---คาด ERW จะมีกำไรหลักใน 4Q24F ที่ 324 ล้านบาท ---
คาด ERW จะมีกำไรหลักใน 4Q24F ที่ 324 ล้านบาท (+51% y/y, +160% q/q) จากการเติบโตที่แข็งแกร่งของRevPar และการขยายตัวของอัตรากำไร EBITDA ทั้งนี้อัตราการเข้าพักของโรงแรม Grand Hyatt Erawan ฟื้นตวัดีขึ้นโรงแรม Holiday Inn Pattaya กลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบหลังปิดปรับปรุงไปช่วงก่อนหน้า นอกจากนั้นการ
เติบโต q/q ได้อานิสงค์จากปัจจัยฤดูกาลด้วย
RevPARรวมของกลุ่มใน 4Q24F คาดว่าจะเติบโต +9% y/y และ+19% q/q โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของอัตราคาห้องพักเฉลี่ย (ARR) ที่เพิ่มขึ้น +11% y/y และ13% q/q ส่วนอัตราการเข้าพัก (OR) อ่อนลงเล็กน้อยเป็น 81% จากอัตราคาห้องพักที่เพิ่มขึ้น
เราคาดว่าทุกเซ็กเมนต์จะมีการเติบโตของ RevPAR ในเชิงบวกยกเว้น Hop Inn Philippines ซึ่งได้รับผลกระทบจากการเปิดโรงแรมใหม่ในปี 24 ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มดำเนินการขณะที่เซ็กเมนต์อื่น ๆ คาดว่าจะมีผลประกอบการที่ดีโดยเฉพาะกลุ่ม Midscale และEconomy ซึ่ง RevPAR คาดว่าจะเติบโต +20% และ+17% ตามลำดับ สำหรับกลุ่มMidscale ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการปรับปรุงครั้งใหญ่ของโรงแรม Holiday Inn Pattaya ซึ่งดำเนินการตั้งแต่เดือนพ.ย.23- 3Q24โดยโรงแรมแห่งนี้เคยมีสัดส่วนรายได้ราว 10 - 12% ก่อนการปรับปรุง
คาดรายได้จากธุรกิจโรงแรมใน 4Q24Fเติบโต+22% y/y และ+24% q/qจากแผนขยายธุรกิจที่ชัดเจนควบคู่กับการเติบโตที่แข็งแกร่งของ RevPAR ทั้งนี้ใน 4Q24 บริษัทเปิดโรงแรม HOP INN ในไทยเพิ่ม 2 แห่งรวม 140 ห้องสำหรับทั้งปี 24 บริษัทเปิดโรงแรม HOP INN ใหม่รวม 13 แห่งได้แก่ 7 แห่งในประเทศไทย, 3 แห่งในญี่ปุ่นและ 3 แห่งในฟิลิปปินส์รวมทั้งหมด 1,257ห้องเพิ่มขึ้น 12% จากสิ้นป์ 23
แนวโน้มปี 2025Fคาดกำไรหลักเติบโตอย่างต่อเนื่องที่+19% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยวขาเข้า การขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลง
HOP INN ยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของการเติบโตในระยะกลางถึงระยะยาวโดย ERW ตั้งเป้าบริหารโรงแรมเพิ่มเป็น 150 แห่งภายในป์ 2030 จาก 91 แห่ง ณ สิ้นป์ 2024 โดยจำนวนห้องพักเพิ่มเป็น 14,000ห้องจาก11,699 ห้อง ณ สิ้นป์ 2024 ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 5% การขยายธุรกิจหลักจะเน้นในไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ได้แก่ฟิลิปปินส์ญี่ปุ่นเวียดนามอินโดนีเซีย และประเทศอื่น ๆ ทั้งนี้ HOP INN เป็นโรงแรมที่ลงทุนไม่มากอัตราการเข้าพักเพิ่มได้เร็ว มาร์จิ้นสูงระยะเวลาคืนทุนไม่นาน
คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 5.50 บาท (DCF, WACC : 8.4%, terminal growth : 2.5%) ปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้น คือการได้ต่ออายุสัญญาเช่าที่ดินของโรงแรม Grand Hyatt Erawan
นักวิเคราะห์ : ศศิกานต์ อุดมเวศย์ : sasikarnudomvej@dbs.com : Tel. 02 857 7833