Today’s NEWS FEED

News Feed

KSSประเมินหุ้นไทยปีหน้า 1660จุด/หุ้นเด่น ADVANC, AWC, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, IVL, KBANK, KTB, TRUE,INSET, JMT, MALEE, MOSHI

1,404


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(30 ธันวาคม 2567)--------บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี จำกัด(มหาชน)KSS เปิดเผยว่า ภาพการลงทุน 1Q25 ไปจนถึงตลอดทั้งปี 2025F KSS ยังมีมุมมองเชิงบวก จากภาพหลักวงจรดอกเบี้ยที่ยังคาดเป็นขาลงต่อเนื่อง แต่จุดเปลี่ยนแปลงไปจากมุมมองล่าสุดของ KSS คือ เราคาดความผันผวนระหว่างทางเรามองเพิ่มสูงขึ้น จากผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่คุณ Trump ได้รับชัยชนะ โดยประเมิน 3 นโยบายหลัก คือ 1.) การกีดกันผู้อพยพ 2.) สงครามการค้า ที่หาเสียงว่าจะปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีน 60% สินค้าชาติอื่น 20% และ 3.) การกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯครั้งใหญ่ โดยเฉพาะแผนการลดภาษีหลากหลายส่วน แต่แลกกับการก่อหนี้รองรับขาดดุลการคลังที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนโยบายส่วนใหญ่ของ Trump 2.0 ล้วนสร้างความกังวลต่อความเสี่ยงฝั่ง Upside ต่อเงินเฟ้อและวงจรดอกเบี้ย รวมถีงผลกระทบเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการสงครามการค้า

 

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันตลาดทยอยปรับสถานะสินทรัพย์ต่างๆ ล่วงหน้าความเสี่ยงมาบ้างแล้ว นับจากคะแนนเสียง Trump เริ่มเร่งขึ้นก่อนเลือกตั้ง US Bond Yield ที่ขยับขึ้นจากโซนฐาน +70 bps, ตลาดหุ้นสหรัฐฯที่เดินหน้า Outperform อยู่ในโซน All time High ขณะที่ตลาดหุ้น EM Asia แกว่งลงก่อน Sideways จากจิตวิทยาลบค่าเงินอ่อนค่าจาก Dollar Index แข็งค่า 6-7% ขึ้นทดสอบ 107 จุด และความกังวลสงครามการค้าที่อาจจะสร้าง Downside ต่อเศรษฐกิจ


Trump 2.0 อาจแตกต่างจาก Trump 1.0 การขับเคลื่อนนโยบายอาจเพิ่มความระมัดระวังผลกระทบต่อเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ แต่กรณีฐานตลาดจะยังระมัดระวังกลุ่มประเทศที่เสี่ยงกระทบสูง จนกว่าทิศทางนโยบายจะชัดเจน คงมุมมอง TIPs เสี่ยงจำกัด


เราประเมินผลกระทบนโยบาย Trump 2.0 มีโอกาสจะแตกต่างไปจากรอบแรกบางองค์ประกอบ โดยเฉพาะ Backdrop ของเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน อาทิ ยุค Trump 1.0 เศรษฐกิจกำลังเร่งขึ้น vs รอบนี้ กำลังร่อนลง ขณะที่ระดับหนึ้สาธารณะต่อ GDP ของสหรัฐฯรอบนี้ที่สูง 119% (vs รอบก่อน 102%) , เงินเฟ้อที่ยังไม่กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย Fed ค่าครองชีพเป็นประเด็นที่อ่อนไหวต่อชาวสหรัฐฯ เป็นข้อจำกัดในการขับเคลื่อนนโยบายที่กระทบเงินเฟ้อเชิงรุก ขณะที่ Supply Chain การผลิตโลกผ่านการปรับตัวจาก Trump 1.0 จนหลายผลศึกษาบ่งชี้ภาพหาก Trump ทำสงครามการค้าตามที่หาเสียงจะกระทบเศรษฐกิจสหรัฐฯมากสุด ทำให้เราประเมินมีโอกาสที่คุณ Trump จะขับเคลื่อนนโยบายค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ดี ในกรณี Base Case ด้วยความไม่แน่นอนที่ยังสูง เราวางกรณีฐานที่กำหนดทิศทางการลงทุนในปี 2025F โดยอิงกับข้อมูลในช่วงหาเสียงก่อน ในฝั่งสหรัฐฯ จะเด่นจากผลบวกของนโยบาย


ส่วนฝั่งกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสงครามการค้าสูง อาทิ ยุโรป, จีน, ไต้หวัน, เกาหลีใต้, ฮ่องกง (16-50% อิงยอดส่งออกไปจีน+สหรัฐฯ) ตลาดจะรอประเมินทิศทางนโยบายจริง ขณะที่ TIPs แรงกดดันจะอยู่ที่จิตวิทยาลบต้นปีจะอยู่ที่ Dollar Index ที่แข็งค่า แม้ผลกระทบทางลบสงครามการค้าจำกัด มีรายได้เชื่อมโยงจีนและสหรัฐต่ำกว่าภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะไทยมีสัดส่วนรายได้เชื่อมโยงสหรัฐฯ + จีน ต่ำกว่า 5% (Asia เฉลี่ย 10%) ตรงกันข้ามแรงกดดันจาก Trade War จะหนุนการเติบโตใหม่ (New S-Curve) จากกระแสย้ายฐานลงทุนเร่งขึ้น

KSS กำหนดดัชนีเป้าหมายปี 2025F ที่ 1660จุด แนะนำ ADVANC, AWC, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, IVL, KBANK, KTB, TRUE
Small Cap : INSET, JMT, MALEE, MOSHI


กำหนดดัชนีเป้าหมายปี 25 ที่ระดับ 1660 (เดิม 1730 จุด) โดยใช้สมมติฐานกำไรตลาดปี 2024F ที่ 96 บาท (เดิม 100 บาท) คิดเป็น Equity Risk Premium สูงกว่าค่าเฉลี่ย 3.3% ได้ Target PER 17.3 เท่า แรงขับเคลื่อนสำคัญ คือ 1) เศรษฐกิจไทยกำลังจะเร่งขึ้นทำจุดสูงสุดของปีในงวด 4Q24 ที่ 4.0% +/- จากงบประมาณรัฐฯ ที่จะกลับมาเป็นแรงส่งเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากการเบิกจ่ายตั้งแต่ต้นปีงบประมาณครั้งแรกในรอบ 2ปี ผสานภาคบริการ-การท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวดี ขณะที่ปี 2025F เติบโตต่อเนื่องอีก 3.0% ต้นปีคาดมี Upside เพิ่มเติมต่อด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก อาทิ ไร่ละพัน กองทุนหมู่บ้าน Digital Wallet เฟส 2 รวมถึงมาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้าบริการ นอกจากนี้แรงบวกสำคัญจะมาจากการเข้าสู่รอบลงทุนใหม่ของไทย


เราคาดนับจากปี 2025F จะเป็นวงจรลงทุนรัฐบาลและเอกชนสอดประสานอีกครั้ง สัญญาณบวกบ่งชี้ตั้งแต่ 3Q24 ที่การลงทุนขยายตัวเกิน 5%y-y ครั้งแรกในรอบ 8.5 ปี ซึ่งระยะถัดไปยังเต็มไปด้วยแผนผลักดัน อาทิ Mega Projects โครงสร้างพื้นฐาน 1.5-2.0 ล้านล้านบาท, กระแสเงินลงทุน Data Center ที่จะกลายเป็นรอบลงทุนต่อเนื่องยาวนานและต่อเนื่อง หลังดึงดูดต่างชาติเข้ามาลงทุนเฟสแรกสำเร็จแล้ว ผสาน New S Curve ใหม่โครงการ Entertainment Complex ที่แม้การลงทุนยังไม่เกิดขึ้นในปี 2025F แต่การเดินหน้ากระบวนการตลอดทั้งปี 2025F จะสร้างบรรยากาศทางบวก ทั้งนี้ อิงรอบลงทุนที่ขยายตัวต่อเนื่องของไทย 2 ครั้ง คือ 2001-2007 และ 2010-13 SET ปรับตัวขึ้นเฉลี่ยปีละ 17.8% และ 25.6% vs รอบเฉียด 10 ปีหลังที่ SET แกว่งตัว Sideways หากเสถียรภาพการเมืองนิ่ง การขับเคลื่อนนโยบายทำได้ต่อเนื่อง

เราประเมินปี 2025F SET จะมีปัจจัยภายในเป็นภูมิคุ้มกันความผันผวน และเป็นจุดตั้งต้นวงจรการเติบโตครั้งใหม่

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ลุ้น หวยออก By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ลุ้น หวยออก ระหว่างรอ ครม. ระหว่างรอผลประชุม เฟด เงินบาทแข็งค่า.....

ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่

ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่

มัลติมีเดีย

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้