AT THE OPEN (#ATO)
SET Index จุดสะสม รอการฟื้นช่วยท้ายปี
เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index คาดผันผวนตามกรอบ 1385-1410 จุด การปรับลงแรงวานนี้เราคาดว่ามาจาก 1) ประเด็นเฉพาะตัวของ CPAXT และ CPALL 2) ความกังวลต่อประเด็นการเมืองหลัง ป.ป.ช.รับไต่สวนเจ้าหน้าที่รัฐฯ เอื้อคุณทักษิณ กรณี ร.พ. ตำรวจ 3) Fund Flow ต่างชาติไหลออกก่อนการประชุม FED ซึ่งเราเชื่อว่าแรงกดดันทั้ง 3 ข้างต้นจะคลายลงในช่วงท้ายของปี ด้าน Valuation ของ SET Index ที่ PER68E อยู่ที่ 14.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี -0.85 S.D. จึงมองเป็นระดับที่น่าสะสม สำหรับหุ้นวันนี้แนะนำ CK และ MTC

การปรับลงแรง CPAXT และ CPALL เรามองเป็นประเด็นเฉพาะตัวและเป็นเหตุให้นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิหนักในช่วง 2 วันที่ผ่านมารวม 6.1 พันล้านบาท จากความกังวลที่ให้น้ำหนักไปกับประเด็นทาง ESG แต่อย่างไรก็ตาม เราประเมินการลงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา CPAXT -23% และ CPALL-10% จึงเชื่อว่าแรงกดดันจะค่อยๆ ลดลงในระยะถัดไปและทำให้ตลาดเริ่มนิ่งขึ้น ส่วนหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่เป็นทางเลือกทดแทนเราชอบ CRC ที่แนวโน้มกำไรฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q67 และปี 2568

ประเด็นการเมืองต่อมติ ป.ป.ช.รับพิจารณาปม 12 เจ้าหน้าที่รัฐ เอื้อประโยชน์คุณทักษิณ กรณี ร.พ.ตำรวจ ซึ่งตามกระบวนการยังอยู่ในชั้นไต่สวน และยังไม่ได้ส่งผลต่อสถานะของรัฐบาลและการขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจแต่อย่างใด จึงประเมินว่าการปรับลงของกลุ่มที่ Sensitive ต่อปัจจัยทางการเมืองวานนี้ อาทิ กลุ่มโรงแรม กลุ่มสายการบิน กลุ่มรับเหมาฯ เป็นจุด Selective Buy หุ้นที่กำไรเติบโต เราชอบ AWC AAV CK

Fund Flow ต่างชาติเป็นอีกหนึ่งแรงกดดัน SET Index หลังสัปดาห์นี้ขายสุทธิ 1.8 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงขายก่อนการประชุม FED ที่ถูกคาดหมายว่าจะส่งสัญญาณชะลอการปรับลดดอกเบี้ยฯในปีหน้าลงจาก 1% เหลือช่วง 0.5-0.75% ซึ่งหากมาตามคาดเชื่อว่าแรงขายจะค่อยๆลดลงตามปัจจัยทางฤดูกาลที่ช่วงปลายปีแรงขายจะเบาลง สำหรับประเด็นอื่นๆที่ติดตามวันนี้การประชุม กนง. เราคาดว่าจะคงดอกเบี้ยฯที่ 2.25% แต่จุดสนใจคือการส่งสัญญาณดำเนินนโยบายในระยะถัดไป

Market Summary
SET Index ลงหนัก -24 จุดหรือ -1.7% กดดันหลัก นำโดยกลุ่ม CP จากการลงทุน The Happitat ที่เชื่อมโยงกับ CG กดดัน CPAXT -5.3% CPALL -4.7% และจิตวิทยาลบต่อ CPF -5% และ TRUE -3.4% กลุ่ม GULF -1.6% INTUCH -3.5% ADVANC -2.5% กลุ่มขนส่งท่องเที่ยว AOT -3.3% ERW -5% กังวลต่อประเด็นการเมือง สวนทางกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ CCET +11% จับมือธุรกิจกับ DELTA ด้าน GUNKUL +3.7% ชนะประมูลโครงการ RE

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CK MTC

MTC ลุ้น กนง. ส่งสัญญาณ
นโยบายการเงินผ่อนคลาย
คาดกำไร 4Q67 จะเติบโต YoY และ QoQ เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อที่ดีและคุณภาพสินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพ โดยสัดส่วน NPL และต้นทุนความเสี่ยงจาก การให้สินเชื่อ (credit cost) คาดลดลง เนื่องมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพของพนักงานและได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นของรัฐฯ สอดรับไปกับในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมามีสัญญาณบวกจากการจัดเก็บหนี้ที่ยังทำได้ดี ในภาพรวมของทั้งปี เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 17%YoY
มาตรการกระตุ้นของรัฐฯ เช่น โครงการแจกเงินชาวนาไร่ละ 1000 บาท เดือน ธ.ค. โครงการแจกเงินกลุ่มเปราะบางเฟส 1 จำนวน 14.5 ล้านคน ช่วงปลายเดือน ก.ย. เป็นปัจจัยบวกทางอ้อมต่อคุณภาพสินทรัพย์
การประชุม กนง. วันนี้หากมีการส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายเชื่อว่าจะ Sentiment บวกต่อราคาหุ้น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 60.00 บาท

CK
Outlook ยังดูสดใส
ปัจจุบันมี Backlog 2.2 แสนล้านบาท ซึ่งเรายังคาดหวังจะได้งานเพิ่มจากบริษัทลูก BEM ในปี 68 คือ 1) โครงการทางด่วนสองชั้นมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท คาดได้ข้อสรุปและเสนอให้ ครม. ได้ภายในต้นปี 2568 และ 2) โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูน – ราษฎร์บูรณะ งาน M&E มูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาท คาดได้ข้อสรุปปลายปี 67 และ เสนอ ครม. อนุมัติใน 1Q68 จะทำให้มีงานเพิ่มเป็น 2.8 แสนล้าน หนุนรายได้ 4-5 หมื่นล้านบาท ช่วง 5-6 ปีข้างหน้า
คาดกำไรปี 2567/68/69E จะเติบโตโดดเด่น 30% / 15% / 24% YoY ตามลำดับ โดยเฉพาะปี 2569 กำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ 2,711 ล้านบาท
ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากประเด็น ESG Rating ที่ CK ได้รับผลประเมิน SETESG Rating ปีนี้ที่ระดับ AA มากกว่าปีก่อนที่อยู่ระดับ A
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 27.50 บาท

KEY FACTOR
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผสมผสาน 1) ยอดค้าปลีก เดือน พ.ย. ของสหรัฐฯ +0.7% MoM สูงกว่าที่ Consensus คาด +0.5% MoM และ 2) ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ของสหรัฐฯ -0.1% MoM แย่กว่าที่ Consensus +0.3% MoM
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ เร่งตัวทะลุระดับ 4.4% ทำจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือน ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ เข้าสู่ช่วงระมัดระวัง พักตัวลงในช่วง –0.32% ถึง –0.61% ก่อนรู้บทสรุปการประชุม FOMC ในขณะที่มุมมองตลาดแม้จะให้น้ำหนัก Fed ลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้มากกว่า 95% แต่ปรับมุมมองดอกเบี้ยปีหน้าลดลงเหลือเพียงอีก 2 ครั้ง (เทียบกับ Dot Plot ล่าสุดที่ 4 ครั้ง)
ปัจจัยในประเทศ วันนี้ คาด กนง. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25% พร้อมกับการเปิดเผยประมาณการณ์เศรษฐกิจปีหน้า

EYES ON
18 ธ.ค. การประชุม FOMC, การประชุม กนง.
19 ธ.ค. GDP 3Q67 ของสหรัฐฯ (รายงานครั้งที่ 3)

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ