TTB : ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์

มุมมองของเราหลังการประชุม : ยังคงเป็นบวก เป้าหมายทางการเงินปี 2025 ของธนาคารส่วนใหญ่สอดคล้องกับประมาณการของเรา (NIM ต่ำกว่าที่เราคาด แต่อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ของเรา conservative กว่า) ผู้บริหารยืนยันว่าการขยายตัวของ ROE ควรถึง 10% ในระยะกลางและมีช่องว่างในการจัดการเงินทุนเชิงรุกมากขึ้น ข้อความเหล่านี้ควรได้รับการต้อนรับที่ดีจากตลาด

เป้าหมายปี 2025 :
• TTB คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะกลับมาเป็นบวกที่ 0-2% ขับเคลื่อนโดยกลุ่มธุรกิจ และการปรับตัวดีขึ้นบางส่วนในสินเชื่อรายย่อย การเติบโตของเงินฝากควรใกล้เคียงกับการเติบโตของสินเชื่อ

• NIM ควรลดลงเหลือ 3.1-3.25% (เทียบกับ 3.26% ปีที่แล้ว) ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยช่วงที่คาดการณ์นี้รวมการลดดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งจาก ธปท.

• คาดว่าค่าธรรมเนียมจะฟื้นตัว (กลับมาเป็นบวกจาก -6% ปีที่แล้ว)

• ด้านคุณภาพสินทรัพย์ TTB ยังคงระมัดระวัง คาดว่า NPL จะเพิ่มขึ้นแต่ยังต่ำกว่า 2.9% (เทียบกับ 2.59% ปีที่แล้ว) ส่วนใหญ่เพราะผู้บริหารคาดการณ์สภาพแวดล้อมที่ท้าทายมากขึ้นสำหรับการแก้ไข NPL (ลูกค้ารายย่อยยังคงเป็นผู้มีส่วนร่วมหลัก) อย่างไรก็ตาม ต้นทุนด้านเครดิตควรมีเสถียรภาพที่ 125-135 bps เทียบกับ 154 bps ปีที่แล้ว หรือ 135 bps ไม่รวมการตั้งสำรองพิเศษ ขนาดของ management overlay จะขึ้นอยู่กับคุณภาพสินทรัพย์ปีนี้ แต่ผู้บริหารบ่งชี้ว่าต้องการรักษา coverage ratio ของธนาคาร (151% ใน 4Q24)

แนวโน้มและกลยุทธ์ :
• CEO ของ TTB ยืนยันว่า ROE ควรเพิ่มขึ้นเกิน 10% ในระยะกลาง ขับเคลื่อนโดยสินเชื่อผลตอบแทนสูง (เป้าหมาย 30-35% ของสินเชื่อรวม) การปรับปรุงช่องทางดิจิทัล (>90% ของส่วนแบ่งดิจิทัล) และการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น (<40% ต้นทุนต่อรายได้ ใกล้เคียงกับธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาด้วย credit cost ปกติที่ 125-135 bps)

การจัดการเงินทุน :
• ผู้บริหารเปิดเผยว่าทางเลือกในด้านนี้รวมถึงหุ้นทุนซื้อคืนหรือการลงทุนซ้ำ (ทั้งแบบการเติบโตจากภายในหรือภายนอก) นอกเหนือจากการเพิ่มเงินปันผล ผู้บริหารเปิดกว้างสำหรับทุกทางเลือกในขณะนี้ การผสมผสานของทางเลือกเหล่านี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด

โครงการ "คุณสู้ เราช่วย " :
• สินเชื่อที่มีสิทธิ์คิดเป็นประมาณ 6% ของสินเชื่อรวมของธนาคาร และอัตราการเข้าร่วมอยู่ที่ประมาณ 10% จนถึงขณะนี้

• สอดคล้องกับความคาดหวังของเรา ผลกระทบของโครงการจะเป็นลบในระยะสั้นก่อนที่จะถูกชดเชยด้วย credit cost ที่ต่ำลงในภายหลัง

• เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ TTB โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 2.20 บาท