TU : บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป

คาดกำไร 4Q24 ที่ 1,142 ลบ. -19% q-q แต่ดีขึ้น y-y : เราคาดผลการดำเนินงาน 4Q24 จะดีขึ้น y-y เนื่องจากปีก่อนมีตั้งด้อยค่าการลงทุนใน Red Lobster แต่หากตัดรายการดังกล่าวออกไป กำไรปกติคาดหดตัว -3% y-y ขณะที่ q-q คาดจะลดลง -19% จากค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่มากกว่าเป้าที่ให้ไว้
ยอดขายรวมทุกผลิตภัณฑ์คาดอยู่ที่ 35,436 ลบ. -1% y-y แต่ +2% q-q หากแยกตามกลุ่มผลิตภัณฑ์พบว่า
กลุ่ม Ambient (51% ของยอดขาย) คาดยอดขายโตระดับ 3-5% y-y จากอุปสงค์ที่ดีทั้งในสหรัฐและมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่วน q-q คาดจะลดลง 5-8% จากปกติที่ยอดขายจะหดตัวและอุปสงค์ในยุโรปที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล
กลุ่ม Frozen (29%) คาดยอดขายลด 5-8% y-y จากอุปสงค์ที่อ่อนแอ แต่เห็นการฟื้นตัวระดับ 2 หลัก q-q ตามเทศกาลเฉลิมฉลอง
กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง (12%) คาดยอดขายทรงตัว y-y แต่เพิ่มขึ้น q-q
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะลดลง q-q ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากอัตรากำไรขั้นต้นของ ITC ที่หดตัวทำให้แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นของ TU คาดอยู่ที่ 18.9% จาก 19.5% ใน 3Q24 และ 17.8% ใน 4Q23 แต่คาดสัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายจะเพิ่มมากกว่าเป้าที่ให้ไว้จากยอดขายที่ลดลง และมีค่าใช้จ่ายทั้งค่าขนส่งและค่าส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้น
คาดการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมดีขึ้น y-y จากการดำเนินงานของ Avanti ที่ดีขึ้น แต่ q-q คาดหดตัวตามปัจจัยฤดูกาลเช่นกัน

ราคาหุ้นยังเหนื่อย
“แม้ปี 2024 จะฟื้นตัวดีจากอัตรากำไรที่ดีขึ้น และฐานต่ำปีก่อนจากประเด็น Red Lobsters แต่ปัจจัยลบที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งเรื่องอัตราภาษีขั้นต่ำของนิติบุคคลและความกังวลต่อค่าใช้จ่ายที่จะเร่งตัวตามเป้าหมายของ TU และค่าเงินบาทแข็งค่า เป็นปัจจัยกดดันต่อการดำเนินงานปีหน้า
ความน่าสนใจอาจน้อยกว่ากลุ่ม แม้ Valuation ถูก ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E25E 10.9 เท่า ผลตอบแทนเงินปันผลราว 5% ต่อปี แต่ไม่มีปัจจัยเร่งเชิงบวกต่อราคาหุ้นในระยะสั้น ในเครือนี้เรามองว่า ITC เด่นกว่า”

นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th