สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(11 ธันวาคม 2567)---- นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ขอชี้แจงข้อมูลตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) ได้สอบถามผ่านทางอีเมล์ของบริษัทตามรายละเอียดดังนี้
ข้อที่ 1 คดีของโครงการแอชตัน อโศก และคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง
ตามที่ผู้สอบบัญชีได้แสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไข และมีข้อสังเกตในเรื่องคดีแอชตัน อโศก ปรากฎตามหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 22.8.1 ที่ระบุว่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทมีคดีฟ้องร้องอื่นอีกหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการแอชตัน อโศก ซึ่งมีการเรียกร้องค่าเสียหายรวมจำนวน 2,301 ล้านบาท
บริษัทขอชี้แจ้งข้อมูลดังกล่าวตามรายละเอียดดังนี้ในวันที่ 30 กันยายน 2567 เจ้าของร่วมห้องชุดโครงการ แอชตัน อโศกบางส่วนได้ยื่นฟ้องคดีคุ้มครองผู้บริโภค โดยมีทุนทรัพย์การฟ้องร้องรวมจำนวน 2,301 ล้านบาทต่อบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทโดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.9 ขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขเรื่องทางเข้า-ออกโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา โดยหากบริษัทไม่สามารถแก้ไขได้โจทก์ขอเรียกร้องให้บริษัทซื้อห้องชุดคืน โดยรวมราคาค่าห้องชุด ดอกเบี้ย และค่าเสียหาย รวมมูลค่าความเสียหายจำนวน 2,301 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อแก้ไขปัญหาทางเข้า-ออกโครงการดังกล่าว และอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีในศาล ทั้งนี้ เมื่อบริษัทสามารถแก้ไขผลของคดีๆ จะคลี่คลายไปในทางที่ดี และไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของบริษัท ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงไม่ได้บันทึกสำรองสำหรับผลเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากคดีไว้ในบัญชี
ปัจจุบัน ฝายบริหาร และกรรมการของบริษัทย่อยเจ้าของโครงการอยู่ระหว่างพิจารณาหาแนวทางกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีอยู่หลายแนวทางเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสม และบริษัทย่อยเจ้าของโครงการมีความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาภายใต้กรอบของกฎหมายได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประมาณการผลกระทบที่อาจจะมีต้องบการเงินเฉพาะกิจการและงบการเงินรวมของบริษัท สำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 ได้อย่างเหมาะสม จนกว่าจะกำหนดแนวทางที่ชัดเจนที่จะได้รับแนวทางการดำเนินงานและการอนุมัติจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง (รายละเอียดอยู่ในงบการเงิน สำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) ซึ่งหากมีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว บริษัทจะแจ้งผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
ข้อที่ 2 แผนการชำระหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปี 2568
ในปี 2568 บริษัทมีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ ANAN251A, ANAN251B และ ANAN261A มูลค่ารวมจำนวน 5,264.10 ล้านบาท โดยบริษัทได้แบ่งการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1. หุ้นกู้รุ่น ANAN251A และหุ้นกู้รุ่น ANAN251B มีกำหนดครบชำระคืนในวันที่ 15 มกราคม 2568 จำนวน1,811.70 ล้านบาท และ 1,176.60 ล้านบาทตามลำดับ รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,988.30 บาท
2. หุ้นกู้รุ่น ANAN261A จะมีกำหนดครบชำระคืนในวันที่ 16 มิถุนายน 2568 จำนวน 2,275.80 ล้านบาท
โดยบริษัทมีแผนการชำระคืนหุ้นกู้ดังนี้
1) หุ้นกู้รุ่น ANAN251A และ ANAN251B ที่จะมีกำหนดครบชำระในวันที่ 15 มกราคม 2568 จำนวนรวม2,988,30 ล้านบาทนั้น บริษัทได้จัดเตรียมวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสารสนับสนุนคำขอและเงื่อนไขของหลักประกัน ซึ่งวงเงินกู้เพียงพอต่อการจ่ายชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดดังกล่าว
2) หุ้นกู้รุ่น ANAN261A ที่มีกำหนดชำระคืนในวันที่ 16 มิถุนายน 2568 จำนวน 2,275.80 ล้านบาทโดยบริษัทจะมีแผนในการออกหุ้นกู้ใหม่ และวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งอยู่ระห่างขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสารสนับสนุนคำขอและเงื่อนไขของหลักประกันในการจ่ายชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทขอเรียนให้ทราบว่าบริษัทได้ตระหนักถึงการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดมาโดยตลอด ซึ่งบริษัทได้มีการวางแผน ตลอดจนเตรียมการความพร้อมเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทสามารถดำเนินการตามแผนที่แจ้งไว้กับผู้ถือหุ้นกู้ และนักลงทุน