Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

567

 

AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งออกข้าง
เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1375-1395 จุด สภาพแวดล้อมยังผสมผสาน จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มมีรีบาวน์แต่ U.S. Bond Yield ที่สูงเป็นปัจจัยจำกัดการไหลเข้าของ Flow วันนี้เลือก CRC และ KTB

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ผ่านมาปรับขึ้นในช่วง 0.8%-1.8% แรงหนุนหลักมาจากการซื้อของหุ้นกลุ่ม Big Tech ที่ได้ Sentiment บวกหลัง Microsoft ประกาศลงทุน AI-Enabled datacenters 80 หมื่นล้านเหรียญฯ ซึ่งอาจสร้าง Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นภูมิภาค แต่อย่างไรก็ตาม U.S. Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯที่อยู่ระดับ 4.6% หลังการรายงาน ISM ภาคผลิตสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. ที่ 49.3 มากกว่าตลาดคาด 48.3 และเดือนก่อนที่ 48.4 ระยะสั้นจึงยังมองเป็นปัจจัยที่จำกัดการไหลเข้าของ Fund Flow ต่างชาติ โดยเรามองจุดที่จะทำให้ U.S. Bond Yield ชะลอลงได้ ในระยะสัปดาห์นี้น่าจะขึ้นอยู่กับการรายงานตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯเดือน ธ.ค. ซึ่งปัจจุบันมีลางที่ดีจาก Bloomberg Consensus คาด NFP เพิ่มขึ้น 1.6 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าเดือนก่อนที่ 2.27 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงานทรงตัว 4.2%

ประเด็นในประเทศเราให้ความสนใจที่การปราศรัยของคุณทักษิณที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีการกล่าวถึงการลดค่าไฟในปีนี้ให้ลงมาที่ 3.70 บาท/หน่วย หรือลดลง 11% จากปัจจุบันอยู่ที่ 4.15 บาท/หน่วย ในมุมมองของเรายังคงต้องติดตามรายละเอียดในทางปฏิบัติว่าจะมีผลกับกลุ่มใดบ้าง เนื่องจากหากค่าไฟลดมาที่ 3.70 บาทได้จริงถือเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าไฟฐานที่ 3.78 บาท ส่วนผลในระยะสั้นอาจสร้าง Sentiment ลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP อย่าง GPSC BGRIM แต่อีกด้านหนึ่งหากอัตราค่าไฟที่ลดลงมีผลกับผู้ประกอบการภาคเอกชนด้วย มองเป็นบวกกลุ่มค้าปลีก CRC CPALL และ BJC ที่ค่าไฟคิดเป็นสัดส่วน 1-2% ของยอดขาย กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม AOT AWC CENTEL AWC ERW และ MINT คาดผลของค่าไฟที่ลดลงมาที่ 3.7 บาท/หน่วย จะเป็น Upside ต่อประมาณการกำไรปี 68 เพิ่มขึ้น 0.6% - 5%


Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 4.9 จุด แรงหนุนหลักมาจากการฟื้นกลับหุ้นที่ปรับลงแรงวันก่อนจากความกังวลเรื่อง GMT นำโดย DELTA +3% CCET +1% GULF +1.3% INTUCH +2% ขณะที่กลุ่มอื่นๆ ที่ประคองตลาดกลุ่มธนาคารหลัง U.S. Bond Yield ทรงตัวสูง KTB +2% SCB +1% ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ กลุ่มขนส่ง AOT -0.8% กลุ่มท่องเที่ยว ERW -1.1% MINT -1% กลุ่มปิโตรฯ จากแรงขายทำกำไรหลักดีดแรงวันก่อน IVL -2.4% PTTGC -1%

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CRC KTB


KTB
ยืนระยะได้ท่ามกลาง
ความผันผวนของตลาด
เราเชื่อว่าราคา KTB ทนต่อแรงเสียดทานจากสภาพแวดล้อมที่ U.S. Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นสูงจากตลาดเชื่อว่า FED จะลดดอกเบี้ยฯ ได้ช้าลง ซึ่งจะทำให้แรงกดดันต่อการปรับลดดอกเบี้ยฯ ของ กนง. ลดลงเพื่อรักษา Policy Space จากความไม่แน่นอนของปัจจัยภายนอก ซึ่งจะเป็นบวกต่อการช่วยลดแรงกดดันต่อ NIM
พอร์ตสินเชื่อ KTB มีความเสี่ยงต่ำ แนวโน้มกำไรเติบโตชัดเจน มีเงินสำรองหนี้สูญสูงและมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่
ด้าน Valuation ซื้อขาย PBV ต่ำเพียง 0.68 เท่า คาดการณ์จ่ายปันผลสูงที่ 5.3%/5.9% ในปี 67/68 โดย KTB เป็นหุ้นธนาคารที่จ่ายปันผลครั้งเดียว ทำให้รอบการจ่ายปันผล 2H67 จะได้มากกว่ากลุ่ม เพราะส่วนใหญ่จ่ายปันผลระหว่างกาล 1H67 ไปแล้ว
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 25.00 บาท

 

CRC
ได้ประโยชน์จาก
มาตรการกระตุ้นของรัฐฯ
CRC ได้ประโยชน์จากมาตรการ Easy E-Receipt, แจกเงินผู้สูงอายุ 1 หมื่นบาท นอกจากนี้ประเด็นเรื่องค่าไฟ หากรัฐบาลสามารถลดจาก 4.15 บาท/หน่วย เป็น 3.70 บาทได้ มองเป็นบวกต่อภาคบริโภค ขณะที่หากเอกชนได้รับส่วนลดตรงนี้ด้วย เรามองเป็นบวกต่อต้นทุนค่าไฟที่ลดลง ซึ่งสำหรับ CRC คิดเป็นสัดส่วน 2% ของยอดขาย
แนวโน้มผลกำไร 4Q67E คาดขยายตัว QoQ หนุนจาก SSSG ในเดือน ต.ค.-พ.ย. ลบ low single digit ดีขึ้นจาก 3Q67 ที่ -3% หนุนจาก SSSG ของไทยเป็นบวกจากกลุ่มไทวัสดุ SSSG ฟื้นเป็นบวก (จาก -4% ใน 3Q67) และกลุ่ม Fashion มีโมเมนตัมดีต่อในเดือน ธ.ค. หลังจากเซ็นทรัลชิดลมปรับปรุงเสร็จ เปิดตัวไปเมื่อ 12 ธ.ค. 67
กำไรปี 68 เราคาดขยายตัว 13.5%YoY สูงกว่ากลุ่มค้าปลีกที่คาดเติบโต 10.5% ด้าน Valuation ไม่แพงเพราะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -0.5 S.D. ที่ PER68E 20.8x
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 40.00 บาท


KEY FACTOR
ในสัปดาห์นี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำเดือน ธ.ค. ที่จะทยอยรายงาน นำโดย เงินเฟ้อทั้งของไทย จีน และ Eurozone รวมถึงตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ (การจ้างงานภาคเอกชน ของ ADP, การจ้างงานนอกภาคเกษตร และ อัตราการว่างงาน) ทั้งนี้ คาดว่ามุมมองตลาดน่าจะยังคาดหวังที่จะเห็นตัวเลขฝั่งสหรัฐฯ ที่ ไม่ร้อนแรงจนเกินไป ในภาวะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาระมัดระวังกับเงินเฟ้อสูง และดอกเบี้ยสูงนานกว่าเดิม
ในวันนี้ มุมมอง Consensus คาดว่าเงินเฟ้อไทย เดือน ธ.ค. จะขยายตัว +1.4% YoY ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ขยายตัว +0.9% YoY เร่งตัวจาก +0.95% YoY และ +0.8% YoY ในเดือน พ.ย. ตามลำดับ ถือว่าสะท้อนภาพเชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและขยับเข้าใกล้เป้าหมายเงินเฟ้อของ รัฐบาลที่ตั้งไว้ระดับ 1-3%

 


EYES ON
6 ม.ค. เงินเฟ้อของไทย เดือน ธ.ค.
7 ม.ค. เงินเฟ้อ และอัตราการว่างงานของ Eurozone เดือน ธ.ค.
8 ม.ค. การจ้างงานเอกชน ADP
9 ม.ค. เงินเฟ้อของจีน เดือน ธ.ค.
10 ม.ค. การจ้างงานนอกภาคเกษตร และ อัตราการว่างงาน สหรัฐฯ

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ดันต่อ By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ หุ้นใหญ่ หน้าเดิม ดันSET ฝ่า 1,200 จุด ต่อ การสลับหน้าที่กันไป ห้วงระหว่างอยู่ ผลการ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้