สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (20 มกราคม 2568)------ นายศุภทัต จินดาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)META เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ในเมืองซะงะ และเมืองวะกะยะมะ ประเทศญี่ปุ่น และการคงสัดส่วนการถือหุ้นสามัญของบริษัท พิโก โซลูชั่นส์(ไทยแลนด์) จำกัด ดังนี้
1. ความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ในเมืองซะงะ และเมืองวะกะยะมะ ประเทศญี่ปุ่น
ตามที่บริษัทฯ ได้รายงานความคืบหน้าของการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลประเทศญี่ปุ่นสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ เมืองซะงะ (“SAGA 50MW”) มูลค่าโครงการ1,842.86 – 2,074.70 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 449.69 – 506.26 ล้านบาท (อ้างอิงมูลค่าโครงการจากรายงานการประเมินมูลค่ายุติธรรมของที่ปรึกษาทางการเงิน ที่รับรองโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ฉบับลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567) ที่บริษัท
วินเทจ โฮลดิ้ง เจแปน จำกัด (“VHJ”) บริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.99ได้ลงนามสัญญาการลงทุนเบื้องต้น กับ NuGenPower Company Limited (“NuGen”) ผู้ขายโครงการ ซึ่ง VHJ ได้วางมัดจำเพื่อเข้าศึกษาการลงทุนในโครงการรวมทั้งสิ้น1,741.05 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 395.15 ล้านบาท (อ้างอิงจากข้อมูลงบการเงินสำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) นั้น
ปัจจุบันโครงการ SAGA 50MW ได้ดำเนินการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ โดยเจ้าของโครงการได้แจ้งข้อขัดข้องทางด้านเทคนิคของโรงไฟฟ้า ซึ่งได้ค้นหาสาเหตุ และแก้ไขปัญหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบทั้งระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าการผลิตกระแสไฟฟ้าของโครงการจะดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ดำเนินการอย่างเป็นทางการ จากเดิมที่กำหนดไว้เดือนธันวาคม 2567 เป็น ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี2568 ดังนั้น การลงทุนในโครงการดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการแปลงเงินมัดจำเพื่อการเข้าศึกษาการลงทุนในโครงการจำนวน 1,741.05 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 395.15 ล้านบาท (อ้างอิงจากข้อมูลงบการเงินสำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) เป็นมูลค่าเงินลงทุนตามสัดส่วนของโครงการทั้งหมด โดยบริษัทฯ ได้ศึกษาและพิจารณาแนวทางการลงทุนแล้ว บริษัทฯ มีแผนที่จะแปลงมัดจำป็นเงินลงทุน ก่อนการดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี2568
ทั้งนี้เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในการลงทุนแล้ว บริษัทฯ จะเสนอแก่คณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาการเข้าลงทุนตามหลักเกณฑ์การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์และจะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในส่วนที่เกี่ยวข้องและแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
สำหรับโครงการ SAGA 25MW และ WAKAYAMA 25MW จะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อโครงการ SAGA50MW ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยปัจจุบันโครงการ SAGA 25MW และ WAKAYAMA 25MW อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้และเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ก่อนการดำเนินการ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2568ซึ่งบริษัทฯ จะได้มีการเจรจาและพิจารณาเข้าลงทุนด้วยการแปลงเงินมัดจำส่วนที่เหลือ หรือเงินมัดจำบางส่วนเป็นเงินลงทุนสำหรับอีก 2 โครงการที่เหลือต่อไป ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบตามลำดับ
2. การคงสัดส่วนการถือหุ้นสามัญของบริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิเศษครั้งที่ 3/2566ได้มีมติอนุมัติลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท พิโกโซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (“PICO”) เนื่องจากเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 บริษัท อัลลาย เทคโนโลยี่ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (“Allied”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“AKS”) ได้มีหนังสือมายังบริษัทฯว่ามีความสนใจเข้าลงทุนเพิ่มในหุ้นสามัญของบริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (“PICO”)อีกร้อยละ 38.20ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด หรือเป็นจำนวน 1,145,986 หุ้น ที่ราคาซื้อขายหุ้นละ 152 บาท โดย Allied สนใจลงทุนเพิ่มเติมก่อนในสัดส่วนร้อยละ 10.96 ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด Allied จึงได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงการเข้าศึกษาลงทุนในบริษัทเป้าหมาย ในวันที่ 19 กันยายน 2566 (“MOU”) กับบริษัท โนว่า เอเชีย จำกัด (“NOVA”)บริษัทย่อยของบริษัทฯ และเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 Allied ได้รับโอนหุ้นไว้แล้ว จำนวน 328,947 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 10.96 ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และต่อมาเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 Allied ได้มีหนังสือถึง NOVAแจ้งความประสงค์ขอขยายระยะเวลาวันทำการซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ตามบันทึกความเข้าใจเพื่อการลงทุนเพิ่มเติม อีกร้อยละ 27.24ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ PICO ภายในวันที่30 ธันวาคม 2567 นั้น
ในการนี้ บริษัทฯ ขอเรียนว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 NOVA ได้รับแจ้งจาก Allied ว่าไม่ประสงค์จะลงทุนเพิ่มเติมในหุ้นสามัญของบริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ส่วนที่ยังคงเหลือหุ้นที่จะซื้อขายตาม MOU เป็นจำนวน 817,039 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 27.24 อีก โดย Allied ขอคงสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท พิโก โซลูชั่นส์(ไทยแลนด์) จำกัด จำนวน 652,961 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 21.76 บริษัท ฯ จึงได้อนุมัติให้แก้ไขรายละเอียดของ MOUตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน โดยที่ NOVA ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นสามัญใน PICO ร้อยละ 78.24 ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด