Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

360

 


ดอกเบี้ย อยู่ใน ขาลง หรือ ขาทรง ?
ในส่วนของ FED ซึ่งเป็นหัวขบวนของทิศทางดอกเบี้ยโลก เริ่มเห็นสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นของการทรงตัวดอกเบี้ยนโยบาย เริ่มจากBOND YIELD 10 ปี ตัดทะลุอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมา,FEDWATCHTOOL และ DOT POT ส่งสัญญาณว่าในปี 2568 อาจลงดอกเบี้ยแค่ 1ครั้ง, ความน่าจะเป็นที่จะเกิด RECESSION ในช่วง 12 เดือนข้าง ลดลงขณะที่ตลาดแรงงานอยู่ในภาวะแข็งแรง ย้อนกลับมาดูที่บ้านเรา ภาวะดังกล่าวทำให้โอกาสที่ กนง. จะปรับลดดอกเบั้ยลดลง และหากเป็นไปตามที่คิดก็จะทำให้ภาระการกระตุ้นเศรษฐกิจตกอยู่ที่นโยบายการคลังซึ่งเราก็มีข้อจำกัดทางการคลังจากหนี้สาธารณะที่สูง องค์ประกอบดังกล่าวเพิ่มความเสี่ยงที่จะเปิด DOWNSIDE ให้กับคาดการณ์ GDPGROWTH และ อาจจะรวมถึง EPS GROWTH ของบริษัทจดทะเบียนด้วยช่วง 2 วันทำการสุดท้ายจะเป็นการสู้กันระหว่างแรงซิ้อเพื่อทำ WINDOWDRESSING กับแรงขายทำกำไร ทำให้SET INDEX ผันผวน กรอบวันนี้1387-1405 จุด TOP PICK เลือก INTUCH, KTB และ PTTGC


ปัจจัยแวดล้อมยังดูทรงตัว
วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวในกรอบแคบราว -0.05% ถึง +0.9% หลังปิดทำการในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ขณะที่สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานล่าสุดอยู่ที่ 219,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาด 223,000 ราย และชะลอตัวลงจากสัปดาห์ก่อนที่ 220,000 ราย นอกจากนี้ยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยปี 2019 ที่217,122 ราย สะท้อนภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ไม่น่าจะทรุดตัวลงแรงในระยะเวลาอันใกล้อาจทำให้ทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในปี 2025 เกิดขึ้นแค่ 1 ครั้ง


ส่วนในฝั่งประเทศจีนWORLD BANK ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP GRWOTH จีน ในปี 2024F เป็น 4.9% (เดิม 4.8%) และปี 2025F เป็น 4.5% (เดิม 4.1%) หลังรัฐบาลจีนออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่นับแต่ช่วงปลาย ก.ย. และการส่งออกที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม WORLD BANK เตือนความเชื่อมั่นที่ถดถอยทั้งในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ รวมถึงแรงกดดันในภาคอสังหาริมทรัพย์ จะยังคงฉุดรั้งเศรษฐกิจจีนในปี 2025

 

นโยบายการคลังกำลังตึงตัว หากมีนโยบายการเงินเข้ามาช่วยคงจะดีไม่น้อย
ภาพเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทยที่ยังขับเคลื่อนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งยังต้องการแรงกระตุ้นทั้งในส่วนของนโยบายการคลังที่เข้มข้น และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น

ขณะที่ทางฝั่งนโยบายการคลังยังเห็นมาตรการกระตุ้นเรื่อยๆ ผ่านการรวบรวมข้อมูลของฝ่ายวิจัยฯ ที่ว่ารัฐบาลเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้-รายจ่าย/ GDP พบว่าในปี2567 สัดส่วนรายได้สุทธิหลังหักการจัดสรร/GDP อยู่ที่ 15.1% ส่วนสัดส่วนงบประมาณรายจ่าย/GDP อยู่ที่ 18.9% ซึ่งปีหน้าตัวเลขยังสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 19.8%ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ ประเทศไทยขาดดุลงบประมาณมากขึ้นเรื่อยๆ โดยปี 2568 มีการขาดดุลงบประมาณสูงถึง8.7 แสนล้านบาท


ซึ่งตามมาด้วยการอนุมัติ EASY E-RECEIPT, แจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 และการเติมเม็ดเงินให้ชาวนาไร่ละ 1000 บาท ทำให้ของขวัญปีใหม่จากกระทรวงการคลัง ในช่วงเดือน ธ.ค. 67 – ก.พ. 68 (รวม 3 โครงการ) มีเม็ดเงินอีดฉัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจราว1.45 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.81% ของ GDP


อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในระยะข้างหน้า อาจทำให้การคลังของไทยเผชิญกับความท้าทาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกรอบงบประมาณรายจ่ายที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องท่ามกลาง GDP GROWTH ขยายตัวไม่สูงมาก เสี่ยงดันหนี้สาธารณะ/ GDP ปริ่มเพดาน 70% ในระยะถัดๆไป

 

ขณะที่ในมุมของนโยบายการเงินล่าสุด กนง.ให้ความเห็นว่า เราไม่ได้เหยียบเบรคและก็ไม่ได้ถึงกับกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ ซึ่งมองว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เป็นกลาง (NEUTRAL RATE) อย่างไรก็ตามในระยะถัดไป หาก กนง.เห็นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจแย่กว่าคาด ก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินเสมอ ส่วนมุมมองของฝ่ายวิจัยฯ เรามองว่ายังมีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดดอกเบี้ยสัก 1 ครั้งราว 0.25%หรือ 25 BPS. แต่น่าจะทิ้งช่วงไปเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือกลางปี 2568 ซึ่งหากมีการลดดอกเบี้ยสัก 1 ครั้ง จะสามารถขยับดัชนีเป้าหมายขึ้นราว 70 จุด ตามกลไกของPE ที่ยกขึ้น 0.7 เท่า

 

สรุป เศรษฐกิจไทยถ้าจะฟื้นแรง ต้องการแรงผลักจากนโยบายการคลังเพิ่มเติม แต่ติดที่หนี้สาธารณะ/GDP ของไทยสูง ใกล้ชนเพดาน จึงทำให้อาจมีความเสี่ยงที่จะเกินกรอบทางวินัยได้ ดังนั้นหากได้แรงกระตุ้นจากนโยบายการเงินผ่านการลดดอกเบี้ยน่าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยบได้ระดับหนึ่ง

วันนี้ ROLLOVER FUTURE แต่น่าจะผันผวนไม่มาก
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่นักลงทุนต้อง ROLLOVER FUTURES ซีรีย์ “Z24” ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในก่อนวันทำการสุดท้ายตอนสิ้นไตรมาส ทำให้ตลาดหุ้นไทยมักจะผันผวนในช่วงท้ายๆ ก่อนตลาดปิดเสมออย่างไรก็ตามหากประเมินสัญญาคงค้างหรือ OI ของ S50Z24 พบว่า มีสัญญาคงค้างเหลือเพียง 1.58 แสนสัญญา น้อยกว่าช่วง ROLLOVER 4 ครั้งก่อนหน้า ที่มีสัญญาเฉลี่ย 2.42 แสนสัญญา ดังนั้นตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายของวัน อาจไม่ได้ผันผวนแรงเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา


ต้นปี 2568 ประเมินตลาดอาจถูกกดจากการลด EPS เท่าไหร่?ปัจจุบัน ณ 26 ธ.ค. 24 ข้อมูลจาก BLOOMBERG ประเมิน EPS25F ที่ 98.5 บาท/หุ้น เทียบเท่ากำไร 1.2 ล้านล้านบาทต่อปี เฉลี่ยต่อไตรมาสอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท ถือว่าเกิดขึ้นได้ยาก เพราะสูงกว่ากำไรระดับปกติต่ไตรมาสที่ 2.5 แสนล้านบาท


ทำให้ช่วงต้นปีน่าจะเห็นการทยอยปรับประมาณการกำไรลง ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการรวบรวมข้อมูลว่า ช่วงต้นปีนักวิเคราะห์สำนักต่างๆ ปรับประมาณกันอย่างไร?พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นักวิเคราะห์สำนักต่างๆ ปรับประมาณการกำไรตลาดลงถึง 8 ใน 10 ปี และเฉลี่ยปรับ EPS ลงในเดือนแรกของปี -1.7 บาท/หุ้น และปรับลงในไตรมาสแรกของปีที่ -5.6 บาทต่อหุ้น อาจกดดัน SET INDEX ราว 30 ถึง 90 จุดได้(อิง P/E 16.5 เท่า)


แสดงว่าตลาดหุ้นไทยช่วงต้นปีหน้ายังมีแรงกดดันจากการปรับทยอยลด EPS68Fของ SET INDEX ลง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะสร้างความผันผวนได้

 

Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ตะวันออกกลาง คลี่คลาย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ สถานการณ์ตะวันออกกลาง คลี่คลาย ตลาดหุ้นต่างประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดหุ้นไทยเช่นกัน..

NAM ผนึกกลุ่ม PRINC ลุยขยายธุรกิจ Serviso ทั่วประเทศ

NAM ผนึกกลุ่ม PRINC ลุยขยายธุรกิจ Serviso ทั่วประเทศ

บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ หรือ MASTEC จัดเต็มโรดโชว์ จ.นครปฐม เดินหน้าเข้าเทรดใน SET ปีนี้ เตรียมเสนอขายหุ้น 79 ล้านหุ้น

บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ หรือ MASTEC จัดเต็มโรดโชว์ จ.นครปฐม เดินหน้าเข้าเทรดใน SET ปีนี้ เตรียมเสนอขายหุ้น 79 ล้านหุ้น

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้