สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(5 กุมภาพันธ์ 2568)------นางสาวภัทร์ภูรี  ชินกุลกิจนิวัฒน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  BCP    เปิดเผยว่า  “บริษัทฯ”ได้มีแนวทางในการจัดทำประเมินข้อมูลสำคัญรายธุรกิจประจำไตรมาส สำหรับ Q4/2567 ทางบริษัทฯขอนำส่งสรุปข้อมูลสำคัญรายธุรกิจ ดังนี้

ใน Q4/2567 ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปรับตัวลดลงอันเนื่องมาจากแรงกดดันแนวโน้มอุปทานน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางอุปสงค์น้ำมันโลกที่อ่อนแอ โดยเฉพาะจากประเทศจีนตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อีกทั้งกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซล –ดูไบ (GO-DB) และน้ำมันเจ็ท (เคโรซีน) –ดูไบ (IK-DB) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณส ารองผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นขั้นกลาง (Middle Distillate Products) ในภูมิภาคที่ปรับลดลง ประกอบกับอุปสงค์น้ำมันทำความร้อนที่เพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว รวมถึงคาดหวังเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนภายหลังจากที่รัฐบาลจีนมีสัญญาณการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่ส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซิน 95 – ดูไบ (UNL95-DB) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการส่งออกของจีนที่ชะลอตัวลง เนื่องจากส่วนต่างราคาในการส่งออกไม่คุ้มค่าหลังรัฐบาลจีนเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีการส่งออกโดยใน Q4/2567 โรงกลั่นบางจากมีกำลังการผลิตเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 271.8 พันบาร์เรลต่อวัน และมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 92% โดยหลักมาจากการที่โรงกลั่นศรีราชากลับมาดำเนินการผลิตอย่างเต็มที่ ภายหลังจากการชะลอการกลั่น (Slowdown) เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงบางหน่วยตามแผนประจำปีไปใน Q3/2567

ใน Q4/2567 ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นการเติบโตจากทั้งตลาดค้าปลีกและตลาดอุตสาหกรรม ซึ่งมีปริมาณการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ ปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ได้แก่ การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและฤดูกาลท่องเที่ยวในประเทศที่ส่งผลให้ความต้องการในการบริโภคเพิ่มขึ้น

กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด ใน Q4/2567 มีการผลิตไฟฟ้าลดลง โดยหลักมาจากปัจจัยทางฤดูกาล (Seasonal Factor) ของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศ สปป. ลาว และโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทยที่มีความเร็วลมลดลง ขณะที่ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นตามค่าความเข้มแสง ประกอบกับบริษัทฯ รับรู้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐฯ ลดลงภายหลังจากการปิดซ่อมบำรุงตามแผนในเดือนพฤศจิกายน 2567อีกทั้งใน Q4/2567 ธุรกิจคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือ มีปริมาณการใช้ถังเก็บน้ำมันลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ Q3/2567 ขณะที่มีปริมาณการใช้ท่อเพิ่มขึ้นจากการใช้บริการขนถ่ายน้ำมันของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของปริมาณการขาย

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ใน Q4/2567 มีปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอทานอลปรับเพิ่มขึ้น ตามแผนบริหารการขายของบริษัท ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซล (B100) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากกระทรวงพลังงานได้ประกาศปรับลดการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจาก บี7 เป็น บี5 ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นมาส าหรับราคาเฉลี่ยไบโอดีเซลปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากสถานการณ์อุปทานตึงตัวจากผลกระทบของอุทกภัยในภาคใต้ประกอบกับอินโดนีเซีย (ผู้ผลิตรายใหญ่) เตรียมออกประกาศปรับเพิ่มสัดส่วนผสมน้ำมันจาก บี35 เป็น บี40 ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบมีปริมาณเพิ่มขึ้น ในขณะราคาเอทานอลอ้างอิงไตรมาสนี้อ่อนตัวลง จากปริมาณสต๊อกเอทานอลของประเทศอยู่ในระดับสูง

กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติใน Q4/2567 มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรวมปรับลดลงจากไตรมาสก่อนโดยหลักมาจากปริมาณการจำหน่ายน้อยกว่ากำลังผลิตตามสัญญา (Underlift) ของแหล่ง Draugen และ Brage อย่างไรก็ตามราคาขายเฉลี่ยก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว ในขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงตามตลาดโลกจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งนี้ OKEA ได้ประกาศผลการดำเนินงานของ Q4/2567 แล้ว

โดยสามารถเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านทาง www.okea.no/investor/reports/