News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

28 ม.ค. 2568 08:58:33 420

Market Wrap-Up

SET วันที่ 27 ม.ค.68 ปิด -13.13 จุด อยู่ที่ 1,340.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 30,685 ลบ. ต่างชาติขาย 1,012 ลบ. สถาบันขาย 1,202 ลบ.พอร์โบรกซื้อ 361 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,853 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 268 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น KTB,CPALL,SCB,MINT,TTB และยอดขายหุ้น DELTA,BDMS,TOP,GULF,TRUE มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,522 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HK01,XO,SIRI โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 5,807 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 22,284 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,791 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.65%, S&P500 -1.46%, Nasdaq -3.07% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย NVIDIA -16.8% หลัง Deepseek เปิดตัว AI โมเดล R1 แบบ Open Source ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า ChatGPT ของ OpenAI ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.07% นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี -3.4% หลังการเปิดตัวของ Deepseek ที่เป็น Start Up ของจีน ส่งผลให้หุ้นผู้อุปกรณ์ชิป เช่น ASML -7%, ASMI -12%

Market View

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลัง Deepseek บริษัทสตาร์อัพจีนได้เปิดตัว AI รุ่น R1 แบบ Opensource ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า ChatGPT ของ OpenAI โดยใช้เวลาพัฒนา 2 เดือน ด้วยต้นทุนต่ำกว่า 6 ล.ดอลลาร์ และใช้ชิป H800S มีประสิทธิภาพต่ำกว่าของ Nvidia ส่งผลให้มีคำถามต่อการใช้งบประมาณพัฒนา AI และสร้างศูนย์ Data Center ของผู้พัฒนาฝั่งสหรัฐ จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้น Nvidia -16.8% สัปดาห์นี้ติดตามรายงานกำไรของ Microsoft, Meta, Apple ,Tesla, วันพุธ ผลการประชุมเฟดคาดคงดอกเบี้ยที่ 25 – 4.5%, วันพฤหัส US GDP Q4/67 คาด +2.7% & Q3/67 +3.1% QoQ และวันศุกร์ US PCE ธ.ค. คาด +2.5% YoY & พ.ย. +2.4% YoY
Stoxx 600 วานนี้ปรับลดลง โดยกลุ่มเทคโนโลยี -3.4% หลังการเปิดตัวของ Deepseek AI ค่ายจีนที่มีต้นทุนการพัฒนาต่ำกว่าของฝั่งสหรัฐ ส่งผลให้หุ้น ASMI และ ซีเมนน์ เอเนอร์จี ปรับลดลง นักลงทุนฝั่งยุโรปยังรอผลการประชุม ECB วันที่ 30 ม.ค. ซี่งมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% และรอประเมินท่าทีของ ปธ.ทรัมป์ที่จะปรับขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากยุโรปในวันที่ 1 ก.พ. สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล GDP ยูโรโซน Q4/67 คาด 1.0% & Q3/67 0.9% YoY และ CPI เยอรมัน เบื้องต้น ม.ค. คาด 2.7% & ธ.ค. 2.6% YoY
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.06% หลังข้อมูล PMI ภาคการผลิตจีน ม.ค. ปรับลดลงอยู่ที่ 49.1 & ธ.ค. 50.1 และภาคบริการจีน ม.ค. ลดลงอยู่ที่ 50.2 & ธ.ค. 52.2 บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวช้า และจำเป็นต้องออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ -0.92% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี หลังการเปิดตัวของ DeepSeek บริษัท StartUp AI ของจีนที่สามารถพัฒนาโมเดล AI ได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่าฝั่งสหรัฐ สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นจีนหยุดในเทศกาลตรุษจีน 28 ม.ค. – 4 ก.พ./ ฮั่งเส็งปิด 29 – 31 ม.ค.
SET วานนี้ -0.97% ปริมาณการซื้อขาย 3.06 หมื่น ลบ.ต่างชาติขาย 1,021 ลบ. สถาบันขาย 1,202 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 361 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,853 ลบ. นำโดยกลุ่มอิเล็ก ฯ -5.9% ที่ปรับลดลงตามกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐ จากความกังวลการแข่งขันในตลาด AI รุนแรงขึ้น หลังจีนเปิดตัวโมเดล AI ของ DeepSeek ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า ChatGPT และอาจส่งผลให้ ปธ.ทรัมป์ใช้ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลากรกดดันจีนมากขึ้น ส่วนกลุ่ม รพ.ขนาดใหญ่ -1.6% หลังผู้ใช้บริการจากตะวันออกกลางมีแนวโน้มลดลง จากประเด็นข่าวการคอร์รัปชั่นในการเบิกจ่ายประมาณรักษาพยาบาลในต่างประเทศ โดยนักลงทุนได้ปรับพอร์ต เข้าลงทุนในกลุ่ม Domestic Play เช่น ธนาคาร, ไฟแนนท์, ค้าปลีก หลังวานนี้รัฐบาลได้เริ่มเบิกจ่ายเงินสด 1 หมื่น บาทให้กับผู้สูงอายุ 3 ล.ราย ซึ่งคาดจะช่วยกระตุ้น GDP ไทยปีนี้ได้ราว 0.10% ประเด็นที่ต้องติดวันนี้ คือ ผลการประชุม ครม.และรายงานข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเข้าสู่ช่วงการรายงานงบ Q4/67 ของกลุ่ม Real Sector เช่น SCC,SCGP,PTTEP

Daily Strategy

ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,330 แนวต้าน 1,350 – 1,355 คาดดัชนถูกดดันจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ และกลุ่มพลังงานที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ แนะนำทยอยซื้อกลุ่ม Domestic Play ที่ได้ปัจจัยบวกจาก ม.กระตุ้นกำลังซื้อ เช่น กลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC,BJC/ ธนาคาร & ไฟแนท์ BBL,KTB,SCB,TILDOR/ กลุ่มจ่ายปันผลสูง เช่น SIRI, AP, 3BBIF, DIF, CPNREIT
TASCO* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 20.80 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q67 ยังคงเติบโต YoY หนุนจากยอดขายในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม QoQ ปริมาณขายจะลดลงจากฐานสูงที่มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ทั้งนี้จาก product mixed ที่สัดส่วนยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นทำให้ GPM ปรับตัวดีขึ้นตาม (YoY) ขณะที่การตั้งสำรองหนี้สูญมีแนวโน้มลดลงหลังสถาการณ์ของลูกหนี้ดีขึ้นจากการเบิกจ่ายงบ ส่วนแนวโน้มปี 68 มีปัจจัยหนุนจากทั้งปริมาณขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่น่าจะดีขึ้น โดยตั้งเป้า 2 ล้านตัน จากไม่มีการล่าช้าของงบประมาณ
ERW* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 5.15 บาท) การดำเนินงานปกติในช่วง 4Q67 ยังมีปัจจัยบวกตามฤดูกาล(จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 4Q67 +17%YoY +10%QoQ) และม.กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ รวมถึงการ renovate โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา ที่เสร็จสิ้น ซึ่งทาง ERW* คาด 4Q67 จะมี Rate ที่ 80% และ ARR ที่ +8-10%QoQ, +5-7%YoY นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มโรงแรมยังมี sentiment บวกจากจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 13-19 ม.ค.67 ที่ผ่านมา +1%WoW,+ 15%YoY หนุนด้วยนักท่องเที่ยวจีน ปัจจุบัน ตลาดคาด Adj. EPS ปี67 และ 68 ของ ERW* ที่ 0.18 บ./หุ้น( +13%YoY) และ 0.19 บ./หุ้น(+4%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI มี.ค. -$1.49 อยู่ที่ $73.17 / บาร์เรล, Brent มี.ค. -$1.42 อยู่ที่ $77.08/บาร์เรล หลัง Deepseek เปิดตัวโมเดล AI มีประสิทธิภาพเหนือกว่า ChatGPT ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า อาจส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานในศูนย์ Data Center มีแนวโน้มลดลง กอปรข้อมูล PMI ภาคผลิตจีน ม.ค. ปรับลดลงอยู่ที่ 49.1 กลับสู่โซนถดถอยอีกครั้ง

Gold Update(-) Comex Gold ก.พ.-$40.50 อยู่ที่ $2,738.4 /ออนซ์ เพื่อลดความเสี่ยง และชดเชยผลเสียหายจากราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐปรับลดลง หลังการเปิดตัวของ DeepSeek โมเดล AI ต้นทุนราคาต่ำของจีน

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -35.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -29.97 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -5.52 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.55 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -17 จุด อยู่ที่ 761

(+) BitCoinเช้านี้ +0.23% อยู่ที่ 101,562 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

28 ม.ค. ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

31 ม.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม

สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

27 ม.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (ม.ค.)

US ยอดขายบ้านใหม่ (ธ.ค.)

28 ม.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (ม.ค.)

30 ม.ค. EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป

EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (ม.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC

US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย

US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 4)

31 ม.ค. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (ธ.ค.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,WHA,AMATA

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio January 2025: SAV, SYNEX*, CRC, WHA, SHR

Analysts

Apichai Raomanachai