ปี 2568 ปริมาณและราคาจะปรับตัวสูงขึ้น

Key Point :
4Q67 คาดกำไรสุทธิจะอ่อนลง y-y เพราะไม่มีรายการพิเศษมาลด หย่อนภาษีเหมือนปีก่อน และลดลง q-q จากส่วนแบ่งกำไร CKP ที่ลดลงตามฤดูกาล ในปี 2568 คาดทั้งปริมาณขายและราคาขายสูงขึ้น ตามแนวโน้มการซื้อน้ำประปาของ กปภ. และเงินเฟ้อ คาดกำไรสุทธิปี 2567 และ 2568 ที่ 2,771 ล้านบาท และ 2,855 ล้านบาท ราคาพื้นฐาน 10.30 บาท คงแนะนำ “ซื้อ” เน้นรับปันผลปี ละ 0.60 บาท และมี upside หากรัฐบาลลดค่าไฟฟ้าลงได้

  4Q67 ปริมาณการขายน้ำประปาอยู่ที่ 78.40 ล้าน ลบ.ม. +8.7% y-y (TTW +6.9%, PTW +10.8% และ BIE -0.2%) ทั้งจากการส่งออกที่ดีขึ้นใน 4Q67 โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารทะเลแปรรูปและกลุ่มอาหารสัตว์ที่เป็นลูกค้าในสมุทรสาครพื้นที่ของ TTW รวมถึงราคาขายน้ำประปาสัญญาใหม่ของ PTW ที่เป็นรับจ้างผลิตถูกลง รวมถึงสัญญาใหม่ของ TTW ส่วนที่เกิน 3.54 แสน ลบ.ม. ราคาถูกลงเช่นกัน ทำให้การประปาภูมิภาค (กปภ.) ซื้อน้ำประปาเพิ่มขึ้นหลังได้ตกลงสัญญาใหม่ โดย 4Q67 TTW และ PTW ขายเฉลี่ยที่ 4.01 แสน ลบ.ม. และ 4.31 แสน ลบ.ม. ต่อวัน เทียบช่วงต้นปีใน 1Q67 เฉลี่ยที่ 3.81 แสน ลบ.ม. และ 4.12 แสน ลบ.ม. คาด 4Q67 รายได้ขายน้ำประปาที่ 1,276 ล้านบาท +0.8% y-y ซึ่งถือเป็นไตรมาสแรกที่รายได้ขายน้ำประปาโต y-y นับตั้งแต่ 4Q66 ที่ได้สัญญาใหม่ ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากอัตราค่าไฟฟ้าใน 4Q67 ที่ 4.18 บาท/หน่วย จาก 4Q66 ที่ 3.99 บาท SG&A ทรงตัว และดอกเบี้ยจ่าย -12.5% จากการทยอยคืนเงินต้นและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง แต่ภาษีจ่ายจะเพิ่มขึ้นมีนัยสำคัญ 86.1% เพราะปีก่อน PTW ได้มีการโอนสินทรัพย์ไปให้ กปภ. ทำให้ภาษีจ่ายลดลงราว 80 ล้านบาท และอัตราภาษีจ่ายที่ 10.4% ซึ่งปีนี้คาดจ่ายที่ 19.9% กำไรจากธุรกิจน้ำประปาจะ-12.9% y-y ที่ 592 ล้านบาท หากไม่นับรวมเรื่องภาษีจะทรงตัว เมื่อรวมส่วนแบ่งกำไรจาก CKP ที่ทรงตัว y-y คาดกำไรสุทธิที่ 730 ล้านบาท -10.5% y-y และ -20.3% q-q จากส่วนแบ่งกำไร CKP ที่ลดลงตามฤดูกาลและ SG&A ที่สูงขึ้นจากโบนัสพนักงาน และทำให้ทั้งปี 2567 คาดกำไรสุทธิ 2,771 ล้านบาท -5.5% y-y

  ปี 2568 ปริมาณและราคาขายที่เพิ่มขึ้น y-y โดย TTW มีสัญญาขายน้ำประปา 3 ส่วน คือ 1) 3 แสน ลบ.ม. แรก ราคาขายปรับขึ้น 1.33% ที่ราคา 31.49 บาท/ลบ.ม. จากเดิมที่ 31.23 บาท ตามเงินเฟ้อภาคกลางเดือน ธ.ค. 2) ส่วนที่เกิน 3 แสน ลบ.ม. – 3.54 แสน ลบ.ม. ราคาขายปรับขึ้น 0.98% เป็น 13.16 บาท/ลบ.ม. จาก 13.03 บาท และ 3) ส่วนที่เกิน 3.54 แสน ลบ.ม. เริ่มสัญญา 1 มิ.ย. 2567 ราคาขายปรับขึ้น 0.98% ที่ 10.60 บาท/ลบ.ม. จากเดิม 10.50 บาท ซึ่งในส่วนที่ 2 และ 3 ปรับตามเงินเฟ้อภาคกลางเดือน พ.ย. หลังจากได้สัญญาที่ 3 ปริมาณการซื้อของ กปภ. เพิ่มเป็น 4.00 แสน ลบ.ม./วัน ช่วง มิ.ย.-ธ.ค. 2567 หลังได้สัญญา +4% จาก 3.86 แสน ลบ.ม. ช่วง ม.ค.-พ.ค. 2567ก่อนช่วงได้สัญญาเพิ่ม และ PTW จะได้ปรับค่าน้ำประปาขึ้น 0.83% เป็น 6.55 บาท/ลบ.ม. ในส่วน 3.58 แสน ลบ.ม. แรกและส่วนที่เกิน 3.58 แสน ลบ.ม. ที่ 6.11 บาท/ลบ.ม. จากเดิมที่ 6.50 บาท และ 6.06 บาท ส่วนพื้นที่ BIE ราคาขายเท่าเดิมที่ 24.75 บาท/ลบ.ม. โดยปี 2568 รายได้โตขึ้นทั้งงปริมาณและราคาขายน้ำประปาที่สูงขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายแนวโน้มมีแนวโน้มลดลงจากค่าไฟฟ้าที่ลดลงจาก 4.18 บาท เป็น 4.15 บาท/หน่วยในช่วง ม.ค.-เม.ย. 68 รวมถึงการทยอยคืนเงินกู้อีก 660 ลบ. และ Refinance หุ้นกู้อีก 1,400 ลบ. คาดกำไรสุทธิของธุรกิจน้ำประปากลับมาเติบโต ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจาก CKP คาดจะเพิ่มกว่าปี 2567

ยังคงแนะนำ “ซื้อ” เน้นรับเงินปันผล โดยมี upside จากนโยบายลดค่าไฟฟ้าของรัฐบาล ราคาพื้นฐาน 10.30 บาท

 กำไรสุทธิจะผันผวนจากส่วนแบ่งกำไรของ CKP เป็นหลัก แต่ธุรกิจน้ำประปาซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทมีรายได้และผลกำไรผันผวนน้อย ทำให้ TTW สามารถจ่ายปันผลมาได้สม่ำเสมอที่ 0.60 บาท/หุ้น โดยจ่ายปีละ 2 ครั้ง ซึ่งมีผลตอบแทนจากปันผลราว 6-7% เป็นจุดเด่นของบริษัท ทางฝ่ายคาดกำไรในปี 2567 ที่ 2,771 ล้านบาท -5.5% y-y และปี 2568 ที่ 2,855 ล้านบาท +3% y-y ยังแนะนำ “ซื้อ” เน้นลงทุนรับเงินปันผล และให้ติดตามนโยบายค่าไฟฟ้าของรัฐบาล หากสามารถทำได้ ค่าไฟฟ้าลดลงได้ จะเป็น upside ต่อกำไรสุทธิของ TTW เพราะค่าไฟฟ้าคิดเป็นราว 30-35% ของต้นทุน

สยาม ติยานนท์
นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ #17970
โทร: 66 2 635 1700 # 483