Today’s NEWS FEED

News Feed

PTTGC เผยปี 67 รายได้รวม 604,045 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 2% เหตุรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้นที่ปรับตัวลดลง -ผลงานกลุ่มผลิตภัณฑ์โรงกลั่นอ่อนตัวลงตาม GRM

980

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 17 กุมภาพันธ์ 2568)------บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) PTTGC เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 132,372 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 11จากไตรมาส 3/2567และลดลงร้อยละ 18 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้นที่ปรับตัวลดลงเนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปปรับลดลง สอดคล้องกับราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบโลกที่ปรับลง และกลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ที่ราคาปรับตัวลดลงในไตรมาสนี้เป็นสำคัญ นอกจากนี้สถานการณ์ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมียังคงมีความท้าทายจากปัจจัยกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวทำให้ราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำแม้ว่าจะมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศจีน

สำหรับไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ รายงาน Adjusted EBITDA อยู่ที่ 2,663 ล้านบาทปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าร้อยละ 68 โดยหลักจากธุรกิจปิโตรเคมีโดยรวมยังคงอยู่ในภาวะอ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความกดดันจากปัจจัยทั้งในด้านภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ปลายทางของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และการเริ่มดำเนินการของกำลังการผลิตใหม่ในตลาดโดยเฉพาะจากประเทศจีน ส่งผลให้ราคาขายเม็ดพลาสติกโพลิเอทีลีนเฉลี่ยปรับตัวลดลง และส่วนต่างราคากลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ปรับตัวลดลง สำหรับธุรกิจโรงกลั่นมีค่าการกลั่น (GRM) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยมีGRM ในไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 3.7 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษลดลงจากกลุ่มบริษัท Vencorex และการปรับลดตามฤดูกาลของธุรกิจอื่นๆในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาว โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและอเมริกา ทำให้ปริมาณการขายของบริษัท allnex ปรับลดลง นอกจากนี้ในไตรมาส4/2567 บริษัทฯยังรับรู้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปรับราคาสัญญาซื้อวัตถุดิบอีเทน จากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ย้อนหลังตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับเพิ่มขึ้น

บริษัทฯ รับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ ได้แก่ ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน (Stock loss) และกลับรายการการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (NRV Reversal) รวมเป็นกำไร 941 ล้านบาท กำไรจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยงด้านราคา253 ล้านบาท ขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิผลกำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงินรวมเป็นขาดทุน 1,033 ล้านบาท บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในไตรมาสนี้จำนวน 725 ล้านบาท จากผลการด าเนินงานของบริษัทร่วมทุนในธุรกิจปิโตรเคมียังคงอ่อนตัว โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโพลิโพรพิลีนเป็นหลัก อีกทั้ง
ในไตรมาสนี้สืบเนื่องจากยุทธศาสตร์การบริหารจัดการ Portfolio ของธุรกิจให้เข้มแข็ง (Portfolio Transformation) ที่ได้รับความท้าทายจากสภาวะการแข่งขันอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัทฯ ได้สื่อสารเรื่องการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มบริษัท Vencorexและบริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด (PTTAC) มาโดยลำดับ ทั้งนี้บริษัทฯได้มีการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ไปในไตรมาส 3 ปี 2567โดยในไตรมาส 4 ปี 2567 บริษัทฯ รับรู้ประมาณการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามความคืบหน้าโดยมีประมาณการหนี้สินของค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของกลุ่มบริษัท Vencorex จำนวน 1,455 ล้านบาท และเมื่อวันที่15 พฤศจิกายน 2567 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท PTTAC ได้มีมติอนุมัติแผนยุติการดำเนินกิจการของ PTTAC ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งประมาณการหนี้สินของค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของ PTTAC จำนวน 2,836 ล้านบาท เมื่อรวมผลกระทบดังกล่าวทำให้บริษัทฯ รายงานผลขาดทุนสุทธิรวม 11,738 ล้านบาทในไตรมาส 4/2567

 

สำหรับผลประกอบการในปี2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 604,045 ล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ 2โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้นที่ปรับตัวลดลงจากราคาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปและกลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ที่ลดลง แม้ว่าปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นกลางเนื่องจากในปี 2566 มีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงโมโนเอทิลีนไกลคอลในช่วงครึ่งปีแรก และโรงงานฟี นอลหน่วยที่2

 

โดยในภาพรวมในปี 2567 บริษัทฯ มี Adjusted EBITDA อยู่ที่ 31,766 ล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ 17 จากปีก่อนหน้า เนื่องจากผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์โรงกลั่นที่อ่อนตัวลงตาม GRM โดยส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลกับน้ำมันดิบปรับลดลงเป็นหลัก และผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมียังคงมีปัจจัยกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวทำให้อุปสงค์ยังคงชะลอตัวและอุปทานของภาคปิโตรเคมีที่เข้ามาในระหว่างปีนอกจากนี้บริษัทฯ รับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ ได้แก่ ผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน (Stock loss) และรายการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (NRV) รวม 2,457 ล้านบาท กำไรทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนและกำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงินรวม 383 ล้านบาท บริษัทฯมีผลขาดทุนจากเงินลงทุนที่รับรู้ในปีนี้จำนวน 1,462 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเนื่องจากผลประกอบการของธุรกิจปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลงในปีนี้โดยเฉพาะธุรกิจโพลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) ที่ปรับลดลงตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ PVC เป็นหลัก

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

NER รับรางวัล CAC Change Agent Award 2025

NER รับรางวัล CAC Change Agent Award 2025

NTF เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก

NTF เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้