สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 10 กุมภาพันธ์ 2568)---- บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)TIDLOR เปิดเผยว่า “บริษัท”)สามารถสร้างผลกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยทำกำไรสุทธิสุงสุดใหม่สำหรับปี 2567 ที่จำนวน 4,230.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.6% (YoY) จากผลการดำเนินงานในปี 2566 ที่ 3,790.4 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตของรายได้จาก ขยายตัวของทั้งธุรกิจสินเชื่อและธุรกิจนายหน้าประกันภัย และการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ

บริษัทมีรายได้รวม 22,160.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.8% (YoY) โดยรายได้หลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อที่เพิ่มขึ้น 18.2% (YoY) และรายได้ค่าธรรมเนียมและบรกิารที่เพิ่มขึ้น 10.5% (YoY) ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวมจำนวน16,877.6 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของฐานลูกค้าและธุรกิจ ต้นทุนทางการเงินที่ปรบั เพิ่มขึ้นตามภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงเมื่อเทียบกับระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา และผลขาดทุนด้านเครดิตสอดคล้องจากกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยมีอัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครติดต่อเงินให้สินเชื่อที่ระดับ 3.4% ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า ทั้งนี้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานต่อรายได้ในปี 2567 อยู่ที่ 55.9% นอกจากนี้ด้วยความสามารถในการทำก ไรที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา ควบคู่กับประสิทธิภาพในการบรหิารโครงสร้างเงินทุน ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นยังคงอยู่ในระดับต่าที่ 2.5 เท่า

ณ สิ้นปี2567 บริษัทมีพอร์ตสินเชื่อคงค้าง อยู่ที่ 103,933.7 ล้านบาท ขยายตัว 6.6% (YoY) โดยคุณภาพพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดีในขณะที่ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยยังคงการเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยเบี้ยประกันวินาศภัยรวมสำหรับปี 2567 มีมูลค่า 10,176.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.4% (YoY) การมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่คำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญอย่างบัตรติดล้อและบริการโอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชันเงินติดล้อ รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มอินชัวร์เทค (InsurTech) และCall Center 1501 ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ