Today’s NEWS FEED

News Feed

นโยบายทรัมป์หนุน หุ้นสหรัฐฯ ! ธ.ทิสโก้ ชี้เป้าซื้อกอง UUSA, ES-USBLUECHIP และ TUSFIN-A

351

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (7 กุมภาพันธ์ 2568)-------ธนาคารทิสโก้คาด หุ้นสหรัฐฯ จะสร้างผลตอบแทนโดดเด่นในปี 2568 หลังทรัมป์เดินหน้านโยบายตามที่หาเสียงไว้หนุนกำไรบริษัทจดทะเบียนพุ่ง 14% YoY สูงกว่าตลาดหุ้นโลกที่โต 8% YoY แนะควรเลือกกองทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่มีนโยบายการลงทุน 'เชิงรุก' เพราะไม่ใช่ทุกอุตสาหกรรมจะเติบโตดี ต้องให้ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ต พร้อมเปิดชื่อ 3 กองทุนเด่นน่าซื้อ คือ UUSA,ES-USBLUECHIP และ TUSFIN-A


นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน และสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ธนาคารทิสโก้ประเมินว่าปี 2568 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนโดดเด่น หลังนายโดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งประธานาธิบดีหลายฉบับที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจในประเทศสหรัฐฯ ตามที่หาเสียงไว้ ทำให้นักวิเคราะห์จาก Bloomberg คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ (S&P500 Index) ปี 2568 เติบโตสูงถึง 14% YoY ดีกว่าตลาดหุ้นโลก (MSCI ACWI) ที่กำไรบริษัทจดทะเบียนโต8% YoY   


นอกจากนี้ หากลงลึกรายกลุ่มอุตสาหกรรมธนาคารทิสโก้มองว่าหุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐฯ เป็นกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างมากเพราะได้รับประโยชน์จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในช่วงขาลง รวมถึงนโยบาย Financial Deregulation จะช่วยผ่อนคลายกฎเกณฑ์ในการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงิน ทำให้สามารถขยายธุรกิจได้มากขึ้น ดังนั้น ธีมลงทุนที่ธนาคารทิสโก้แนะนำเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากนโยบายทรัมป์คือ กองทุนหุ้นสหรัฐฯ และกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในกลุ่มสถาบันการเงินสหรัฐฯ


อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ ธนาคารทิสโก้แนะนำให้เลือกกองทุนที่มี 'นโยบายการลงทุนเชิงรุก'มากกว่ากองทุนที่มีนโยบายการลงทุนตามดัชนี เพราะไม่ใช่ทุกอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ จะเติบโตได้ดี อีกทั้งบางอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากนโยบายของทรัมป์ นอกจากนี้ ปี 2568 เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสเติบโตในอัตราชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งกองทุนที่มีนโยบายเชิงรุกจะเปิดโอกาสให้ผู้จัดการกองทุนเฟ้นหาหุ้นผู้ชนะมาสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากดัชนีให้กับพอร์ตการลงทุน จากปัจจัยดังกล่าวธนาคารทิสโก้ จึงคัดกองทุนเด่นให้ลูกค้าลงทุน 3 กองทุน คือ
1. กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ยูเอส โกรท ฟันด์ (UUSA) 2. กองทุนเปิดอีสท์สปริง US Blue Chip Equity (ES-USBLUECHIP) และ 3. กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล (TUSFIN-A)


สำหรับรายละเอียดกองทุนแนะนำลงทุนทั้ง 3 กองทุนมี ดังนี้  


กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ยูเอส โกรท ฟันด์  


กองทุนนี้มีจุดเด่นตรงที่ผู้จัดการกองทุนจะเน้นคัดเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว และกระจายน้ำหนักการลงทุนที่เหมาะสม โดยใช้หลักการวิเคราะห์ด้านปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์แบบ Bottom - up เพื่อเลือกหุ้นที่สนใจ โดยเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีความสามารถในการเติบโตของรายได้หรือกำไรสูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนจะพิจารณาภาพรวมอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจประกอบการลงทุนด้วย อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านESG เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว


กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ยูเอส โกรท ฟันด์ (UUSA) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในกองทุน JPMorgan Funds – US GrowthFund Class I (acc) – USD โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักจะลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตหรือแนวโน้มการเติบโต (Growth style) ของบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา


 


กองทุนเปิดอีสท์สปริง US Blue Chip Equity  


กองทุนนี้มีจุดเด่นตรงที่กองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap) เป็นอันดับต้นๆ ของโลก เป็นบริษัทที่มีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่องอีกทั้งมีงบการเงินที่ดีและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง มีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าพร้อมกับมีขีดความสามารถในการแข่งขัน จากการเป็น "เจ้าตลาด" หรือครองส่วนแบ่งการตลาดในระดับสูง  


กองทุนเปิดอีสท์สปริง US Blue Chip Equity (ES-USBLUECHIP) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง)เน้นลงทุนในกองทุน T. Rowe Price Funds SICAV - US Blue Chip Equity Fund Class I โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ลงทุนในหุ้นชั้นดีของบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยกลยุทธ์การลงทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามกองทุนหลัก โดยกองทุนหลักมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด


 


 กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล  


จุดเด่นของกองทุนนี้คือเน้นลงทุนในกลุ่มสถาบันการเงินในสหรัฐฯ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มย่อย คือ 1. กลุ่มผู้ให้บริการด้านการเงินเช่น Berkshire Hathaway และ PayPal 2. กลุ่มธนาคาร เช่น JPMorganChase และ Citigroup 3. กลุ่มธุรกิจประกัน เช่น Chubb และ4. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน เช่น Goldman Sachs และ Morgan Stanley ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากนโยบายของทรัมป์ ทั้งในเรื่องการปรับลดภาษีนิติบุคคลและการผ่อนปรนเงื่อนไขในการดำเนินธุรกิจ แถมได้รับผลกระทบในระดับจากสงครามการค้าอีกด้วย  


กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล (TUSFIN-A) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในกองทุน Financial Select Sector SPDR Fund ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Financial Select Sector


อย่างไรก็ตามกองทุน UUSA, ES-USBLUECHIP และ TUSFIN-A ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน ติดต่อสอบถามรายละเอียด หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 2 กด 4   

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้