Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

339



AT THE OPEN (#ATO)

SET Index คาด Sideways/Sideway Up
เลือกหุ้นที่ราคาก่อนหน้าลงเกินปัจจัยพื้นฐานไปมาก

 


Market Strategy
SET Index คาด Sideway/Sideway Up มองแรงกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติและสถาบันในประเทศเริ่มเบาลงหลังจากตลาดตอบรับข่าวลบไปมากจน Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ ขณะที่แรงขับเคลื่อนตลาดระยะถัดไปอยู่ที่การรายงานผลประกอบการ 4Q67 ซึ่งเริ่มจากกลุ่มธนาคารรายงานงบผ่านไปแล้ว โดยรวมดีกว่าคาดเล็กน้อยและไม่เปืด Downside ต่อการปรับลดประมาณการ สำหรับวันนี้เลือก CENTEL เป็น Top Pick

ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ปรับขึ้นเฉลี่ย 1% ตอบรับการประกาศนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่นโยบายการขึ้นภาษีไม่ได้รุนแรงอย่างที่ตลาดเคยกังวล โดยประเด็นภาษีที่มีเพิ่มเติม คุณทรัมป์เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% เร็วที่สุดในช่วงต้นเดือน ก.พ.68 เพื่อตอบโต้จากการประเด็นผู้อพยพ ลักลอบเข้ามาสหรัฐฯ ซึ่งเราเชื่อว่ายังไม่เป็นปัจจัยลบมายังตลาดหุ้นฝั่งเอเซีย ยกเว้นจะมีการประกาศกดดัน/ขึ้นภาษีกับจีนหรือประเทศในภูมิภาค

ภายใต้สถาพแวดล้อมข้างต้นทำให้ U.S. Bond Yield 10 ปี วานนี้ปรับลง 5 bps Dollar Index อ่อนค่าใกล้จุดต่ำสุดของปีที่ 108 จุด ส่วนค่าเงินบาทแข็งค่า 1.1%WTD มาที่ 33.9 บาท/USD จึงน่าจะเป็นตัวช่วยลดแรงกดดัน Fund Flow ไหลออก ซึ่งวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 170 ล้านบาท ซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ 4.16 พันล้านบาท และ Long ใน SET50 Future 5.7 พันสัญญา ด้านแรงขายของ LTF ในสัปดาห์นี้แรงกดดันเริ่มลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 793 ล้านบาทต่อวัน เทียบกับช่วงครึ่งเดือนแรก ม.ค. ที่ขายสุทธิเฉลี่ย 1.1 พันล้านบาทต่อวัน ประเมินแรงขายของนักลงทุน 2 กลุ่มหลักที่มีสัญญาณน้อยลง ประกอบกับ SET Index ที่ซื้อขายบน P/E68 ที่ 14.4 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว น่าจะทำให้ Downside ของ SET Index เริ่มจำกัดและไปให้น้ำหนักกับการรายงานผลประกอบการ 4Q67 ซึ่งงบของกลุ่มธนาคารรายงานเสร็จสิ้นไปแล้ววานนี้ โดยภาพรวมกำไรเติบโต 20%YoY ดีกว่าคาดเล็กน้อยจากการตั้งสำรองที่ลดลง จึงยังไม่ได้เปิด Downside ต่อประมาณการแต่อย่างใด

 

Market Summary
SET Index บวกไป 0.9% จากคุณทรัมป์ ไม่ได้มีการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าอย่างที่หลายฝ่ายกังวล กลุ่มที่ปรับขึ้นเด่น คือ กลุ่มที่คาดว่าจะได้ Sentiment บวกจาก U.S. Bond Yield ปรับลง กลุ่มไฟแนนซ์ TIDLOR +7% MTC +2% กลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC +8% BGRIM +6% ด้านกลุ่มท่องเที่ยว CENTEL +5% ERW +4.5% จากตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนสัปดาห์ล่าสุดยังเร่งตัวลดความกังวลของนักลงทุน ส่วนกลุ่มที่ปรับลง คือกลุ่มพลังงาน PTTEP -3% SPRC BCP -3% ตามราคาน้ำมันดิบ กลุ่มธนาคาร -0.1% จากแรงขายทำกำไรหลังแกร่งกว่าตลาดมายาวนาน

 

 

DAILY Stock Pick

CENTEL
ราคาหุ้นปรับลงแรง -14%YTD กดดันจากปัจจัยความกังวลต่อการยกเลิกทริปวันหยุดของชาวจีนมาเที่ยวไทย หลังจากข่าวลือการลักพาตัวนักแสดงที่สร้างความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย
แต่เราเชื่อว่าความกังวลมีมากเกินไป เนื่องจากเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงแข็งแกร่ง (ข้อมูลจนถึง 19 มกราคม) มีอัตราการเติบโตทั้งในภาพรวมและนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาไทยเฉลี่ยต่อวัน +15% YoY และ 14% YoY และมีโอกาสเร่งตัวในช่วงเข้าสู่ตรุษจีน
การเติบโตของกำไรปี 68 คาดสูง 20%YoY จาก RevPAR ที่สูงขึ้นในประเทศไทยหลังการปรับปรุงโรงแรมครั้งใหญ่และในญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการจัด World Expo ที่โอซาก้า ตั้งแต่เดือน เม.ย-ต.ค. 68
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 44.00 บาท

 

 

WEEKLY Stock Pick

 

CPALL
คาดแนวโน้มกำไร 4Q67 จะยังสามารถเติบโตได้ QoQ และ YoY หนุนกำไรทั้งปี 67 เติบโต 31.7%YoY และยังคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในปี 68 ที่ 9.6%YoY ขณะที่ Valuation ไม่แพงซื้อขายบน P/E68 ที่ 19.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -1.3 S.D.
ปัจจัยบวกหนุนจาก
1) ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ ทั้ง Easy E-Receipt และแจกเงินสด 1 หมื่น
บาทเฟส 2 วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท
2) ค่าไฟฟ้าที่มีโอกาสลดลงหลังจาก กกพ. เสนอลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.98 บาท จากปัจจุบัน 4.15
บาท จะเป็นการประหยัดต้นทุนค่าไฟซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1-3% ของยอดขายของ CPALL
3) CPAXT เผยผลบวกของ Amalgamation น่าจะมาเร็วกกว่าคาดและกำไร 4Q67 แข็งแกร่งซึ่ง
เป็นบวกกับ CPALL ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ CPAXT
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 81 บาท

 

 


KEY FACTOR
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงต่อเนื่องแตะระดับ 4.58% ยังคงทิศทางขาลง สะท้อน Risk sentiment ที่ตอบรับเชิงบวก สงครามการค้าที่ชะลอออกไป และมองข้ามไปที่การประชุม FOMC 28-29 ม.ค. ที่แม้ว่ามุมมองตลาดจะเป็น เอกฉันท์คาดว่า Fed จะคงดอกเบี้ย แต่ถือเป็นการประชุมที่มีความสำคัญเนื่องจาก 1) เป็นครั้งแรกภายหลังการเข้ารับตำแหน่ง ปธน. อย่างเป็นทางการของ Donald Trump 2) เริ่มมีสัญญาณการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อภาคบริการ ดังนั้น การส่งสัญญาณของประธาน/คณะกรรมการ Fed น่าจะสะท้อนภาพแนวโน้มดอกเบี้ยปีนี้ที่ชัดเจนมากขึ้น

กระแสเงินทุนต่างชาติ ที่แม้พลิกซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 170 ล้านบาท หรือ คิดเป็นประมาณ 5 ล้านเหรียญฯ แต่อย่างไรก็ตามหากพิจารณาตลาดอื่นๆ ในเอเชีย รวมถึง ASEAN ยังพบว่าเป็นขายสุทธิเกือบทั้งหมด -3 ถึง -31 ล้านเหรียญฯ สะท้อนภาวะมุมมองนักลงทุนที่ยังระมัดระวัง โดยน่าจะยังรอความชัดเจนจากนโยบายต่างประเทศและการค้าสหรัฐฯ

 

EYES ON
ในสัปดาห์ รายงานงบฯ 4Q67 กลุ่มธนาคาร
24 ม.ค. S&P Global PMI ภาคการผลิตและบริการ ของสหรัฐฯ, HCOB PMI ภาคการผลิตและบริการของ Eurozone

 

 

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้