Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : TU คงคำแนะนำ “ถือ” พร้อมลดราคาเป้าหมายเหลือ 13.60 บาท

489

 


Thai Union Group (TU TB)
คาดผลประกอบการ 4Q67 อ่อนแอ

คงคำแนะนำ “ถือ” พร้อมลดราคาเป้าหมายเหลือ 13.60 บาท
เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยเหตุผลดังนี้ 1) กำไรสุทธิหลักจากการดำเนินงานที่อ่อนแอใน 4Q67 2) อัตราภาษีที่แท้จริงเพิ่มขึ้นในปี 68 และ 3) การเติบโตของความต้องการที่ชะลอตัวลงเนื่องจากฐานที่สูงในปี 68 เราได้ปรับลดราคาเป้าหมายอิงวิธี SOTP เป็น 13.60 บาท หลังปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิหลักจากการดำเนินงานปี 67-68 ลง 2-6% โดย CPF (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28.75 บาท) ยังคงเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มอาหารของเรา


ผลประกอบการ 4Q67 อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
เราคาดการณ์กำไรสุทธิหลักจากการดำเนินงานของ TU ใน 4Q67 อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท (-3% YoY, -7% QoQ) โดยได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เอื้ออำนวย และความต้องการสินค้ากุ้งแช่แข็งที่ลดลง ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าคาดการณ์เดิมของเรา 8% เนื่องจากยอดขายที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ เราคาดยอดขาย 4Q67 อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท (-0.4% YoY, +1.5% QoQ) โดยได้รับแรงกดดันจากฐานสูงในธุรกิจสัตว์เลี้ยง ยอดขายสินค้ากุ้งแช่แข็งที่อ่อนแอ และแรงกดดันจากอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดว่าจะอยู่ที่ 18.8% สูงกว่า 18.7% ใน 3Q67 และ 17.8% ใน 4Q66 สะท้อนถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขาย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 13.7% (เทียบกับ 13.5% ใน 3Q67และ 11.7% ใน 4Q66) ส่วนใหญ่มาจากต้นทุนค่าขนส่ง ค่าทำการตลาด และโครงการภายในที่สูงขึ้น

 

ราคาปลาทูน่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี 68
ใน 4Q67 ราคาปลาทูน่าครีบเหลืองอยู่ที่ 1,530 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน (+1% YoY, +8.5% QoQ) โดย TU คาดว่าราคาปลาทูน่าจะปรับตัวขึ้นในปี 68 เมื่อเทียบกับ 1,438 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันในปี 67 โดยเราคาดว่าภาวะลานีญาอาจส่งผลกระทบต่อการจับปลาทูน่าและทำให้ราคาปลาทูน่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 68 เราคาดว่าราคาปลาทูน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,500-1,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ GPM ของ TU ในปี 68

 

ลดคาดการณ์กำไรสุทธิหลักจากการดำเนินงานปี 67-69 ลง 2-6%
เราปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิหลักจากการดำเนินงานปี 67-69 ลง 2.3-6.2% เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการ 4Q67 ที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ และแนวโน้มกำไรที่ลดลงในอนาคต โดยหนึ่งในปัจจัยที่กดดันกำไรสุทธิหลักจากการดำเนินงานในปี 68 คือการเพิ่มขึ้นของอัตราภาษีที่แท้จริงเป็น 15% ในปี 68 จาก 9% ในปี 67 เนื่องจากการบังคับใช้มาตรการภาษีขั้นต่ำระดับโลก (global minimum tax)

Tanida Jirapornkasemsuk
tanida.jirapornkasemsuk@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1396

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้