Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

313

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 20 ก.พ.68 ปิด -16.66 จุด อยู่ที่ 1,245.61 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,186 ลบ. ต่างชาติขาย 2,820 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 359 ลบ. สถาบันซื้อ 1,312 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1818 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 2,262 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น KBANK,KKP,KTB,BBL,MINT และยอดขายหุ้น PTTEP,TRUE,SCB,BDMS,GULF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,577 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ OR,HANA,BCH โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 779 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 18,589 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 942 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.01%,S&P500 -0.43%,Nasdaq -0.47% ปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มการเงิน -1.55%, สินค้าฟุ่มเฟือย -1.1% ขณะที่กลุ่มพลังงาน +0.97%, อสังหา +0.7% โดย Walmart -6.5% หลังคาดกำไรปี 68 จะชะลอตัวตามกำลังซื้อผู้บริโภค ส่วนข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 5,000 อยู่ที่ 219,000 สูงกว่าคาด 215,000 ราย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.2% กลุ่มอุตสาหกรรม -2.8% , ยานยนต์ Mercedes- Benz -2.5% หลังคาดกำไรปี 68 ชะลอตัวลง, Renault -4% คาดได้รับกระทบจาก ม.ปล่อยคาร์บอนใหม่ของ EU  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง นำโดย Walmart -6.5% คาดกำไรปีนี้จะชะลอตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลากากรสินค้าไม้แปรรูป, รถยนต์, ยา และเซมิคอนดักเตอร์ ส่งผลให้หุ้นค้าปลีกอื่น เช่น Target -2.0% ส่วนกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยถูกกดดัน หลังความเห็นของคณะกรรมการเฟดใน Fed Minutes ม.ค. ส่วนใหญ่กังวลเงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ระดับสูง และรอประเมินผลกระทบจากนโยบายของ ปธน.ทรัมป์ ค่ำวันนี้ติดตาม US.PMI ภาคผลิต ก.พ. คาด 51.3 & ม.ค. 51.2 , US PMI บริการ ก.พ. คาด 53.0 & ม.ค. 9  และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ก.พ. คาด 67.8 & ม.ค. 71.1 รวมถึงคาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐ 1 ปีข้างหน้าอยู่ที่ 3.3% & ม.ค. 3.2%
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง จากแรงขายกลุ่มอุตสาหกรรม และผู้ผลิตรถยนต์ หลัง ปธน.ทรัมป์ขู่จะเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ยุโรปที่อัตรา 25% โดย EU กำลังหารือลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐหลายรายการ เพื่อไม่ต้องการให้เกิดภาวะสงครามการค้ากับสหรัฐ ดัชนีหุ้นยุโรปยังถูกกดดันจาก Euro Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.539% เนื่องคาดการณ์รัฐบาลยุโรปต้องกู้ยืมเงินเพิ่ม สำหรับใช้ในงบประมาณด้านกลาโหม ค่ำวันนี้ติดตามข้อมูล Euro PMI ภาคผลิต ก.พ. คาด 46.9 & ม.ค. 46.6 และ Euro PMI บริการ ก.พ. คาด 51.5 & ม.ค. 51.3
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ -1.24% หลังสหรัฐเผยเตรียมปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25 % ตั้งแต่ เม.ย. ส่งผลลบต่อกลุ่มยานยนต์ญี่ปุ่น กอปรค่าเงินเยนแข็งค่าอยู่ที่ 149.84 เยน/ดอลลาร์ กดดันกลุ่มส่งออกของญี่ปุ่น ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้วานนี้ -0.02% หลัง ธ.กลางจีนได้คงดอกเบี้ย LPR 1 ปี, 5 ปี ไว้ที่ 3.1% และ 3.6% ตามลำดับ เช้าวันนิ้รายงาน CPI ญี่ปุ่น ม.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.0% & ธ.ค. 3.6% YoY เป็นแรงกดดันให้ BOJ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ  
  • ดัชนี SET วานนี้ปิด -1.32% ปริมาณการซื้อขาย 5.6 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 2,820 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 359 ลบ. สถาบันซื้อ 1,362 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,818 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลง หลังรายงาน Fed Mintues ม.ค. ชี้เงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้เพียง 1 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ยืนอยู่ที่ 4.5% และ Fund Flow ยังชะลอการลงทุนในตลาดอาเซียน กอปรกังวลต่อ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของ ปธน.ทรัมป์ ที่จะประกาศในวันที่ 2 เม.ย. นี้ อาจทำให้ภาวะการค้าโลกชะลอตัว โดยวานนี้กลุ่ม ICT -4.24% และโรงไฟฟ้า -2.98% หลัง INTUCH, GULF, ADVANC ถูกแรงขายปรับพอร์ต เนื่องจากอยู่ระหว่างรอการควบรวมเป็นบริษัท New Co. ขณะที่กลุ่ม Domestic Play เช่น ประกันภัย, ขนส่ง, ธนาคาร และค้าปลีก ปรับขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก ม.กีดกันการค้า กอปรรายงานกำไร Q4/67 อยู่ในเกณฑ์ดี โดยกลุ่มธนาคารมีการปรับเพิ่มอัตราจ่ายเงินปันผล ส่งผลให้ Dividend Yield สูง ส่วนรายงานงบวานนี้ TRUE มีผลขาดทุน Q4/67 -7.5 พัน ลบ. เป็นผลจากรายการพิเศษจำนวน 1.1 หมื่น ลบ. ส่งผลให้ปี 67 TRUE ยังมีผลขาดทุน -1.09 หมื่น ลบ. ลดลงจากปี 66 ขาดทุน -1.45 หมื่น ลบ. เป็นผลจากการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์

 Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,230 – 1,240 แนวต้าน 1,260 คาดดัชนีทรงตัวรอรายงานกำไร บจ.Q/67 และรอผลการประชุม กนง. 26 ก.พ. แนะนำพักเงินในกลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก CPAXT,BJC,DOHOME/ ธนาคาร KTB,BBL,KKP ในช่วงประกาศจ่ายเงินปัผนล /ไฟแนนท์ MTC,TIDLOR และกลุ่มที่รายงานงบ Q4/67 อยู่ในเกณฑ์ดี เช่น SNNP,SISB,SAMART,SAMTEL
  • MC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 12.90 บาท) รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q67/68 ที่ 305 ล้านบาท (+130%QoQ, +8%YoY) หนุนจากยอดขาย online ผ่านช่องทาง tiktok ที่เติบโตดี ชดเชยการขายหน้าร้านที่ลดลง ส่งผลให้รายได้เติบโต +59%QoQ, +3%YoY อยู่ที่ 3 พันล้านบาท และ GPM อยู่ที่ 65% สำหรับแนวโน้มงวด 3Q67/68 (ม.ค.-มี.ค.) แนวโน้มยอดขายช่วง 2 เดือนแรกเติบโตได้ราว 5% หนุนจากมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายของรัฐฯ รวมถึงแนวโน้ม GPM และ SG&A ที่ยังทำได้ดีต่อเนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายและการออกโปรโมชั่นที่ลดลง โดยบริษัทวางกลยุทธ์ออกสินค้ากลุ่ม non-denim และสินค้ากลุ่มสุภาพสตรีมากขึ้น ทั้งนี้อิงจาก Consensus ตลาดคาดกำไร FY67/68 ที่ 776 ล้านบาท +9%YoY โดยประกาศเงินจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.55 บาท/หุ้น คิดเป็น Yield 4.9% ขึ้น XD 27 ก.พ.68
  • TMAN* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 70 บาท) สินค้าที่ออกมาใหม่ในปี67 เช่น เม็ดอมบรรเทาอาการเจ็บคอแบรนด์Propoliz ขนาดใหม่, ยาน้ำรักษาอาการภูมิแพ้สำหรับเด็กแบรนด์ Kalidin ได้รับการตอบรับที่ดี สะท้อนออกมาในรายได้ 9M67 ที่ +15%YoY ขณะที่ในส่วนของ 4Q67 - 1Q68 คาดว่าการดำเนินงานปกติยังจะอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง หนุนด้วยการเปิดตัวแบรนด์ "Rejunae" นวัตกรรมฟิลเลอร์และไหมร้อยหน้าจากเกาหลี, ฝุ่น PM 2.5 ที่สูงส่งผลให้มี Demand ยารักษาภูมิแพ้, และการแจกเงิน 1 หมื่นบาทให้กับผู้สูงอายุ โดยทาง TMAN* เอง วางเป้ารายได้ปี68 +10-15%YoY

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) สัญญาน้ำมัน WTI มี.ค +$0.32 อยู่ที่ $72.57/บาร์เรล , Brent เม.ย. +$0.44 อยู่ที่ $76.48/บาร์เรล หลัง EIA จะรายงานสต็อคน้ำมันเบนซินสหรัฐลดลง 151,000 บาร์เรล และสต็อคน้ำมันกลั่นลดลง 2.0 ล.บาร์เรล โดยราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุน จากเหตุโดรนโจมตีท่อส่งน้ำมันของรัสเซีย

 

Gold Update(+) สัญญาทองคำ Comex เม.ย. +$20.0 อยู่ที่ $2,956.10/ออนซ์ ได้แรงหนุนหลัง Dollar Index อ่อนค่า -0.75% อยู่ที่ 106.373 กอปรทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ในช่วงมีความไม่แน่นอนต่อนโยบายการค้าของ ปธน.ทรัมป์

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -104.62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -83.86 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -10.39 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -10.37 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 33.53 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.506 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +37 จุด อยู่ที่ 941

(+) BitCoinเช้านี้ +1.49% อยู่ที่ 98,184 ดอลลาร์สหรัฐ

(-)PMI ภาคการผลิตญี่ปุ่น ก.พ. อยู่ที่ 48.9 & คาด 49.0 & ม.ค. 48.7

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

17 ก.พ.     สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 4/67

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

                ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์, รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

                สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม  

                สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

21 ก.พ.     US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (ม.ค.)

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ก.พ.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ก.พ.) 

24 ก.พ.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ม.ค.)

25 ก.พ.     US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (ก.พ.)

26 ก.พ.     US ยอดขายบ้านใหม่ (ม.ค.)

27 ก.พ.     US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

28 ก.พ.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (ม.ค.)

01 มี.ค.     CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (ก.พ.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,WHA,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio January 2025: CPALL, SYNEX*, CRC, WHA, SHR*

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ยืน 1200 จุด By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ในท้องทุ่งสีเขียว หุ้นไทยบวกยืน 1200 จุดได้อีกครั้ง ...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้