สรุปภาพตลาดวานนี้
เหมือนมีพลังงานลบกดดันตลาดปิดต่ำ 1400 อีกครั้ง เป็นจุด Panic Sell ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาหลายกลุ่ม โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ทั้ง CPALL-CPAXT-CPF (ลงต่อจากประเด็นลบ) AOT TRUE PTTEP GULF-ADVANC-INTUCH SCB BH-BDMS เป็นต้น ขณะที่หุ้นกลุ่มที่บวกหลักๆ CCET PTT และการเงิน MTC KTC SAWAD VGI ROCTEC GUNKUL เป็นต้น
แนวโน้มตลาดวันนี้
ตั้งหลักเริ่มต้นใหม่ เริ่มสแกนหาหุ้นต้นรอบ
“C” พาตลาดหุ้นไทยฝุ่นตลบ หลังราคาหุ้น CPAXT CPALL CPF กลิ้ง (ลง)จากยอดดอย เราคาดว่า ฝุ่นจะเริ่มจาง และตลาดหุ้นไทยจะเริ่มตั้งหลักใหม่ได้อีกครั้ง ปล่อยให้เรื่อง CPAXT เป็นหน้าที่ของบริษัทฯมาชี้แจง-เอาให้ชัด แต่ราคาหุ้นไทยหลายตัวที่ไหลลงแรงก่อนหน้านี้ เราคาดว่าน่าจะสะท้อนข่าวร้ายพื้นฐานไปมากแล้ว สังเกตจาก
1. ราคาลงนำ SET ไปมาก หากเทียบกับ SET ที่ลงจาก 1,500 จุด มา 1,400 จุด (-7%) แต่หุ้นพวกนี้ลงเหมือน SET อยู่ 1,200 จุด เช่น BH BDMS (ลงรับข่าวนโยบาย Healthcare ตะวันออกกลางเปลี่ยนเชิงลบ และประเด็นแนวคิดที่ประกันสุขภาพจะปรับเป็น Co-pay) CPN (รับรู้ คชจ.เปิด “ดุสิต”) TU SCC (กังวล ภาษี OECD ที่จะเก็บซึ่งอาจเห็นผลอีก 2-3 ปี ข้างหน้า) และแก๊ง ปตท.เป็นต้น
2. ลองจำลองภาพราคาหุ้นปีนี้ ที่เคยโดนข่าวลบแบบนี้ก่อนหน้า แต่กลับมาได้ในปีนี้ เช่น BTS VGI (ถึงกับต้องปรับโครงสร้างทุนใหม่) TRUE (เริ่มโชว์งบดีขึ้น หลังผ่านมรสุมตั้งด้อยค่าจากควบรวม DTAC) MTC SAWAD (ดราม่าดอกเบี้ยและหนี้เสียเริ่มคลี่คลาย) หุ้นกลางๆ เล็ก เช่น CCET LTS INSET PROEN ที่งัดมาจากข้างล่างเมื่อ พื้นฐานเปลี่ยนตาม New S Curve เอไอ-ดาต้าเซนเตอร์
ดังนั้น เราคงคำแนะนำ เลือกลงทุนหุ้นรายตัว แม้ดัชนีฯจะไม่ขยับขึ้นอย่างที่คาด แต่อย่างน้อย SET น่าจะมีเด้งลักษณะ Range bound ได้ในระหว่างสัปดาห์ คาดช่วยหนุนบรรยากาศลงทุนหุ้นรายตัว หุ้นขนาดกลาง เล็ก และหุ้นที่ปรับลงแรงกว่าตลาดมาตลอดปี น่าจะรีบาวด์ บนความคาดหวัง Window dressing ตัวอย่างเช่น BTS VGI ที่เราเห็นการรีบาวด์มาต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์แนะนำ
เลือกสะสมหุ้นกลุ่มเด่นที่เราคาดว่าจะมี Flows หมุนเข้ามาเล่น และหุ้นรายตัวที่มีประเด็นสนับสนุน
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ดัชนีลงแรง ภายหลังหลุดเส้น EMA 200 วัน signal alert! หุ้นใหญ่นำโดย AOT, CPALL, ADVANC, GULF และ CPAXT ฉุดดัชนีร่วง! ลงมากกว่าคาด ประเมินโซนรับใหม่บริเวณ Fibonacci retracement 61.8% ที่ 1,370 จุด ขณะที่โมเมนตัม RSI อ่อนแรง…กำลังเคลื่อนเข้าสู่ภาวะ oversold… หากลงมาถึงโซนรับที่ให้ไว้ อาจมีจังหวะแก้มือ ลุ้นฟื้นตัวได้ไม่ยาก
สรุป: SET อาการไม่ดี signal alert! หุ้นแนะนำหากหลุดจุดคัทแนะขายลดพอร์ต ลดความเสี่ยง Note:สายเก็งกำไรจับตา 2 ธีม “มาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย (คล้ายๆ Easy E Receipt) & แผนเทรดหุ้นใหม่ได้ ESG rating สูงสุด “AAA” / กราฟสวยเลือกกลุ่มไฟแนนซ์ เน้น trading แบบมีวินัย!
What to watch
ติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการจุดม็อบ
ประชุมไตรภาคี ค่าแรง นัดประชุมใหม่ เป็น 23 ธ.ค. คาดหวังจะมีการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท แบบมีเงื่อนไข
การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ 18 ธ.ค. คาดลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 4.25-4.5%
การประชุม กนง. 18 ธ.ค. ตลาดคาดคงดอกเบี้ย 2.25%
FTSE Large Cap เพิ่ม MINT และ Mid Cap เพิ่ม CCET เข้าคำนวณมีผล 23 ธ.ค.นี้ (ใช้ราคาปิด 20 ธ.ค.)
หุ้นเข้า ออก จากการคำนวณ SET50-100 รอบใหม่ คาดหุ้นเข้า SET50 มี SAWAD CCET BANPU COM7
ครม.เตรียมเคาะเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 4 ล้านคน ในสัปดาห์หน้า (ออกข่าวไปแล้ว รอ ครม.เห็นชอบ 24 ธค.) ส่วนเฟส 3 ยังต้องรอ
Goldman sachs upgrade หุ้น KTB, JP Morgan upgrade กลุ่มแบงก์
หุ้นแนะนำวันนี้
VGI ปรับโครงสร้างทุนสำเร็จไปแล้วในปีนี้ รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ใหม่ปีหน้า
(S 3.2 R 3.5 SL 3.18)
รายงานพื้นฐานวันนี้
Telecom Sector
แนวโน้ม 2025—รายได้แกร่งขึ้น ต้นทุนเบาลง
เรามองปัจจัยบวต่อกลุ่มสื่อสารฯ ดังนี้
1) นักท่องเที่ยวหนุนการเติบโต โดยนักท่องเที่ยวปกติใช้ Data มากกว่าผู้ใช้งานไทย หนุน ARPU หากนักท่องเที่ยวเข้าไทยปี 2025 อยู่ที่ 38 ล้านคนตามประมาณการ (โดยจีน 7.4 ล้านคน หรือ 67% ของระดับก่อนโควิดในปี 2019) ส่งผลให้ ARPU เติบโตอย่างต่อเนื่องจาก
2) ต้นทุนลดจากการสิ้นสุดสัญญาเช่าคลื่น ของ NT ในเดือน ส.ค. 2025 จะช่วยลดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่า ADVANC จะไม่ต่อสัญญาเช่าคลื่น 2100MHz แต่จะเข้าร่วมประมูลเพื่อถือใบอนุญาตแทน ขณะที่ TRUE มีศักยภาพในการลดต้นทุนมากกว่า โดยคาดว่าจะหยุดเช่าคลื่น 850MHz และ 2300MHz และเข้าประมูลเฉพาะ 2300MHz ซึ่งทั้ง ADVANC และ NT จะไม่น่าร่วมประมูลเนื่องจากอุปกรณ์เครือข่ายยังไม่พร้อม ส่งผลให้มี Upside ต่อกำไรหลักระยะยาวของ ADVANC 6-7% และ TRUE สูงถึง 41-42%
3) ประสิทธิภาพกำไรดีขึ้น โดยการดำเนินมาตรการต่างๆ ในปี 2025 และค่าไฟฟ้าที่คาดลดลงไปที่ 4.15 บาท/หน่วย ตลอดทั้งปี จะหนุนกำไรหลัก ADVANC เพิ่มขึ้น 0.1% และ TRUE เพิ่มขึ้น 0.3% นอกจากนี้ การรีไฟแนนซ์ในช่วงที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง ยังเป็น Upside ต่อประมาณการ โดยทุกการลดลง 25bps จะเพิ่มกำไรหลักปี 2025 ของ TRUE 1.1% และ ADVANC 0.9%
Fundamental view: เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" ทั้ง TRUE และ ADVANC โดย TRUE เป็นตัวเลือกเด่นที่สุดในกลุ่ม จากศักยภาพการเติบโตของกำไรที่เหนือกว่า
Residential Property Sector
เดือน พ.ย. เปิดตัวโครงการเพิ่ม ส่วน ธ.ค. ช่วงเทศกาลพักแล้ว
AREA รายงานการเปิดตัวโครงการใหม่ 10,406 ยูนิตในเดือน พ.ย. 2024 เพิ่มขึ้น 84% MoM โดยได้รับแรงหนุนจากประเภทคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว การเปิดตัวคอนโดมิเนียมมีทั้งหมด 7,022 ยูนิต เพิ่มขึ้น 163% MoM โดยกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มราคาปานกลาง (3-5 ล้านบาทต่อยูนิต) บ้านเดี่ยวเปิดขายรวม 2,701 ยูนิต โต 26% MoM ส่วน ทาวน์โฮม เปิดขาย 683 ยูนิต โต 21% MoM
อัตราจองซื้อเพิ่มขึ้นจาก 12% ในเดือน ต.ค. เป็น 27% ในเดือน พ.ย. จาก take-up rate ที่ดีขึ้นในทุกหมวดหมู่ โดยคอนโดมี take-up rate ที่ดีที่สุดที่ 36%
สำหรับการเปิดตัวในเดือน ธันวาคม มักจะเป็นเดือนที่มีการเปิดตัวไม่มาก เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดมาก ทำให้เราคาดการเปิดตัวโครงการจะลดลง MoM
Fundamental view: สำหรับ top pick ในกลุ่มเราชอบ SPALI มากที่สุด เนื่องจากมี backlog กว่า 12,600 ล้านบาท ที่จะรับรู้ใน 4Q24
สรุปประเด็นจาก Quick take
GUNKUL
กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง เข้ารอบ กกพ. อย่างน้อย 319MW
กกพ ประกาศผลการคัดเลือกการประมูลโครงการ renewable รวม 72 โครงการ
View From Fundamental: ข่าวดังกล่าวน่าจะสร้าง positive sentiment ต่อ GUNKUL ("ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 5.40 บาท)