชู เบเกอรี่ (Bonjour Bakery)" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานีกล่าวทั้งนี้ การฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญของผลประกอบการในปี 2567 ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำเร็จของแผนยุทธศาสตร์ด้านการลงทุน 3 ประการของกลุ่มดุสิตธานี ได้แก่ สร้างสมดุล สร้างการเติบโต และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ ทั้งธุรกิจอาหาร รวมถึงธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของดุสิตธานี ทำให้บริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการใช้ประสบการณ์และความสามารถจากธุรกิจหลักในการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน ลดการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจโรงแรม และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับกลุ่มดุสิตธานีสำหรับปี 2568 ซึ่งเป็นช่วงเวลาปลดล็อคมูลค่าลงทุน ตามแผนกลยุทธ์เพื่อการสร้างความเติบโตในระยะยาว บริษัทฯ จะเดินหน้าพลิกฟื้นธุรกิจให้แข็งแกร่ง โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจ แม้ว่า จะยังมีภาระดอกเบี้ยจากการลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่เป็นปัจจัยหน่วงที่มีนัยสำคัญก็ตาม ซึ่งในส่วนของธุรกิจโรงแรมนั้น คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของรายได้ประมาณ 15-18% จากปี 2567 (ไม่รวมรายได้จากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ) โดยจะเน้นการขยายพอร์ตโรงแรมในรูปแบบรับจ้างบริหารจัดการ (Asset-light) เป็นโรงแรมเปิดใหม่ 5-7 แห่ง และคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาบริหารเพิ่ม 12-14 แห่งส่วนธุรกิจอาหารซึ่งยังเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดี บริษัทฯ ประมาณการการเติบโตของรายได้ธุรกิจอาหารในปีนี้ไว้ที่ 20-25% โดยมีแผนขยายแฟรนไชส์บองชูเบเกอรี่ เพิ่ม 12-25 สาขา รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรญี่ปุ่น Green House เพื่อขยายตลาด พร้อมกันนี้ ยังมีการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะนำธุรกิจอาหารเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกด้วย ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คาดว่า จะสามารถขับเคลื่อนมูลค่า โครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จากการเปิดให้บริการในส่วนของอาคารสำนักงานและศูนย์การค้าได้ในครึ่งหลังของปี 2568 และเริ่มทยอยโอนโครงการพักอาศัยดุสิต เรสซิเดนเซส และ ดุสิต พาร์คไซด์ ในช่วงปลายปีนี้ โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 95% ของพื้นที่ขาย"ปี 2568 เป็นช่วงสุดท้ายของแผนกลยุทธ์เพื่อการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน ที่เราแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา ตั้งแต่ปี 2559-2568 ซึ่งตลอดระยะทาง 9 ปีของแผนที่เราวางไว้ เราต้องเจอกับเรื่องไม่คาดคิด รวมถึงปัจจัยท้าทายต่างๆ มากมาย แต่ด้วยความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้บริหาร พนักงาน ผู้ถือหุ้น รวมถึงความไว้วางใจจากลูกค้าและคู่ค้าของดุสิตธานี ที่พร้อมการให้สนับสนุนเราเสมอ ทำให้วันนี้เราจะสามารถพลิกฟื้นธุรกิจของกลุ่มให้กลับมาเติบโตได้อย่างน่าพอใจ ในช่วงเวลาหลังจากนี้ที่เราเรียกว่า เป็นช่วงปลดล็อคมูลค่าลงทุน กลุ่มดุสิตธานีจะเดินหน้าสร้างสมดุลของรายได้ระยะสั้นและรายได้ระยะยาวตามแผน เพื่อตอกย้ำความมั่นคงและต่อยอดไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต พร้อมๆ กับการเดินหน้าขยายแบรนด์ "ดุสิตธานี" ในอีกหลายๆ พื้นที่ทั่วโลกที่เป็นหมุดหมายใหม่ของเรา" นางศุภจีกล่าว
: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....
NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68
Hooninside
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้
ชื่อหรือรหัสของคุณไม่ถูกต้อง
Please, check your email format before submit.
Please, Enter you password.
Please, Enter minimum 3 character.
Please, Enter minimum 6 character.
กรุณากรอกอีเมล์ที่คุณใช้สมัครสมาชิกแล้วกดส่งเมล์