Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

394

 

 

วัดใจLTF2.3 แสนล้านบาท จะไหลออกมั๊ย ?
สถานะ AUM ของLTF ณ สิ้นเดือน พ.ย.67 อยู่ที่ระดับ 2.3 แสนล้านบาทซึ่งประเมินว่าน่าจะเป็นส่วนที่ครบกำหนดขายได้แล้วในปัจจุบันราว 1.6แสนล้านบาท ส่วนที่เหลือทั้งหมดน่าจะครบกำหนดขายได้ตามเงื่อนไขการรับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษีต้นปี 2568 ซึ่งเรามองว่าเป็นขนาดเม็ดเงินที่มีนัยสำหรับตลาดหุ้นบ้านเราพอสมควร อย่างไรก็ตามต้องรอลุ้นดูว่า
เม็ดเงินก้อนดังกล่าวจะมีแรงขายออกมาเท่าไร ทั้งนี้จากสถิติย้อนหลัง 5ปี พบว่าเดือน ม.ค.ของทุกปีจะมีแรงขาย LTF ออกมาเฉลี่ย 1.05 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ใน ม.ค.67 ที่ผ่านมามีแรงขายออกมามากสุดอยู่ที่ 1.65หมื่นล้านบาท ส่วนปัจจัยแวดล้อมพื้นฐานอื่นๆ ไม่มีเรื่องใหม่ ส่วนใหญ่ยังอยู่กับทิศทางดอกเบี้ย ซึ่งในส่วนของ FED คาดลง 1-2 ครั้งในปี 2568ส่วนบ้านเรามีโอกาสคงดอกเบี้ยมาก แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้ปรับลดวันทำการสุดท้ายของปี มีโอกาสที่ต้องเผชิญกับแรงขายทำกำไรของคนที่ซื้อเก็งกำไรว่าจะเกิด WINDOW DRESSING ขณะที่มูลค่าการซื้อขายบาง กรอบ 1387-1410 จุด TOP PICK เลือก BDMS, BEM และ GULF

 


FED ส่งสัญาณ HAWKISH ลดดอกเบี้ยนะ แต่ลดช้าลง ส่งผลอย่างไรต่อในปี 68
วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงแรงราว 0.8%-1.5% จากความกังวลFED ส่งสัญาณ HAWKISH มากขึ้น ถูกตีความผ่าน BOND YIELD 10 ปี ที่ทยอยปรับตัวขึ้นเรื่อย จนล่าสุดอยู่ระดับ 4.63% หรือสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้วด้านประธาน FED เผยว่า การปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.67 ที่ผ่านมา เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก โดยเจ้าหน้าที่ FED บางรายต้องการคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.75%หลังกังวลเงินเฟ้อยังสูงกว่ากรอบเป้าหมาย 2% ส่วนทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคตจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในการเดินหน้านโยบายต่างๆ ของรัฐบาล TRUMP 2.0จึงทำให้คาดการณ์ DOT PLOT ล่าสุดประเมินว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ย เพียงแค่ 2 ครั้ง(เดิมคาด 4 ครั้ง) สู่ระดับ 4.0% ในปี 2568

 

อย่างไรก็ตามทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในปี 2025F ยังมีแนวโน้มลดลงอย่างน้อย 1 ครั้งคาดว่าจะทำให้ DOLLAR ชะลอการแข็งค่าลงไปได้บ้าง ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทียบช่วงเวลา
เดียวกันกับปี 2016 หลังจากที่ TRUMP ได้รับเลือกเป็น ปธน. สหรัฐฯ สมัยที่ 1 ราว 60วัน ค่าเงิน DOLLAR ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะชะลอตัวลง ซึ่งเป็นภาพที่คล้ายกับปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าตลาดจะขานรับข่าว TRUMP 2.0 ไปในระดับหนึ่งแล้ว และน่าจะเห็น DOLLAR มีแนวโน้มอ่อนค่าลงในระยะถัดไป

 


สรุป FED ส่งสัญาณ HAWKISH ลดดอกเบี้ยช้าลง โดยมองไว้ปีหน้าจะลดดอกเบี้ย 2ครั้ง อย่างไรก็ตามสถิติในอดีตหลังจากที่ TRUMP ได้รับเลือกเป็น ปธน. บ่งชี้ว่า หลัง60 ที่ TRUMP ได้รับเลือกเป็น ปธน. DOLLAR INDEX มักทยอยอ่อนค่าหลังจากที่แข็งค่ามาก่อนหน้านี้ เฉกเช่นเดียวกันปี 2024 ประเด็นดังกล่าว อาจหนุนให้เม็ดเงินไหลออกจาก DOLLAR INDEX และทอยกลับเข้าตลาดหุ้นได้บ้างต้นปี 2568 อาจถูกเม็ดเงินกดจาก LTF ขณะที่เม็ดเงินใหม่จากกองทุนไม่ค่อยมีแม้ยอด LTF สะสมเคยมีมูลค่าสูงสุดราว 4.06 แสนล้านบาท ในปี 2562 แต่ทยอยลดลงมาเหลือ 2.3 แสนล้านบาท ณ สิ้น พ.ย. 67อย่างไรก็ตามหากพิจารณาเฉพาะยอดเงินที่สามารถขายคืนได้ทั้งหมด พบว่า เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยปี 66 อยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท, ปี 67 เพิ่มเป็น 1.6 แสนล้านบาท และล่าสุดปี68 สูงสุด 2.3 แสนล้านบาท

หากประเมินแรงขายปกติ LTF ปกติจะขายออกมาในเดือน ม.ค. เฉลี่ยราว 1 หมื่นล้านบาท โดยปีที่แล้ว ม.ค. 67 มีแรงขาย 1.6 หมื่นล้านบาท ส่วน ม.ค. 68 มีโอกาสเผชิญแรงเพิ่มขึ้นเพราะมูลค่า LTF พร้อมขายใหม่เพิ่มขึ้นมา 7 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 43%จากปีก่อน คิดเป็นแรงขายได้ราว 2.3 หมื่นล้านบาท

 


อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากเม็ดเงินก่อนใหม่ที่พร้อมขาย มีต้นทุนที่สูงเทียบเท่า SETINDEX เฉลี่ยที่ 1608 จุด ทำให้ประเมินว่า แรงขาย จากกองทุน LTF ในเดือน ม.ค. 68
อาจแผ่วเบาลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 1.5 –2 หมื่นล้านบาท เท่านั้น


ส่วนแรงหนุนเม็ดเงินใหม่จากสถาบันฯก็มีน้อย คือ
• ไม่มีแรงหนุนจากกองทุนวายุภักษ์ 1.5 แสนล้านบาท เหมือนกับปีที่ผ่านมา
• ความคาดหวังเม็ดเงินจาก THAIESG หนุนตลาดได้น้อยลง สะท้อนจากเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุน THAIESG ราว 3 พันล้านบาทต่อเดือน แต่เอนเอียงไปลงทุนประภทตราสารหนี้ 1.5 – 2 พันล้านบาทต่อเดือน ส่วนกองทุนประเภทหุ้นไทยไหลเข้าน้อยกว่าราวๆ 1 – 1.5 พันล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ1.2 –1.8 หมื่นล้านบาทต่อปี

 

สรุปปี 2568 มีเม็ดเงิน LTF ที่พร้อมขายสูงขึ้นเป็น 2.3 แสนล้านบาท คาดจะเห็นแรงขายออกมา 1.5 – 2 หมื่นล้านบาทในเดือน ม.ค. 68 ส่วนแรงซื้อกองทุน THAIESG
อาจจะชดเชยได้ไม่มากพอ กดดัน SET ในช่วงเดือน ม.ค.68

 


Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

FTI ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านระบบบำบัดน้ำ จัดสัมมนาใหญ่ "Future Water Solutions 2025"

FTI ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านระบบบำบัดน้ำ จัดสัมมนาใหญ่ "Future Water Solutions 2025"

ไฟการเมือง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ นักลงทุน ยังคงชะลอลงทุนต่อไป ด้วยเห็นไฟการเมืองในประเทศแล้ว ก็ถอย พัก รอดูสถานการณ์ .....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้