แรงขาย LTF นิดเดียว กดมูลค่า SET หายไปแล้ว 1.6 ล้านล้านบาท (ytd)
TOP PICK ADVANC / ERW / IVL

 

External Factor
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ยังต้องจับตามาตราการขึ้นภาษีนำเข้าของ ปธน. Trump ที่อาจส่งผลให้ สงครามการค้าขยายตัวใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่

• ปธน. Trump เตรียมประกาศมาตรการภาษีตอบโต้กับหลายประเทศในสัปดาห์นี้ ชี้จะ กระทบ “ทุกคน”
• ปธน. Trump ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่ 25%จากทุกประเทศ คาดมี ผลบังคับใช้ 4 มี.ค. 68 โดยข้อมูลในปี 2567 สหรัฐฯ มีการนำเข้าสินค้าในกลุ่มเหล็กและ อะลูมิเนียมราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 2%ของทั้งหมด

 

Internal Factor
• SET Index ปรับตัวลง -9.6%(YTD) ส่วนหนึ่งเกิดจากความวิตกกังวลแรงขาย LTF เกินกว่าเหตุ แม้ข้อมูล AIMC ยอด LTF ในเดือน ม.ค. 68 ลดลง -3.14 หมื่นล้านบาท หรือ 14.5% เหลือ 1.88 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี
• อย่างไรก็ตามหากพิจารณามูลค่า LTF ในปัจจุบันที่ 1.88 แสนล้านบาท ถือเป็น สัดส่วนเล็กๆ ของกองทุนรวมหุ้นไทยเท่านั้น โดยปี 2562 LTF เคยมีมูลค่า AUM สูงถึง 4.16 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของกองทุนรวมหุ้นไทย แต่ปัจจุบันเหลือ 1.88 แสนล้านบาท มีสัดส่วนแค่ 16% เท่านั้น ของกองทุนรวมหุ้นไทยทั้งหมด และ 1.2% ของ Market Cap ตลาด

 

Investment Strategy
• ราคาน้ำมันดิบ +2% ขานรับสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน เก็งกำไรหุ้น PTT, PTTEP, TOP, SPRC, BCP
• ประเด็นการตั้งกำแพงภาษี เหล็ก อลูมิเนียมของยุค Trump 2.0ช่วงสั้น กดดันหุ้น DOHOME, GLOBAL, OSP, CBG, CK, STECON
• ความกังวล TRUMP อาจขึ้นกำแพงภาษีสินค้าตอบโต้ประเภทอื่นๆ กดดันหุ้น DELTA, CCET, KCE, HANA, STA แต่ถ้าประเทศไทยไม่อยู่ในรายชื่อรอบนี้ ตลาดและหุ้นดังกล่าวก็มีโอกาสฟื้นได้

 

ความกังวลประเด็น Trump ตั้งกำแพงภาษี คาดเพิ่มแรงผันผวนราคา Commodity ช่วงสั้นๆ
วานนี้ ราคานมันดิบ Brent พุ่งขึ้นราว 1.6$ ทะลุ 75 เหรียญฯ /บาเรล สหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรการ ส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่านตามนโยบายของ ปธน. Trump

 

อย่างไรก็ดี ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ยังต้องจับตามาตราการขึ้นภาษีนำเข้าของ ปธน. Trump ที่อาจส่งผลให้สงคราม การค้าขยายตัวใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่

 

1. Trump เตรียมประกาศมาตรการภาษีตอบโต้กับหลายประเทศในสัปดาห์นี้ ชี้จะกระทบ “ทุกคน”
2. Trump ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่ 25%จากทุกประเทศ คาดมีผลบังคับใช้ 4 มี.ค. 68 โดย ข้อมูลในปี 2567 สหรัฐฯ มีการนำเข้าสินค้าในกลุ่มเหล็กและอะลูมิเนียมราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิด เป็นสัดส่วนราว 2%ของทั้งหมด

 

สำหรับประเทศคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ ที่มีการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม ไม่ได้มี “ไทย” อยู่ใน 10 อันดับแรก ขณะที่ สินค้าหลักๆ ของไทยที่ส่งออกไปสหรัฐฯ อยู่ในกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ส่วนสินค้า เหล็กกล้า และผลิตภัณ์ คิดเป็นเปนสัดส่วนราว 2.2%ของทั้งหมด

 

ทั้งนี้ปรเด็นการตั้งแพงภาษีของ ปธน. อาจเข้ามากดดันราคาสินค้าในกลุ่มส่งออกไปสหรัฐฯ ผันผวนในช่วงสั้นๆ แต่ อย่างไรก็ตามในระยะยาว คาดว่าสินค้าที่ถูกกีดกันเหล่านั้น มีโอกาสหาตลาดใหม่แทนการพึ่งพาสหรัฐฯ จนราคา ปรับเข้าสู่สมดุลในที่สุด

 

สรุป ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ มีแนวโน้มผันผวนในช่วงสั้นๆ โดยมีกลุ่มหุ้นที่อาจได้รับ Sentiment เชิงบวกและลบ ดังนี้

• ประเด็นสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน ผลักราคาน้ำมันดีดตัว คาดหนุนหุ้นกลุ่มอิงกับราคาขายน้ำมัน คือ PTTEP, BCP ส่วนของธุรกิจโรงกลั่น คือ TOP, PTTGC, IRPC, BCP, ESSO, SPRC
• ประเด็นการตั้งกำแพงภาษีเหล็กและอลูมิเนียม ในช่วงสั้นคาดกดดันหุ้น DOHOME, GLOBAL, OSP, CBG, CK, STECON
• ประเด็นกังวลทรัมป์ขึ้นกำแพงภาษีอื่นๆ กดดันหุ้น DELTA, CCET, KCE, HANA, STA

 

SET ถูกกดดันจากปัจจัยในประเทศอย่างความกังวลการขาย LTF ซึ่งจริงๆแล้วมีสัดส่วนที่น้อยมาก
SET Index เปราะบาง ปรับตัวลง -9.6%(YTD) หรือ Market Cap หายไป 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับประเทศ ที่ถูกตั้งกำแพงภาษีโดยตรง อย่าง China Mexico Canada กลับสวนทาง คือ สร้างผลตอบแทนเป็นบวกในปีนี้ทั้งสิ้น ดังนั้น SET INDEX ที่ลงมาแรงและเร็ว อาจเกิดจากนักลงทุนกังวลต่อแรงขาย LTF ที่เร่งตัวออกมา สะท้อนได้จาก ข้อมูล AIMC ยอด LTF ในเดือน ม.ค. 68 ลดลง -3.14 หมื่นล้านบาท หรือ 14.5% เหลือ 1.88 แสนล้านบาท ซึ่งเป็น การลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี (เฉลี่ย 10 ปี เดือน ม.ค. AUM ลดลง -8.0 พันล้านบาท) ส่งผลให้ส่งผลให้นักลงทุน เทขาย LTFและนักลงทุนทั่วไปขายหุ้น รวมถึงนักลงทุนทั่วไปไม่กล้าซื้อหุ้น

 

อย่างไรก็ตามหากพิจารณามูลค่า LTF ในปัจจุบันที่ 1.88 แสนล้านบาท ถือเป็นสัดส่วนเล็กๆ ของกองทุนรวมหุ้นไทย เท่านั้น ต่างกับปี 2562 LTF เคยมีมูลค่า AUM สูงถึง 4.16 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของกองทุนรวมหุ้น ไทย แต่ปัจจุบันเหลือ 1.88 แสนล้านบาท มีสัดส่วนแค่ 16% เท่านั้น อีกทั้งมูลค่า LTFในปัจจุบันที่ 1.88 แสนล้านบาท ยังเป็นสัดส่วนเล็กๆ ของเม็ดเงินที่หมุนเวียนใน SET หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1.2% ของ Market Cap SET ใน ปัจจุบัน

 

***แต่ความกังวลแรงขาย LTF 1.88 แสนล้านบาท ที่มีสัดส่วนเล็กๆ กับตลาด กลับเกิดความเสียหายกับตลาดหุ้นให้ Market Cap หายไปแล้วกว่า 1.6 แสนล้านบาท***

 

สรุป SET Index ถูกกดดันจากปัจจัยในประเทศอย่างความกังวลการขาย LTF ซึ่งจริงๆแล้ว มีสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อ เทียบกับ AUM ของกองทุนรวมหุ้นไทยทั้งหมด และเป็นสัดส่วนเล็กๆ ของเม็ดเงินที่หมุนเวียนในตลาดฯ(Market Cap) ดังนั้นหากประเด็นดังกล่าวเริ่มผ่านไป SET Index จึงมีโอกาสกลับตัวได้ในอนาคต โดยวางกรอบการเคลื่อนไหววันนี้ไว้ที่ระดับ 1260 – 1283 จุด

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์