Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KSS Daily Strategy

601

 

"Selective Play"

KSS Daily Strategy: คาด SET วันนี้ "ผันผวนก่อน Rebound" ต้าน 1370/1375 จุด รับ 1352/1342 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการ วันนี้น่าจะการรอติดตาม 2 เรื่อง คือ 1.) รายงานภาคแรงงานคืนนี้ ยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร ธ.ค. 24 ตลาดคาด 1.64 แสนตำแหน่ง อ่อนตัวลงจาก prev. ที่ 2.27 แสนตำแหน่ง , อัตราว่างงาน ตลาดคาด 4.2% ทรงตัวจาก prev. ขณะที่ Top Rank Economists ประเมินทิศทางอ่อนลงเช่นกัน สอดคล้องรายงานเศรษฐกิจก่อนหน้าส่วนใหญ่องค์ประกอบการจ้างงานอ่อนลง คาดลดแรงกดดัน Yield ได้บางส่วน อีกด้านเป็นการรอ 2.) ความชัดเจนการผลักดันนโยบาย Trump 2.0 ที่ทำให้ต่างชาติกลับมาลดสถานะในตลาดหุ้นไทย ภายในที่ประเด็นลบเฉพาะตัว อาทิ การเตรียมเพิ่มความเข้มงวดการกำกับดูแล (เข้มงวดการปล่อยมาร์จิ้น+การนำหุ้นไปจำนำ) ขณะที่เริ่มมีกระแสลบฝั่งท่องเที่ยวที่ชาวจีนเริ่มกังวลเที่ยวไทย ประเมิน SET อยู่ในช่วงผันผวน แต่ระดับดัชนีที่ปรับฐานจนมี Equity Risk Premium @ 4.0% ใกล้ๆ จุดกลับตัวภาวะปกติ AVG+1S.D. ที่ 4.05% คาดมีโอกาส Rebound ได้ โดยหุ้นที่น่าจะฟื้นได้ก่อน คือ กลุ่มพลังงานต้นน้ำ (ราคาน้ำมัน+ค่าการกลั่นขยับขึ้น) หุ้น Defensive +Dividend Plays (ธนาคาร สื่อสาร ร.พ.) หุ้นได้ประโยชน์ Easy E-Receipt วันนี้แนะนำ INTUCH, SCB, PTTEP เด่น

 

 

 

Daily outlook: "ผันผวนก่อน Rebound" ต้าน 1370/1375 จุด รับ 1352/1342 จุด

What happened around the world?

(*) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการจากวัน National Day แต่ เช้านี้ Dow jones Futures ลบเล็กน้อย -0.3%

(*) China CPI : จีนรายงานเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค.24 เป็นไปตามที่ตลาดคาด CPI +0.1%y-y, ทรงตัว m-m vs prev. +0.2%y-y, -0.6%m-m ขณะที่เงินเฟ้อ PPI -2.3%y-y vs prev. -2.5%y-y สะท้อนมุมมองภาวะเงินฝืด ทำให้คาดการณ์รัฐบาลจีนยิ่งมีโอกาสเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการเงินและกาคคลัง KSS มองบวกต่อตลาดหุ้นจีน เน้นสะสมหุ้น China Play นำโดย SCC IVL PTTGC

(*) US Labour : ฝั่งสหรัฐ คืนนี้ 10 ม.ค. ติดตามรายงานภาคการจ้างงานสหรัฐฯ ธ.ค. 24 1.) ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร ธ.ค.24 ตลาดคาด 1.53 แสนตำแหน่ง vs prev. 2.27 แสนตำแหน่ง. 2) อัตราว่างงาน ธ.ค. 24 ตลาดคาด 4.2% ทรงตัวจาก prev. ที่ 4.2% เราประเมินความเป็นไปได้ที่จะเห็นภาพใกล้เคียงกับตลาดคาด อิงสัญญาณชี้นำภาคแรงงานในส่วนยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานว่างงานครั้งแรก ธ.ค. 24 เป็นภาพแกว่ง Sideways ในกรอบ 2.2-2.4 แสนราย แต่ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 2.0 แสนตำแหน่ง สะท้อนภาพการจ้างงานสหรัฐฯ สมดุล บ่งชี้ภาพ Goldilocks to Soft Landing ของสหรัฐฯ ที่ค่อนข้างชัดในระยะหลัง และยังไม่น่าจะทำให้ตลาดกังวลต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย (Hard Landing)

(*) US Bond Yields & Dollar : Bond yield สหรัฐปรับขึ้นต่อรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแกร่ง อิง อายุ 2 ปี แกว่งตัวใกล้เคียงเดิม อยู่ที่ 4.266% และอายุ 10 ปีปรับลง 2 bps อยู่ที่ 4.67% (หากอิงสถิติ US Bond yields 10 ปี และ Thai Bond yield 10 ปี มีค่าสหสัมพันธ์สูงราว 0.6 หรือไปทางใดเดียว) มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มการเงิน SAWAD กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF ส่วน Dollar Index แกว่งตัวแข็งค่าต่อขึ้นมาบริเวณ 109.0 จุด

(*/+) Oil : ราคาน้ำมันดิบยังเป็นขาขึ้นปรับขึ้นทำจุดสูงสุดตั้งแต่ กลางเดือน พ.ย.24 อิง น้ำมันดิบ Brent +1.31%d-d ปิดที่ USD 77.16/barrel น้ำมันดิบ West Texas +0.82%d-d ปิดที่ USD 73.92/barrel

(+) Refinery: ค่าการกลั่นฟื้นตัว วานนี้ค่าการกลั่น ณ โรงกลั่นสิงคโปร์ ปิดล่าสุด 9 ม.ค. พลิก เพิ่มขึ้น (+24%d-d) ปิดที่ระดับ 4.69$/bbl นับเป็นสัญญาณบวกต่อการดำเนินงานปกติของกลุ่มโรงกลั่น BCP SPRC

(+) World Container Index (WCI) : WCI ปรับเพิ่มขึ้นทำ New high ในรอบ 3 เดือน ล่าสุด +2%w-w อยู่ที่ 3986 เหรียญต่อ 40 ft และปรับขึ้นเกือบทุกเส้นทางเรือ ประเมินจิตวิทยาบวกต่อหุ้นเรือ Container อาทิ RCL และบวกต่อกลุ่มให้บริการโลจิสติกส์ในลักษณะ Freight Forwarder ที่มีสัดส่วน Sea Freight สูง อาทิ SINO (90% ของรายได้), SONIC (62% ของรายได้) LEO (75% ของรายได้) และ WICE (34% ของรายได้) ส่วน Upside เชิงบวกจาก WCI จากกระแสคาดการณ์ว่าคนงานท่าเรือชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ จะกลับมาประท้วงหยุดงานในวันที่ 15 ม.ค.25 ทำให้ค่า Frieght และ WCI เร่งขึ้น คาดลดลง หลังจากล่าสุดเมื่อวาน สหภาพแรงงานที่เป็นตัวแทนของพนักงานท่าเรือ 45,000 คน ตามชายฝั่งตะวันออกและอ่าวของสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้น

 

What happened in Thailand?

(-) SET Index SET Index วันทำการล่าสุดร่วง -24.75 จุด (-1.78%) ปิดที่ระดับ 1,363 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.68 หมื่นล้านบาท ดัชนีปรับลงจาก 3 ปัจจัยลบ 1)วิตกข่าวทรัมป์เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้า, 2) ข่าวการเมือง หลัง กกต. ระบุอดีตนายกฯ ใช้โนบายรัฐขึ้นปราศัยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. เสี่ยงผิดกฏหมายเลือกตั้ง และ 3) กังวลข่าว กลต.เข้มงวดการซื้อขายบัญชีมาร์จิ้น กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มพลังงาน (PTTEP, GULF) ราคาน้ำมันชะลอการขึ้น ส่วน GULF กดดันจาก Yield สหรัฐฯเร่งขึ้น กลุ่มค้าปลีก (CPAXT, CPALL) กลุ่มหนุน คือ กลุ่มชิ้นส่วน (DELTA) มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รับข่าว DELTA ไต้หวันรายงานยอดขายประจำเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.7%mom และ 22.2%yoy

(-) Flows: เงินทุนต่างชาติวันทำการล่าสุด เงินไหลออก ขายหุ้น -63.9 ล้านเหรียญฯ ขายพันธบัตร -41.8 ล้านเหรียญฯ TFEX Net short -20,447 สัญญา เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กๆสู่ 34.54+/- บาท

(*/-) TH Politic: นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวเตือน อดีตนายกฯ 'ทักษิณ' นำนโยบายรัฐบาลปราศรัยหาเสียง 'อบจ.' สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย ประเมินเป็นจิตวิทยาลบการเมืองในฐานะที่คุณทักษิณมีความเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย แกนนำรัฐบาล

(*/-) TH Tourism: จากข่าวการหายตัวไปของ "ซิงซิง" นักแสดงหนุ่มชาวจีน บริเวณชายแดนไทย-พม่า แม้ปัจจุบันพบตัวนักแสดงแล้ว แต่สร้างกระแสโลกออนไลน์จีน หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความปลอดภัยของการเดินทางมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงภัยจากขบวนการค้ามนุษย์ เริ่มส่งผลต่อยอดจองโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวของไทย ประเมินลบต่อภาคท่องเที่ยว ซึ่งปี 2025F เป็นปีที่คาดหวังแรงหนุนนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่ระยะสั้นเกิดขึ้นก่อนเทศกาลตรุษจีนที่นักท่องเที่ยวจีนคึกคักมากสุด

เชิงกลยุทธ์ ระยะสั้นเลี่ยงกลุ่มท่องเที่ยว รอติดตามผลกระทบจริงก่อน ทั้งนี้ หากอิงผลกระทบในอดีตที่มีเหตุการณ์กระทบท่องเที่ยวในอดีต เราพบว่ามักจะกระทบช่วงสั้นๆก่อนฟื้นตัว

เหตุการณ์เรือล่ม จ.ภูเก็ต 5 ก.ค. 2018 นักท่องเที่ยวจีน ลดลง 50% ในช่วง 3-4 เดือนหลังเหตุการณ์ก่อนฟื้นตัว
เหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์ 17 ส.ค. 2015 นักท่องเที่ยวจีนลดลงราว 30 % ในช่วง 1-2 เดือนหลังเหตุการณ์ก่อนฟื้นตัวแต่สำหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาว เรายังแนะนำ ทยอยสะสม ในฐานะหุ้นได้ประโยชน์สูง จากการเดินหน้ากระบวนการพัฒนาโครงการสถานบันเทิงครบวงจร New S Curve ใหม่ภาคบริการไทยที่น่าจะมีความคืบหน้าตลอดทั้งปี 2025F
ทั้งนี้ สำหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาว เรายังแนะนำ ทยอยสะสม ในฐานะหุ้นได้ประโยชน์สูง จากการเดินหน้ากระบวนการพัฒนาโครงการสถานบันเทิงครบวงจร New S Curve ใหม่ภาคบริการไทยที่น่าจะมีความคืบหน้าตลอดทั้งปี 2025F

(*/-) SSO Investment Policy: รมว. แรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้มอบนโยบายไปยังสำนักงานประกันสังคม เกี่ยวกับการบริหารเงินลงทุนของกองทุนประกันสังคม โดยให้พิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง และมีความเสี่ยงต่ำ โดยไม่ให้กองทุนไปลงทุนในหุ้นแบบรายตัวเหมือนในอดีต ทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ประเมินกลาง – ลบอ่อนๆ ต่อ SET ที่เม็ดงินประกันสังคมมีทางเลือกจำกัดขึ้น อย่างไรก็ตาม การเน้นหุ้นมั่นคงสูง คาดเน้นไปที่การลงทุนหุ้น Big Cap มากขึ้น ทำให้ผลกระทบโดยรวมกรณีดังกล่าวจำกัด

(*) To monitor: ปัจจัยกายในสัปดาห์หน้าติดตาม

1.) 13 ม.ค. ติดตามข้อมูลงานสัมมนา "Chat with TONY: Bull Rally Thai Capital Market" โดยมีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ให้ข้อมูล

2.) ประชุม ครม. และรายงานนักท่องเที่ยวต่างชาติรายสัปดาห์

3.) 14 ม.ค. ติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค. 24 ไม่มีคาด vs prev. 56.9 จุด

4.) 14 ม.ค. กลุ่มธนาคารเริ่มรายงานกำไร 4Q24F นำโดย TISCO ตามด้วย 17 ม.ค. ในส่วน TISCO ธนาคารที่เหลือคาดทยอยรายงานสัปดาห์ถัดไปช่วง 20-21 ม.ค. ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มธนาคารที่เราศึกษา ประเมิน กำไรสุทธิ 4Q24F ที่ 4.90 หมื่นลบ. กำไรเพิ่มขึ้น +15% y-y เพราะ i) การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม-บริการ ii) การลดลงของค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) ขณะที่กำไรลดลง -11% q-q เพราะ i) การลดลงของ yield on loan ii) การลดลงของเงินลงทุน(FVTPL) iii) การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายตามฤดูกาล โดยทางพื้นฐานเราชื่นชอบ KBANK และ KTB มากสุด

5.) 16 ม.ค. นโยบาย Easy E-Receipt เริ่มมีผล คาดหนุนภาพบริโภคคึกคักขึ้น

 

 

Daily Strategy : INTUCH, SCB, PTTEP

ระยะสั้น วันนี้มองตลาดหุ้นไทยวันนี้ "ผันผวนก่อน Rebound" ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นการรอรายงานภาคแรงงานวันนี้ คาดระดับการจ้างงานที่อ่อนตัวลง m-m น่าจะช่วยบรรเทาแรงกดดัน Yield บางส่วน นอกจากนี้ เป็นการรอความชัดเจนนโยบายคุณ Trump 2.0 ขณะที่ภายในยังมีจิตวิทยาลบทั้งการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น ทำให้ยังน่าจะมีความผันผวนปกคลุม แต่ระดับดัชนีที่มี Equity Risk Premium ระดับ 4.0% +/- ใกล้เคียง AVG + 1 S.D. ที่ 4.05% จุดกลับตัวภาวะปกติ หนุนโอกาสมีภาพ Rebound ได้เช่นกัน หุ้นเด่นที่น่าจะฟื้นตัวได้ก่อน คือ กลุ่มพลังงานต้นน้ำ (ราคาน้ำมัน+ค่าการกลั่นขยับขึ้น) หุ้น Defensive +Dividend Plays (ธนาคาร สื่อสาร ร.พ.) หุ้นได้ประโยชน์ Easy E-Receipt

 

หุ้นในธีมประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง Infrastructure Technology ของภูมิภาค (WHA, GULF, GPSC, STPI, DELTA ADVANC, TRUE, INSET, BE8, BBIK)
หุ้นในธีม Trump 2.0 (AMATA, WHA, PTT, PTTEP, CPF, SCB, KBANK, KTB, CPALL, BJC, HMPRO, ADVANC, GULF, GPSC)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มไวขึ้นของรัฐบาลใหม่ ผสาน ท่องเที่ยว การผลักดัน Entertainment Complex คาดเป็นนโยบายหลัก หนุน บริโภค ท่องเที่ยว โรงแรม ร.พ. (AOT, BTS, VGI, BJC, STECON, ERW, BA, MBK)
กลุ่มได้ประโยชน์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ (IVL, AOT, AU, PTTGC, SCC, CPALL, BJC)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, BA, AAV, MTC, AEONTS, TRUE, CPALL, BJC)
•Jan 2025 Stock Picks : ADVANC, INTUCH, SCB, TTB, BTS, GULF, MALEE

• 2025F Stock Picks : ADVANC, AWC, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, IVL, KBANK, KTB, TRUE Mid-Small Cap Play : INSET, JMT, MALEE, MOSHI

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้