Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

419

 

AT THE OPEN (#ATO)

SET Index ดีดกลับ
เลือกหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index คาดฟื้นตัวตามกรอบ 1350-1370 จุด หนุนจากความกังวลเรื่องการลดดอกเบี้ย FED ที่น้อยลงหลังเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด ด้านปัจจัยในประเทศได้ Sentiment บวกจากมาตร Easy E-Receipt วันแรก หุ้นวันนี้เลือก BJC และ MTC

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปรับขึ้น 1.7%-2.5% หนุนจากความกังวลต่อการลดดอกเบี้ยฯของ FED น้อยลง หลังการรายงานเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯเดือน ธ.ค. ออกมาขยายตัว 3.2%YoY ต่ำกว่า Consensus คาดและต่ำกว่าเดือนก่อนที่ 3.3%YoY จากค่าที่พักที่เพิ่มขึ้น MoM ในอัตราที่ชะลอลงในรอบ 3 เดือน สภาพแวดล้อมข้างต้นกดดัน Dollar Index อ่อนค่า -0.2% , U.S. Bond Yield 10 ปีลงทันที 14 bps ซึ่งจะเป็นบวกต่อแรงกดดันจาก Fund Flow สำหรับหุ้นมองเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ (MTC SAK) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC GULF) กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ (CCET)

สำหรับประเด็นในประเทศวันนี้จะเป็นการเริ่มมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 เป็นวันแรก (ระยะโครงการ 16 ม.ค.–28 ก.พ.68) จากการศึกษาสถิติในช่วงที่มี Easy E-Receipt ของปีก่อน (1 ม.ค.- 15ก.พ.67) พบว่าหุ้นในกลุ่มค้าปลีกให้ผลตอบแทนชนะ SET Index ที่ 1% โดยหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่ให้ผลตอบแทน Outperform จะเป็นกลุ่มที่สินค้าฟุ่มเฟือยที่มีฐานกำไรไม่สูง (KAMART TAN CPW) ตามด้วยกลุ่มอุปโภคบริโภค (CPAXT BJC) และกลุ่มซ่อมแซมบ้าน (HMPRO) สำหรับรอบนี้เราเชื่อว่าหุ้นในกลุ่มค้าปลีกมีโอกาส Outperform ได้ต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นอื่นๆ เช่น แจกเงินสดเฟส 2 ที่จะช่วยเพิ่มเติมกำลังซื้อในประเทศ โดยรอบนี้เราชอบ BJC CPAXT CPALL และ CRC ที่เชื่อว่าจะได้ประโยชน์ทั้งสินค้าปกติที่เข้าร่วมรายการ (ไม่เกิน 3 หมื่นบาท) และสินค้าจากกลุ่ม OTOP (ตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไป)

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 13 จุดหรือ 1% กลุ่มที่หนุนตลาด คือ กลุ่มพลังงานจาก PTT +3.3% PTTEP +2% GULF +3% ตามด้วยกลุ่มค้าปลีกจากการเตรียมเริ่มมาตรการ Easy E-Receipt หนุน CPALL +2.3% CPAXT 3.8% และกลุ่ม ICT ปรับขึ้น INTUCH +2.5% ADVANC +1% ส่วนกลุ่มที่ปรับลงอิเล็คทรอนิกส์DELTA -2.44% จากเราแนะนำเป็นขายจาก Valuation แพง หนุนจากนักลงทุนสถาบันฯ 1.9 พันล้านบาท


ATO Daily Stock Picks
แนะนำ BJC MTC


MTC
แรงกดทับเริ่มจาง
หนุนราคาหุ้นดีดกลับ
การรายงานเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯเดือน ธ.ค. ขยายตัว 3.2%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด 3.3%YoY ช่วยให้ U.S. Bond Yield สหรัฐฯ ปรับลง ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกต่อ MTC ที่ตั้งแต่ต้นปีถูกกดดันจากประเด็น U.S. Bond Yield ที่เร่งตัวขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นติดลบ 9%YTD โดยปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน
เราคาดกำไร 4Q67E จะเติบโตจากการเติบโตของสินเชื่อที่ดีและคุณภาพสินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพ โดยสัดส่วน NPL และต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อคาดลดลง หนุนกำไรทั้งปี 67 /68เติบโต 17.6%YoY และ 17.4%YoY
มาตรการกระตุ้นของรัฐฯ เช่น โครงการแจกเงินชาวนาเดือน ธ.ค.67 และเตรียมแจกเงินเฟส 2 ผู้สูงอายุ มองเป็นบวกต่อคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นจากประชาชนมีโอกาสนำเงินมาจ่ายหนี้ได้มากขึ้น สอดรับไปกับสถิติการแจกเงิน 1 หมื่นบาท เฟส 1 ในกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างพบว่านำมาจ่ายหนี้คิดเป็นสัดส่วน 13%
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 60.00 บาท

 

BJC
เริ่ม Easy E-Receipt ถึงจังหวะ
ช้อปทั้งของ Long ทั้งหุ้น
เราคาดกำไรหลัก 4Q67 ขยายตัว QoQ หนุนจากเข้าสู่ช่วง High Season จากการใช้จ่ายในประเทศ ผลบวกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและอานิสงค์จากมาตรการแจกเงินสด 1 หมื่นบาท 14.5 ล้านคน มาตรการช่วยชาวนาไร่ละ 1 พันวงเงิน 3.85 หมื่นล้านบาท ที่คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อยอดขาย
ด้านกำไรหลักปี 68 คาดขยายตัว 12.1%YoY โดยช่วง 1Q68 จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นภาครัฐฯ ทั้งโครงการแจกเงินผู้สูงอายุ 1 หมื่นบาท 4 ล้านคน โครงการ Easy E-Receipt ที่จะช่วยหนุนต่อยอดขาย BIG-C
นอกจากนี้ BJC ยังเป็นหุ้นที่มักให้ผลตอบแทน Outperform ตลาด ก่อนตรุษจีน 2 สัปดาห์ โดยสถิติ 10 ปีปรับขึ้นเฉลี่ย 1.6% เทียบ SET ที่บวกเฉลี่ย 0.96%ซึ่งปีนี้โอกาสที่ชนะมีสูง จาก Sentiment บวกของมาตรรัฐเข้าหนุน ขณะที่ P/E ปี 68 อยู่ที่ 16.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี –1.6 S.D. ซึ่งเป็นระดับที่ไม่แพง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 31.00บาท

 


KEY FACTOR
เงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. +2.9 YoY และ +0.4% MoM เป็นไปตามที่ Consensus คาดการณ์ อย่างไรก็ตามเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) +3.2% YoY และ +0.2% MoM ต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ +3.3% YoY และ +0.3% MoM ถือเป็นสัญญาณบวกการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อภาคบริการ เป็นไปในทิศทางเดียวกับต้นทุนฝั่งผู้ผลิต ที่ดัชนี PPI ภาคบริการทรงตัว

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 4.65% ย่อตัวลงจากจุดสูงสุดที่ทำไว้บริเวณ 4.8% ในขณะที่มุมมองตลาดให้น้ำหนัก Fed ลดดอกเบี้ยในปีนี้ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเป็น 1.5 ครั้ง ขยับขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ทำไว้ประมาณ 1.1 ครั้ง เช่นกัน สะท้อนภาพตลาดการเงินโลกที่ผ่อนคลายลงจากความกังวลต่อภาวะดอกเบี้ยสูงลดลง ซึ่งถือเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย คาดหนุน 1) ค่าเงินบาทชะลอการอ่อนค่า และ 2) กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอแรงขายลง โดยปัจจัยสำคัญในช่วงถัดไป คือ ความชัดเจนนโยบายของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีมากขึ้นในช่วงปลายเดือน


EYES ON
7 ม.ค. GDP 4Q67 จีน, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ และจีน, ดัชนี CPI Eurozone ธ.ค.

 


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เฟด คงดอกเบี้ย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย พัก แบบปรับฐาน ในเช้าวันนี้ หลังจากวานนี้ ดัชนฯพุ่งแรง ประกอบกับ เฟด ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้