Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

341

 

 



SET ปรับตัวขึ้นต่อ : แรงหนุนจากการประกาศนโยบายการค้าของ ปธน.ทรัมป์ ที่ยังไม่มุ่งเป้าไปทั่วโลก อีกทั้ง คาดได้แรงหนุนจาก Fund flow และแรงเก็งงบ 4Q67 หากแต่ทางขึ้นจำกัดอยู่บ้าง ตามราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง

 

แนวรับ-ต้าน
1,345-1,365

 


กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็งงบ 4Q67 : AMATA, BA, DELTA, MTC, NER
2) Easy E-Receipt : ADVANC, ADVICE, BJC, CPALL, CPAXT, CRC, KTC, HMPRO , TRUE
3) Anti comm. : AAV, BGRIM, GPSC, GULF, TASCO
4) เก็งกำไรฝั่ง Short : IRPC, PTT, PTTEP, PTTGC, SPRC

 

 


ยังไม่สู้หรือเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก
ปธน.ทรัมป์ ยังไม่ชี้เป้าไปทั้งโลกหรือชี้มาที่ไทย : แม้ ปธน.ทรัมป์ ได้เผยถึงมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.พ.68 รวมถึงจะขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป หากแต่ยังไม่ได้ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรแบบครอบจักรวาลอย่างที่หลายฝ่ายวิตกกังวลก่อนหน้านี้ รวมถึงยังมิได้มีการกล่าวถึงไทย อีกทั้ง Goldman Sachs ยังได้ปรับลดการคาดการณ์โอกาสที่ ปธน.ทรัมป์ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรแบบครอบจักรวาลลงเหลือ 25% จากที่เคยคาดไว้ในเดือนธ.ค.67 ที่ 40% ส่งผลให้ในระยะสั้นทางฝ่ายมอง SET Index ยังคงตอบรับเชิงบวกต่อการเข้ารับตำแหน่งของ ปธน.ทรัมป์

สัญญาณบวกจาก Fund flow และงบ 4Q67 : คาด SET Index มีแนวโน้มได้แรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติ สอดรับกับเมื่อวานนี้ที่ซื้อสุทธิเป็นวันทาการที่ 2 ติดต่อกัน ทั้งใน SET Index และ SET50 Index Futures อีกทั้ง เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ไทยถึง 4,155 ล้านบาท เมื่อพิจารณาตามอายุคงเหลือ พบว่ามีการซื้อสุทธิใน 0-1 ปี และ 1-3 ปี คิดเป็นมูลค่า 643 ล้านบาท และ 846 ล้านบาท ตามลำดับ ส่งผลให้ทางฝ่ายมองว่าการซื้อตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนหนึ่งอาจเป็นภาพของการพักเงินก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดตราสารทุนไทย นอกจากนี้ จากการรายงานงบของหุ้นในกลุ่มธนาคารที่รายงานออกมาแล้ว 7 บริษัท นับเฉพาะที่มีตลาดคาดการณ์ และมีจำนวนบริษัทที่มีรายได้และ EPS ดีกว่าตลาดคาดที่ 71% และ 86% ตามลำดับ ส่งผลให้ทางฝ่ายมองเป็นแรงจูงใจต่อการเก็งกำไรงบ 4Q67 ของกลุ่ม Real sector ที่จะเริ่มเผยงบในระยะต่อไป ท่ามกลางความคาดหวังว่าผลประกอบการจะเป็นเชิงบวกหรือดีกว่าตลาดคาดดังเช่นกลุ่มธนาคาร


น้ำมันร่วง หลังกังวลอุปทาน : อย่างไรก็ตาม มองทางขึ้นยังจำกัด โดยคาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง 2.56% ปิดที่ $75.89 ต่อบาร์เรล หลัง ปธน.ทรัมป์ ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมัน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดในปีนี้

 

ปัจจัยเพิ่มเติม

(+) ซิตี้แบงก์ คาด GDP ไทยปี 68 จะเติบโตที่ 3.2% เพิ่มจาก 2.7% ในปี 67 โดยได้รับแรงหนุนจากการจ้างงานที่แข็งแกร่ง การปรับขั้นค่าแรงขั้นต่ำ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ

 (+) กระทรวงท่องเที่ยวฯ เผยตั้งแต่วันที่ 1-19 ม.ค.68 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแล้วทั้งสิ้น 2.14 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1.07 แสนล้านบาท

 (+) สบน. เผย R&I ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ A- และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ระดับมีเสถียรภาพ

(+) ปธน.ทรัมป์ ประกาศร่วมทุนเพื่อระดมทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ร่วมกับผู้นำของ Softbank Group Corp., OpenAI LLC และ Oracle Corp. ซึ่งเป็นความพยายามที่มุ่งเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางฝ่ายมองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

 


ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เล่นตามข่าว By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ นักเก็งกำไร เล่นตามข่าว ตามความแรงของเงินสกุลดิจิตอล ตามบิทคอยน์ ขณะที่เส้นกราฟ.....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้