Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

249

 

SET Index ผันผวนช่วงเช้า ลุ้นรีบาวน์ช่วงบ่าย
กลยุทธ์ Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index คาดแกว่งผันผวน 1190-1220 จุด สภาพแวดล้อมต่างประเทศโทนเป็นลบจากการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. สหรัฐฯออกมาต่ำสุดในรอบ 8 เดือนกดดัน S&P500 ปรับลง 0.5% ด้านปัจจัยในประเทศการรายงานยอดส่งออกเดือน ม.ค. ขยายตัวดี ส่วนประเด็นการเมืองกรณี DSI เลื่อนลงมติคดีฮั้วเลือก สว. เรามองเป็นกลางเนื่องจากไม่ได้ส่งผลต่อการบริหารของรัฐบาลสะดุด สำหรับประเด็นติดตามวันนี้อยู่ที่การประชุม กนง. ซึ่งเราคาดคงดอกเบี้ยที่ 2.25% แต่จะส่งสัญญาณนโยบายการเงินผ่อนคลาย กลยุทธ์ Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว วันนี้เลือก CENTEL และยังชอบ TIDLOR

ส่งออกไทยเดือน ม.ค.ขยายตัว 13.6%YoY ดีกว่าตลาดคาด 7.4%YoY โดยการส่งออกตลาดหลักๆ อย่างสหรัฐฯ จีนและญี่ปุ่นขยายตัวทั้งหมดที่ 22%/23% และ 2%YoY โดยสินค้าที่ส่งออกเด่น คือ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว 45%YoY ยางพารา 45%YoY ผลิตภัณฑ์ยาง 20%YoY ไก่สดแช่แข็ง 12%YoY โดยการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากการเร่งสต๊อคสินค้าเพื่อลดความเสี่ยงจากเรื่องภาษีนำเข้าสหรัฐฯ แต่มีโอกาสที่จะชะลอตัวใน 2H68 สอดรับไปกับมุมมองของกระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายส่งออกปีนี้ขยายตัวในช่วง 2-3%YoY สำหรับหุ้นที่มองเป็นบวกจากตัวเลขส่งออกข้างต้น เช่น กลุ่มยางพารา STA NER และ STGT กลุ่มส่งอาหาร CPF

ประเด็นทางการเมืองในระยะสั้นที่อาจกลับมาอยู่ในจุดสนใจ กรณี DSI เลื่อนลงมติรับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ เป็นวันที่ 6 มี.ค ซึ่งยังคงต้องติดตามผลการลงมติของบอร์ด DSI ต่อไป โดยกรณีที่ DSI มีมติรับพิจารณากระบวนการถัดไป เข้าสู่ขั้นตอนการสืบสวนของ DSI รวมถึงคำตัดสินของศาล หากผลสืบสวน สว. 138 คน ถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกถอดถอน ในกรณีที่จำนวน สว. เหลือต่ำกว่า 100 คน ต้องเลือกใหม่ ซึ่งเรามองว่าเป็นไปได้ยาก เนื่องจาก จำนวน สว. ปัจจุบันมีทั้งหมด 200 คน และ สำรอง อีก 99 คน สำหรับผลต่อตลาดหุ้น เรามองเป็นกลางเนื่องจากไม่ส่งผลทำให้การบริหารงานของรัฐบาลสะดุด ขณะที่หากมีการรับเรื่องของ DSI ถือว่าไม่เหนือความคาดหมาย ส่วนกระแสข่าวระบุถึงสาเหตุมาจากความต้องการสร้างข้อต่อรองกันในพรรคร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยมากกว่าการหักกันทางการเมือง จึงมองเป็น Neutral ต่อตลาดในระยะสั้น


Market Summary
SET Index ปรับลงแรง 29.5 จุด กดดันจากประเด็นต่างประเทศจากความไม่แน่นอนนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เตรียมกลับมาขึ้นภาษีแคนาดา เม็กซิโก ในสัปดาห์หน้า ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีความกังวลต่อเสถียรภาพรัฐบาลจากประเด็น DSI เลื่อนลงมติรับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ โดยเป็นการปรับลงของหุ้นในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม นำโดย กลุ่มสื่อฯ VGI -11% กลุ่มรับเหมาฯ STECON -10% กลุ่ม GULF INTUCH ADVANC ปรับลงในช่วง -2.9% ถึง -3.3% และ TRUE -4% ค้าปลีก CPALL -4.8% ก่อนการประกาศงบ 4Q67 กลุ่มที่บวก COM7 +1.8% งบดีกว่าคาด PR9 +1.3% AOT +0.6%

 

DAILY Stock Pick
CENTEL
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 44.00 บาท
รายงานกำไรสุทธิใน 4Q67 อยู่ที่ 667 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและการกลับรายการด้อยค่า กำไรหลักอยู่ที่ 598 ล้านบาท +113% YoY และ +286% QoQ สูงกว่าที่ตลาดและเราคาด 95% และ 93% จากรายได้จากส่วนแบ่งกำไรที่สูงกว่าคาดจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ The Food Selection Group (ถือหุ้น 51%) และค่าใช้จ่าย pre-opening costs สำหรับโรงแรมในมัลดีฟส์ที่ต่ำกว่าคาด
กำไรสุทธิทั้งปี 67 อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท +40% YoY เราคาดว่า Consensus จะปรับเพิ่มประมาณการกำไรสำหรับปี 68 จาก 1.7 พันล้านบาท ขึ้นอีกอย่างน้อย 15% หากส่วนแบ่งกำไรจาก The Food Selection Group สามารถรักษาระดับสูงได้ตลอดปีนี้ ซึ่งจะนำเสนอเพิ่มเติมหลังการประชุมนักวิเคราะห์ในวันนี้


คำชึ้แจง: บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (MST) และ บมจ. โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา(CENTEL) มีกรรมการบางท่านร่วมกัน ได้แก่ นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ซึ่งทำหน้าที่ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระของ MST และทำหน้าที่ ประธานกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระของ CENTEL อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์นี้ได้ถูกจัดทำขึ้นบนสมมติฐานของฝ่ายวิจัยของ MST อย่างเป็นเอกเทศ

 

KEY FACTOR
ส่งออกไทย เดือน ม.ค. ขยายตัวโดดเด่น +13.6% YoY สูงกว่ากรอบบนที่ Consensus คาดไว้ช่วง +0.9% ถึง +9.2% YoY คิดเป็นมูลค่า 25,277 ล้านเหรียญฯ ส่วน Real Sector หักทองคำ น้ำมัน และอาวุธ ขยายตัว +11.4%YoY โดยตลาดส่งออกหลักขยายตัวโดดเด่นทั้งหมด นำโดย สหรัฐฯ +22.4%, จีน +13.2%, อาเซียน +5.0%, EU +13.8%

1) สินค้าเกษตร หดตัว -2.2% YoY และ -2.17% MoM ส่วน 2) สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว +3.0% YoY แต่ -1.33% MoM สินค้าเด่น ประกอบด้วย ยางพารา (+45.5% YoY, +4.44% MoM) เนื้อไก่ (+12.3% YoY, +17.93% MoM) เนื้อหมู (+14.3%YoY แต่หดตัวแรง -23.4%MoM) อาหารสัตว์เลี้ยง (+13.0%YoY แต่ -2.84%MoM), ทูน่ากระป๋อง (+14.6% YoY แต่ -4% MoM) 3) สินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว +17.0% YoY และ +2.31% MoM โดยมีสินค้าเด่น ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์/อุปกรณ์ +45% แต่ -18.6% MoM, ผลิตภัณฑ์ยาง +19.9% แต่ -3.5% MoM ยานพาหนะและส่วนประกอบ (-13.1% YoY และ -13.4% MoM) เหล็ก (-18.6% YoY และ -4.3% MoM)

อย่างไรก็ตามปัจจัยหนุนระยะสั้นมาจากอุปสงค์ที่เร่งตัวก่อนความไม่แน่นอนสงครามการค้า ผสานกับความเสี่ยงที่ยังคงอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของไทย

EYES ON
[ในสัปดาห์] การรายงานงบฯ 4Q67 โค้งสุดท้าย
26 ก.พ. ประชุม กนง., PCE ของสหรัฐฯ
27 ก.พ. ประชุม GDP 4Q67 สหรัฐฯ (รายงานครั้งที่ 2), ดัชนีความเชื่อมั่น Eurozone

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้