ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook
แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
คุยกันเรื่องเมกะเทรนด์: การฟื้นคืนชีพของหุ้นเทคโนโลยีจีน
Key Takeaways:
ตั้งแต่ต้นปี 2025 หุ้นเทคโนโลยีจีนกลับมาน่าสนใจอีกครั้งจากปัจจัยหนุนสำคัญ ได้แก่ การจุดประกายของ AI DeepSeek และนโยบายภาครัฐที่เน้นนวัตกรรม โดย DeepSeek-R1 สร้างแรงสั่นสะเทือนคล้าย Space Race ในอดีต แสดงให้เห็นว่าจีนสามารถพัฒนา LLMs ได้โดยไม่พึ่งพาชิปประสิทธิภาพสูงของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน AI Race ระหว่างสองมหาอำนาจกำลังเร่งตัว
นอกจากนี้ หุ้นเทคโนโลยีจีนยังได้รับแรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายของรัฐบาล หลังจากมาตรการ “Common Prosperity” กดดันตลาดและสร้างความไม่แน่นอน รัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมตั้งแต่ปี 2023 ตั้งแต่การปลดล็อก Didi จนถึงการปิดคดี Ant Group ในปี 2024 พร้อมออกมาตรการกระตุ้นภาคเอกชน เช่น การสนับสนุน AI และผ่อนคลายข้อจำกัดด้านข้อมูล ล่าสุดประธานาธิบดี สี จิ้นผิง พบปะผู้นำธุรกิจเอกชน ตอกย้ำแนวทางใหม่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ท่ามกลางแรงกดดันจากวิกฤติภายในและการแข่งขันด้านเทคโนโลยีกับสหรัฐฯ
นับตั้งแต่ปี 2022 ราคาหุ้นเทคโนโลยีจีนยังคงตามหลังหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ โดยดัชนี FTSE China Tech ให้ผลตอบแทนติดลบ ขณะที่ NASDAQ100 ปรับตัวขึ้นถึง 36% อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน ทั้งอัตราการเติบโตของกำไรและระดับ Valuation ที่ต่ำกว่า แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการลดช่องว่างของผลตอบแทนระหว่างสองตลาด ซึ่งสะท้อนผ่านการที่ Forward P/E ของหุ้นเทคโนโลยีจีนต่ำกว่า NASDAQ100 ถึง 29%
เราแนะนำการลงทุนใน CNTECH01 ซึ่งเป็น DR หุ้นเทคโนโลยีจีนที่ลิสต์ในตลาดหุ้นไทย สำหรับ ETF แนะนำกองทุน Invesco China Technology ETF (CQQQ) และ KraneShares Hang Seng TECH Index ETF (KTEC)
รายละเอียด:
เรามองว่าหุ้นเทคโนโลยีจีนจะเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นมา โดยมีปัจจัยหนุนสามประการ ได้แก่ การจุดประกายจากสตาร์ทอัพ AI DeepSeek การกลับทิศนโยบายของรัฐบาลจีนที่มุ่งเน้นการเติบโตด้วยนวัตกรรม และส่วนต่างของมูลค่าหุ้น (Valuation) ที่ยังต่ำกว่าหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ
AI Race...DeepSeek จุดชนวนการแข่งขัน AI ระดับโลก:
หากย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ "Space Race" คือการแข่งขันด้านอวกาศระหว่างสหรัฐฯ และโซเวียต และวันนี้ เรากำลังเห็น "AI Race" ระหว่างจีนและสหรัฐฯ เช่นกัน จุดเปลี่ยนสำคัญในครั้งนี้มาจาก DeepSeek-R1 ที่ทำให้ทั้งวงการเทคโนโลยีต้องจับตา เนื่องจากเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าจีนสามารถพัฒนา Large Language Models (LLMs) ได้โดย ไม่ต้องพึ่งพาชิปชั้นสูงของสหรัฐฯที่เคยถูกมองว่าเป็นอุปสรรคสำคัญ การเปิดตัวนี้สร้างความสั่นสะเทือนคล้ายกับช่วงที่โซเวียตส่งดาวเทียม "สปุตนิก 1" ขึ้นสู่อวกาศ นอกเหนือจาก DeepSeek แล้ว จีนยังมีบริษัทเทคโนโลยีที่พัฒนาโมเดล AI ระดับโลก เช่น Alibaba (Qwen 2.5-Max), Baidu (Ernie Bot), ByteDance (Doubao 1.5 Pro) และ Moonshot AI (Kimi K1.5) ซึ่งทั้งหมดกำลังช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรม AI ของจีนให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
นโยบายภาครัฐจีนเปลี่ยนทิศ...จากควบคุมสู่การสนับสนุน:
ไม่เพียงแค่ AI ที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก นโยบายของรัฐบาลจีนเองก็เริ่มส่งสัญญาณเชิงบวก ในอดีต มาตรการ "Common Prosperity" เคยสร้างความไม่แน่นอนให้กับนักลงทุน จนทำให้หุ้นเทคโนโลยีจีนร่วงลงอย่างหนัก แต่ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา จีนเริ่มเปลี่ยนทิศทางจากการ "ควบคุม" มาเป็น "สนับสนุน" ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การปลดล็อก Didi ให้กลับมาเปิดรับผู้ใช้ใหม่ การปิดคดี Ant Group ที่คาราคาซังมานาน รวมถึงมาตรการส่งเสริมภาคเอกชนที่รัฐบาลประกาศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สี จิ้นผิง ได้พบปะผู้นำธุรกิจเทคโนโลยีระดับประเทศ เช่น Alibaba, Tencent, Xiaomi และ Huawei เพื่อยืนยันว่า ภาคเอกชนจะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ารัฐบาลต้องการให้ภาคธุรกิจกลับมาเติบโตอีกครั้ง
Valuation ยังต่ำ เมื่อเทียบกับหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ:
ตั้งแต่ปี 2022 หุ้นเทคจีนตามหลังหุ้นเทคสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ ดัชนี FTSE China Tech ปรับตัวลง ขณะที่ NASDAQ100 กลับพุ่งขึ้นกว่า 36% แต่หากมองในแง่ของมูลค่า Forward P/E ของหุ้นเทคจีนต่ำกว่าหุ้น NASDAQ100 ถึง 29% ขณะที่อัตราการเติบโตของกำไรเมื่อเทียบกับการปรับประมาณการ (Composite Earnings Growth & Revision) อยู่ในระดับที่ดีกว่าสหรัฐฯ นั่นหมายความว่า มีโอกาสที่ราคาหุ้นเทคจีนจะปรับตัวขึ้น เพื่อปิดช่องว่างของผลตอบแทนในระยะถัดไป
เราแนะนำการลงทุนใน CNTECH01 ซึ่งเป็น DR หุ้นเทคโนโลยีจีนที่ลิสต์ในตลาดหุ้นไทย สำหรับ ETF แนะนำกองทุน Invesco China Technology ETF (CQQQ) และ KraneShares Hang Seng TECH Index ETF (KTEC)
สรุปภาพตลาดวานนี้
เกิดการหมุนหุ้นต่อวานนี้ เงินหมุนเข้าในกลุ่มธนาคาร BBL SCB TTB KBANK KTB BAY สื่อสาร ADVANC TRUE และหุ้นขึ้นต่อ MINT CPAXT มีหุ้นกลับมารีบาวน์ อย่าง CPF VGI เป็นต้น ส่วนแรงขายออกมาจาก GULF-INTUCH (ขึ้น XD) CRC CPALL CPN โรงไฟฟ้า GPSC-BGRIM โรงพยาบาล BDMS-BH
แนวโน้มตลาดวันนี้
แบงก์ปันผลสูงเกินคาด
กลุ่มเด่นเมื่อวานนี้ ได้แก่ หุ้นไฟแนนซ์ตัวกลางเล็ก เช่น NCAP THANI MICRO AMANAH SCAP แต่ไฟแนนซ์ใหญ่ เช่น SAWAD MTC TIDLOR พัก ส่วนหนึ่งของเหตุผลในการไล่ราคาหุ้น หลายคนอาจจับจ้องไปที่ สัมภาษณ์นายกฯ (อีกครั้ง) ที่เรียกร้องแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย เพื่อช่วยหนุนให้เกิดการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ส่วนหุ้นแบงก์บวกนำตลาดจาก ความคาดหวังเรื่องเงินปันผลที่สูงขึ้น หลังเห็น SCB จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 8.44 บาท (สูงกว่าคาดมาก)
พบแรงซื้อยังกระจายตัวหุ้นได้ดีต่อเนื่อง และอีกเรื่องคือ “เงินปันผล” ที่ช่วยหนุนราคาหุ้นรายตัว หลังเห็นปันผลที่ดีกว่าคาด (SCB) อิงตามงบการเงินที่ดีกว่าคาด ขณะที่หุ้นที่รายงานกำไรดีกว่าคาด เช่น PR9 หนุนหุ้น รพ.กลาง-เล็ก บวกตาม เช่น BCH
ดังที่เราจับประเด็นการลงทุนช่วงนี้ เราเน้นไปที่งบและเงินปันผลของหุ้นที่ราคาลงมาให้ส่วนลดสูง และยิ่งหากมีประเด็นหนุน Events play เช่น นายกขอให้ลดดอกเบี้ย (หนุนหุ้นไฟแนนซ์), ไข้หวัดนกระบาดในสหรัฐ (CPF GFPT หวังส่งออกเพิ่ม), แก้เกณฑ์ LTV หนุนหุ้นอสังหาฯบวกยกแผง ฯลฯ สะท้อนให้เห็นว่าแรงซื้อคืน (Cover short หุ้นรายตัว) บวกกับแรงช้อนหุ้น Deep discount ยังดำเนินต่อไปอีกระยะ
กลยุทธ์การลงทุน
เลือกสะสมหุ้นรายตัว (Hold ระยะยาวหน่อย) จากเกณฑ์
1) ราคาหุ้นทรงตัวได้ดี Outperform ในเชิงเทคนิคคอล ไม่ Overbought
2) ความถูกของราคาหุ้นเมื่อเทียบมูลค่าทางบัญชี (PBV) และเทียบกับ Bands
3) แนวโน้มผลการดำเนินงานระยะสั้น ดูแล้วไม่น่าจะสร้างความผิดหวัง
4) โอกาสที่กำไรระยะสั้นจะดีกว่าที่คิด เพราะมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว เช่น มาตรการช้อปช่วยชาติ แจกเงินหมื่น ในช่วงไตรมาสแรก หนุนกำไรโตต่อเนื่อง 4Q24-1Q25
5) มีปันผลระหว่างกาล
วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET ปิดบวก แม้จะถูกกดจาก INTUCH & GULF ประกาศจ่ายปันผลขึ้นเครื่องหมาย XD มีผล impact ฉุดดัชนี -3.1 จุด แนะจับตาแนวรับลูกใหญ่ support 15 yr. (ผ่านช่วงวิกฤต Subprime 2008 & Covid 2020) ทำให้ SET ต้องสู้บริเวณโซนรับที่ 1,250 จุด นอกจากนี้ RSI month เข้าใกล้เขต oversold และสังเกตเห็น divergence เกิดขึ้นแล้ว! เตือนสัญญาณกลับตัวมีโอกาสเกิดขึ้นในไม่ช้านี้...ขณะที่โครงสร้าง daily & weekly อยู่ในภาวะขายมากเกินไป ทำให้เราประเมิน downside risk ลงไม่ลึก!
สรุป: แนวโน้ม SET ลุ้น ฟื้นตัวกลับขึ้นไปไม่ยาก ด่านแรก 1,275 จุด….มีลุ้นทะลุผ่านด่านสอง 1,300 จุด ส่วนโซนรับ 1250 สู้ได้ละครับ
What to watch
รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนก.พ. นี้ หรืออย่างช้าในช่วงต้นเดือนมี.ค.นี้ จะนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อพิจารณาโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 สำหรับบุคคลทั่วไปที่ได้ลงทะเบียนแล้ว
MSCI Rebalance: หุ้นออกจาก Standard index: PTTGC TOP หุ้นเข้า MSCI Small Cap: GPSC SCGP PTTGC TOP และหุ้นออกจาก Small Cap: BSRC DCC ERW GFPT KAMART PSG PSH SAPPE STECON THG TIPH
คลังจะเร่งดำเนินการในการจัดตั้งกองทุน Thai ESG กองที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 1 ปีนี้ โดยวงเงินจะอยู่ที่ราว 180,000 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนเงินในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ครบกำหนดอายุไปแล้ว เบื้องต้นอยากให้เป็นการลงทุนในประเทศเป็นหลัก และรูปแบบการลงทุนก็อาจจะแตกต่างกับ Thai ESG กองแรก
สภาพัฒน์ เผย GDP ไตรมาส 4/67 โต 3.2% จากตลาดคาดโต 3.7-4.0%
หุ้นแนะนำวันนี้
BCH BCH คาดว่าจะรายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 191 ล้านบาท ลดลง 55% YoY และ 51% QoQ (สะท้อนรายการสำรองโรคต้นทุนสูง สปส.จบในไตรมาสนี้) (แนวรับ 15.3 ต้าน 16.3 ตัดขาดทุน 15)
รายงานผลประกอบการวันนี้
BJC
เบอร์ลี่ ยุคเกอร์
(0) BJC รายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 1,645 ล้านบาท หักรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 1,480 ล้านบาท ลดลง 12% YoY แต่เพิ่มขึ้น 60% QoQ เป็นไปตามที่เราคาด แต่ต่ำกว่าตลาดคาด 10% ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.56 บาท Div. yield 2.5% ขึ้น XD วันที่ 29 เม.ย. แนวโน้ม 1Q25 คาดกำไรหลักเติบโต YoY จาก SSSG ยังบวก 2-4% ช่วงตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน แต่ลดลง QoQ ตามฤดูกาล เราคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 26 บาท
DOHOME
ดูโฮม
(0) DOHOME รายงานกำไรสุทธิ/หลัก 4Q24 ที่ 160 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหลักเพิ่มขึ้น 11% YoY และ 108% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด โดยนอกเหนือจาก SSSG 1.5% แล้ว การควบคุมค่าใช้จ่ายยังช่วยหนุนกำไรได้ดี ทั้งนี้ ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.053 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 0.7% ขึ้น XD 4 มี.ค. ส่วนแนวโน้ม 1Q25 คาดจะเติบโตต่อ YoY, QoQ โดยเดือน ม.ค.-กลาง ก.พ. ยังเห็น SSSG ที่ 2-3% และ GM 17-18% เป็นตัวหนุน อย่างไรก็ตาม เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2025-26 ลง 8% และ 10% ตามลำดับ สะท้อนอุตสาหกรรมอสังหาฯ ที่ยังอ่อนแอ ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 9.10 บาท (จาก 10 บาท) แต่ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ (จากถือ) เพราะ Valuation ลงมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมากแล้ว
SC
เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น
(-) SC รายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 486 ล้านบาท หักรายการพิเศษ กําไรที่เกิดจากการสูญเสียการควบคุมในบริษัทย่อยเป็นการร่วมค้าจํานวน 74 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 412 ล้านบาท ลดลง 52% YoY และ 19% QoQ ต่ำกว่าที่เราคาด 20% และต่ำกว่าตลาดคาด 23% ด้วย GM ที่ต่ำกว่าสุดในรอบ 10 ปี (ต่ำกว่าช่วงโควิด-19) ทั้งนี้ SC ประกาศจ่ายปันผลจำนวน 0.11 บาท/หุ้น div. yield ที่ 4.1% XD 2 พ.ค. ในเบื้องต้นมองว่าแนวโน้มกำไรหลัก 1Q25 จะทรงตัว YoY (ฐานที่ต่ำใน 1Q24) แต่ลดลงอย่างชัดเจน QoQ
PR9
โรงพยาบาลพระรามเก้า
(0) PR9 รายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 207 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY และทรงตัว QoQ กำไรเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด PR9 ประกาศจ่ายปันผล 0.25 บาท/หุ้น คิดเป็น div yield ที่ 1.1% XD 07 พ.ค. แนวโน้มกำไรหลัก 1Q25 จะเติบโตแข็งแกร่ง YoY แต่ลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท
SPRC
สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง
(-) SPRC รายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 162 ล้านบาท หักรายการพิเศษกำไรหลักอยู่ที่ 208 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน YoY และเพิ่มขึ้น 282% QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงกว่าคาดมาก ทั้งนี้ SPRC ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.15 บาท คิดเป็น Div. yield 2.8% ขึ้น XD วันที่ 6 มี.ค. ส่วนแนวโน้ม 1Q25 คาดกำไรลดลง YoY และ QoQ ตามค่าการกลั่นที่ลดลง เรายังแนะนำ Wait-and-see
สรุปประเด็นจาก Quick take
IRPC
ไออาร์พีซี
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
ส่วนต่างราคาปิโตรเคมียังคงมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง กดดันจากภาวะอุปทานล้นตลาด มีความเสี่ยงที่อุปสงค์อาจอ่อนแอกว่าคาดหากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศอื่นๆ
View from fundamental: แนวโน้มผลการดำเนินงานของ IRPC ยังคงอ่อนแอ เราจึงยังไม่เห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น ยังคงคำแนะนำ ขาย
BTS
บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
คาดจะได้รับชำระคืนหนี้ O&M จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาทจาก กทม. ประมาณเดือน มี.ค.-เม.ย. นี้ ส่วนที่เหลืออีก ~1.8 หมื่นล้านบาทน่าจะเป็นการผ่อนชำระ
View from fundamental: แนวโน้มกำไรของ BTS ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้ายังไม่น่าตื่นเต้น เราจึงยังไม่เห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น แต่โอกาสในการลงทุนในโครงการใหม่ๆจะช่วยหนุนการเติบโตในระยะยาว เรายังคงคำแนะนำ ถือ
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน