AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ฟื้นตัว
หุ้นที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี
Market Strategy
SET Index คาดฟื้นตัวตามกรอบ 1280-1300 จุด จากความกังวลเรื่องการตั้งกำแพงภาษีเท่าเทียมสหรัฐฯกับประเทศต่างๆที่เลื่อนระยะเวลาออกไปเป็นภายในเดือน เม.ย. หนุนค่าเงินบาทแข็งค่าบวกต่อ Flow ต่างชาติ ขณะที่ปัจจัยในประเทศแรงขาย LTF เริ่มเบาลง เลือก BA เป็นหุ้นเด่นจากกำไร 4Q67 Turnaround และเร่งตัวต่อใน 1Q68

ประเด็นเรื่องการตั้งกำแพงภาษีสหรัฐฯดูผ่อนคลายลง ชั่วคราว จากคุณทรัมป์เผยให้คณะทำงานพิจารณาภาษีเท่าเทียม (Reciprocal Tariffs) ซึ่งจะเสร็จภายในเดือน เม.ย. 68 ซึ่งถือว่าเลื่อนไปจากเดิมที่หลายฝ่ายเคยกังวลว่าจะเกิดในสัปดาห์นี้ และส่วนหนึ่งถูกมองเป็นการเปิดช่องเจรจาข้อเสนอของประเทศต่างๆ สำหรับบ้านเราอิง Bloomberg เก็บภาษีเฉลี่ยมากกว่าสหรัฐฯอยู่ในช่วง 5-10% จึงน่าจะเป็นจังหวะที่ดีสำหรับเร่งเจรจากับสหรัฐฯทั้งนี้หากเทียบกับคู่แข่งใน ASEAN มาเลเซียและฟิลิปปินส์ภาษีเก็บสูงกว่าสหรัฐฯ 2-5%,อินโดนิเซียและเวียดนามเก็บสูงกว่าสหรัฐฯ 5-10% ด้านการตอบสนองของสินทรัพย์ต่างๆ
วานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นเฉลี่ยกว่า 1% U.S. Bond Yield 10 ปี ลดลง 9 bps ค่าเงิน Dollar Index อ่อนค่า -0.8% สวนทางเงินบาทที่แข็งค่ามาที่ 33.63 บาท/usd ซึ่งเป็นบวกต่อ SET Index วันนี้ โดยหุ้นที่ตอบสนองเชิงบวก คือ กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ (CCET KCE HANA) กลุ่มเกษตรฯ (STA NER) และบวกทางอ้อมต่อหุ้นกลุ่ม Yield Sensitive กลุ่มไฟแนนซ์ (TIDLOR SAK MTC)

ด้านปัจจัยในประเทศประเด็นเรื่องการลดแรงขาย LTF เดิมที่คลังกำลังศึกษาแนวทางปรับปรุงเกณฑ์การโอนย้ายกองทุน LTF เข้ามาลงทุน TESG ใหม่ โดยพิจารณาสิทธิประโยชน์ต่างๆ ควบคู่ไปกับนโยบายการลงทุนของ TESG ที่ลงทุนในหุ้นไทยมากขึ้น รวมถึงระยะเวลาถือครอง ซึ่ง รมว.คลังเผยจะมีความชัดเจนไม่เกิน ก.ย.68 ในระยะสั้นเราเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากแรงขายของ LTF ที่วานนี้เบาลงเหลือ 648 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 5 วันทำการและต่ำกว่าช่วงต้นสัปดาห์ที่ขายสุทธิ 926 ล้านบาท เราประเมินหากความชัดเจนยิ่งเกิดขึ้นได้เร็วและสิทธิประโยชน์จูงใจกับผู้ถือหน่วย จะช่วยลดแรงขาย LTF ในระยะยาวที่ปัจจุบัน NAV อยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท ได้อย่างมีนัยฯ สำคัญ

Market Summary
SET Index ปรับขึ้นบวกเกือบ 15 จุดในช่วงแรก ก่อนระหว่างวัน มีแรงขายปิดลดช่วงบวก เหลือ 0.14 จุด หุ้นกลุ่มบวก นำตลาด ICT จาก ADVANC +7% จากงบที่ดีกว่าคาด นำไปสู่การ Upgrade ราคาเป้าหมายและเป็น Sentiment บวก GULF +2.2% INTUCH 0.8% กลุ่มอิเล็คฯ DELTA +1.3% HANA +1.8% หุ้นที่คัดเข้าคำนวณใน MSCI Global Small Cap GPSC +2.9% สวนทางหุ้นที่หลุด MSCI Global Standard PTTGC -5.9% TOP -0.4% กลุ่มตกแต่งบ้าน GLOBAL -13% หลัง SSSG 1QTD ยังติดลบจากการอ่อนตัวของภาคก่อสร้างเป็น Sentiment ลบต่อเนื่องของหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกันอย่าง DOHOME -9.6% และ HMPRO -5.3%

DAILY Stock Pick
BA
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 28.50 บาท
เราคาดว่า BA จะมีกำไรปกติในไตรมาส 4Q67 ที่ 301 ล้านบาท แม้ลดลง -67% QoQ แต่มาจากปัจจัยทางฤดูกาลที่เป็นช่วง Low Season ของเกาะสมุย แต่ YoY พลิกจากขาดทุน 351 ล้านบาทใน 4Q66 จากรายได้ขยายตัว +11% YoY โดยแรงหนุนจากทั้งค่าโดยสารเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 3%YoY และจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 7%YoY อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มขยายตัว YoY จากผลดีของ operating leverage และราคาน้ำมันที่ลดลง นอกจากนี้รายได้จากเงินลงทุนในบริษัทร่วม (equity income) คาดว่าจะขยายตัวแข็งแกร่ง YoY เป็น 195 ล้านบาท จากผลประกอบการที่โดดเด่นของธุรกิจขนส่งสินค้า
ผลการดำเนินงาน 1Q68 คาดโตดีต่อ QoQ และ YoY เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของเกาะสมุย หนุน Load Factor ของ BA ซึ่งเราคาดว่านักท่องเที่ยวขาเข้าสมุยจะเพิ่มขึ้น 15% YoY ด้าน Valuation ไม่แพงซื้อขายที่ PER68E 10.1 เท่า พร้อมปันผลปี 68 ที่สูงที่ระดับ 7.4% ต่อปี

KEY FACTOR
ทรัมป์ลงนามเพื่อตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศในอัตราเดียวกับที่ถูกเรียกเก็บสินค้าจากสหรัฐฯ โดยจะกรอบระยะน่าจะเริ่มใช้ในช่วง 1 เม.ย. ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่นานกว่าคาด เปิดโอกาสให้แต่ละประเทศเข้าสู่การเจรจา ทั้งนี้ ตลาดการเงินสะท้อนความกังวลของเงินเฟ้อที่อาจจะกลับมาเร่งตัวในระยะยาว 1) อัตราผลตอบแทนสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ทรงตัวบริเวณ 4.53% 2) Dollar index ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุด YTD แตะ 107 จุด
ดัชนี PPI เดือน ม.ค. ของสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้น +0.4% MoM จาก +0.2% MoM และสูงกว่าคาดที่ +0.3% MoM แต่อย่างไรก็ตามCore PPI +0.3% MoM เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์

ส่วนมาตรการพยุงตลาดหุ้นยังคงต้องรอรายละเอียดการย้าย LTF ที่ถึงกำหนดขายคืน มูลค่าส่วนที่เป็นตราสารทุนประมาณ 1.63 แสนล้านบาท (90% ของ NAV ทั้งหมด 1.81 แสนล้านบาท) เป็น TESG ใหม่ ภายในเดือน ก.ย. ซึ่งคาดว่าจะช่วยชะลอแรงขายในระยะสั้น

EYES ON
[ในสัปดาห์] การรายงานงบฯ 4Q67, นโยบายของทรัมป์
12 ก.พ. ดัชนี CPI สหรัฐฯ
13 ก.พ. ดัชนี PPI สหรัฐฯ
14 ก.พ. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ, GDP 4Q67 Eurozone

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ