Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KSS Daily Strategy

430

 

"Domestic Plays"

 

KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "Sideways/Up" ต้าน 1462/1471 จุด รับ 1447/1443 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นทำ All time high ช่วงวันหยุดภายใน ก่อนแกว่งตัววานนี้รอติดตามรายงานภาคแรงงานวันนี้ หนุนจากความเห็นคุณ Powell ที่มองเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นในฝั่งภาคแรงงาน และโดยรวมยังพอประคองได้ สอดคล้องดัชนี PMI บริการ (ISM) พ.ย. 24 ที่ชะลอลง m-m ครั้งแรกในรอบ 5 เดือน แต่ยังอยู่ในระดับขยายตัว สัญญาณโดยรวมที่ยังสอดคล้องมุมมองตลาด ทำให้ US Bond Yield 10 ปี แกว่งตัว 4.2% +/- Dollar ยังติดแนวต้านต่ำกว่า 107.2 จุด หนุนเช้าวันนี้เงินบาทแข็งค่าสู่ 34.1 +/- บาท เป็นจิตวิทยาทางบวกต่อตลาดหุ้น ขณะที่ปัจจัยเร่งความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจคาดทยอยเข้ามา สัปดาห์หน้า กระทรวงการคลังและ BOT เตรียมหาข้อสรุปมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน ครม. + นายก เดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ขณะที่การแสดงวิสัยทัศน์ NVIDIA บ่งชี้ New S Curve ที่หนุนไทยระยะกลาง-ยาวไปไกลกว่าการเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง Infra Tech ในภูมิภาค ประเมิน SET วันนี้แกว่งขึ้น เน้น Domestic(Bank, Commerce), Infra Tech และ Peaking Yield วันนี้แนะนำ ADVANC, GULF, GPSC

 


Daily outlook: "Sideways/Up" ต้าน 1462/1471 จุด รับ 1447/1443 จุด

What happened around the world ?

(*) US Stocks: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นทำ All time high วันพุธ ตอบรับความเห็นประธาน Fed ต่อมุมมองบวกเศรษฐกิจ โดยมีมุมมองต่อความเสี่ยงภาคแรงงานที่ลดลง และยังมองภาพการลดดอกเบี้ยค่อยเป็นค่อยไปตามที่ตลาดประเมิน ก่อนวานนี้เป็นภาพแกว่งตัว รอติดตามรายงานภาคจ้างงาน (ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราว่างงาน) วันนี้ โดยรวมวานนี้ดัชนี S&P -0.19% NASDAQ -0.16% ขณะที่ Dow Jones -0.55% โดยหุ้น Unitedhealth ปรับตัวลดลง -5.21% ประเมินจากจิตวิทยาลบ CEO ถูกลอบยิงและเสียชีวิต

(*/+) FED Powell Speech: นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนา New York Times Deal Book Summit ระบุภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากกว่าที่เฟดเคยคาดไว้เมื่อเดือน ก.ย.24 ความเสี่ยงทางลบต่อตลาดแรงงานลดลง เงินเฟ้อสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย ทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปในอนาคต บ่งชี้โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) มีความเป็นไปได้น้อยลง และสนับสนุนมุมมองของเราที่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นภาพ Soft landing เงินเฟ้อค่อยๆ ลดลง เฟดทยอยลดดอกเบี้ย เป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง หนุน Search for yield ส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดเกิดใหม่เช่นตลาดหุ้นบ้านเรา

(*/+) FED Beige Book: รายงานภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) เดือน พ.ย. สอดคล้องกับความเห็นของประธานเฟด คือเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย เทียบกับเดือน ต.ค. อยู่ในภาวะทรงตัว ภาคธุรกิจมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มของอุปสงค์ในทุกภูมิภาค อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเล็กน้อย การเติบโตของค่าจ้างชะลอตัวลงในเกือบทุกเขต มองเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุม 17-18 ธ.ค. นี้ (FedWatch tool ให้น้ำหนัก 69.2% เฟดดอกเบี้ย 0.25%)

(*/-) US Econ: จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 224,000 ราย มากกว่าที่ Consensus คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 215,000 ราย เราไม่ได้กับตัวเลขดังกล่าวเนื่องจากนักลงทุนจะให้น้ำหนักกับรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) และ อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) เดือน พ.ย. ที่จะประกาศในคืนวันนี้มากกว่ากว่า

(*/+) OPEC+ meeting: มีมติเลื่อนการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันออกไปอีก 3 เดือนจนถึง เม.ย. 2025 และขยายเวลายกเลิกมาตรการลดกำลังผลิตออกไปอีก 1 ปีจนถึงสิ้นปี 2026 เรามองเป็น Positive surprise กับตลาดน้ำมันเนื่องจากการเลื่อนแผนดังกล่าวมากกว่าที่ตลาดคาดกันไว้ที่ 1 เดือน อย่างไรก็คาดผลบวกต่อราคาน้ำมันจะเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากอีกด้านตีความได้ว่าการเลื่อนแผนเพิ่มการผลิตของกลุ่ม OPEC+ กำลังบ่งชี้ถึงภาวะอุปสงค์ที่อ่อนแอ

(*/+) Bitcoin: ราคา Bitcoin พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 105,325$/btc ได้เมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนตอบรับข่าวที่ ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ประกาศแต่งตั้ง นาย พอล แอตกินส์ เป็นประธาน กลต. สหรัฐคนใหม่ ซึ่ง แอตกินส์ เป็นคนที่สลับสนุนเงินดิจิทัล สวนทางกับประธาน กลต. คนเดิมที่เน้นการปราบปราบการฉ้อโกงในสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ตลาดคาดหวังได้ว่าจะเห็นการผ่อนคลายกฎ ระเบียบ การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงกับตลาดหุ้นไทยแต่เป็นจิตวิทยาบวกให้มีแรงเก็งกำไรกับหุ้นที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัล อาทิ BTC, ZIGA, JTS, XPG และ TTA (เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง)

(*/+) Refinery : ค่าการกลั่น ณ โรงกลั่น สิงคโปร์ ปิดล่าสุด ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.19$ ปิดที่ระดับ 6.23$/bbl (+3.14%) ภาพรวมค่าการกลั่นยังทรงตัวในระดับสูง (ต้นเดือน ต.ค. เฉลี่ยราว 2.76$/bbl) หากเทียบกับล่าสุดนับว่าปรับขึ้นแรงกว่า 2 เท่าตัว เรายังมองบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น เน้น SPRC เป้าหมาย 9.50 บาท

(*)Oil : น้ำมันดิบ Brent -0.06%d-d ปิดที่ USD 72.27/barrel น้ำมันดิบ West Texas -0.35%d-d ปิดที่ USD 68.3/barrel ผลประชุม OPEC+ สอดคล้องกับตลาดคาด โดยมีการเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไปถึง ก.ย. 26 ลดความเสี่ยงผลกระทบความต้องการที่ยังซบเซาต่อราคา

(*/+) US Bond Yields & Dollar : Bond yield สหรัฐ อิงอายุ 2 ปี ปิด -4 bps อยู่ที่ 4.13% อายุ 10 ปีปรับขึ้น -4 bps อยู่ที่ 4.19% (หากอิงสถิติ US Bond yields 10 ปี และ Thai Bond yield 10 ปี มีค่าสหสัมพันธ์สูงราว 0.6 หรือไปทางใดเดียว) ตอบรับความเห็นคุณ Powell ที่มองภาพเศรษฐกิจ วงจรเงินเฟ้อ วงจรดอกเบี้ยในทางลง ขณะที่รายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปัจจุบันยังเป็นภาพ Goldilocks to Soft Landing ส่วน Dollar Index อ่อนตัวมาที่บริเวณ 105.7 +/- จุด ยังต่ำกว่าแนวต้านสำคัญคือ 107.2 จุด

(*) To monitor : วันนี้ (6 ธ.ค.) ติดตามรายงานภาคแรงงานสหรัฐฯ ตลาดคาดยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรจะฟื้นตัว m-m จากฐานต่ำ ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มสู่ 4.2% จาก prev. 4.1% ส่วนสัปดาห์หน้าติดตาม 1.) 12 ธ.ค. เงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ พ.ย. 24 ตลาดคาด +2.7%y-y, +0.2%m-m vs prev. +2.6%y-y, +0.2%m-m 2.) 12 ธ.ค. ประชุมธนาคารกลางยุโรป 3.) 9 ธ.ค. เงินเฟ้อ CPI จีน ตลาดคาด -2.8%y-y vs prev. -2.9% และ 11-12 ธ.ค. การประชุม CEWC (China Economic Work Conference) ว่าจะมีการกล่าวถึงมาตรการ Pro-active ต่อ Trump 2.0 รวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่

 

What happened in Thailand?

(+) SET : SET Index แกว่งตัวก่อนปิด -3.94 จุด หรือ -0.27% ปิดที่ 1450.82 จุด กลุ่มถ่วง คือ พลังงาน (GULF) มองพักฐานช่วงสั้น หลังวานนี้ปรับขึ้นแรง กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, INTUCH) มองเป็นภาพพักฐานเช่นดียวกับ GULF กลุ่มหนุน คือ กลุ่มธนาคาร (BBL, SCB, KBANK, KTB) คาดสินเชื่อกลุ่มธนาคารกลับมาขยายตัวตาม GDP ที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นราว 3.7-4% ใน 4Q24 (+3% ใน 3Q24) รัฐฯเตรียมหารือ BOT มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ 11 ธ.ค. สร้างความคาดหวังบวกคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นลดปัญหาหนี้สูญ NPLs ใกล้ผ่านจุด peak และ เป็นหุ้น Big cap มักจะเป็นเป้าเข้าซื้อในช่วงเวลาที่ Fund flow ต่างชาติไหลเข้า กลุ่มอาหาร+เครื่องดื่ม (CBG) ฟื้นตัว หลังชี้แจงข้อเท็จจริง หลังมีกลุ่มคนเข้าร้องเรียนต่อ DSI กล่าวหาว่า "ร้านถูกดี" หลอกลวงให้ร่วมลงทุนเปิดร้านโชห่วยจนเกิดความเสียหาย นักวิเคราะห์ประเมินผลกระทบกับ CBG จำกัด เนื่องจาก "ร้านถูก" ไม่ใช่บริษัทในเครือของ CBG ขณะเดียวกัน CBG มียอดขายผ่านร้านดังกล่าวเพียง 1% ของยอดขายรวมเท่านั้น

(*) Flows: เงินทุนต่างชาติวันทำการล่าสุดไหลออก ขายหุ้น -22.4 ล้านเหรียญฯ ขายพันธบัตร –12.3 ล้านเหรียญฯ TFEX Net Short -13,554 สัญญา เงินบาทแกว่งตัวบริเวณ 34.1+/- บาท

(+) NVIDIA x Thailand: คุณเจนเซ่น หวง CEO ของ NVIDIA เปิดวิสัยทัศน์ในงาน "AI Vision for Thailand" NVIDIA เชื่อว่า AI คือ Breakthrough ครั้งใหม่ของโลก และวางเป้าหมายที่จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถพัฒนา AI ได้ด้วยตนเอง โดยจะร่วมกับกลุ่ม Siam AI ที่เป็นตัวกลางดึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานชิปประมวลผล H100 GPU เข้ามาใช้ใน Data Center หลักๆ ของไทย อาทิ GSA (GULF – ADVANC – SINGTEL) และ TRUE IDC ขณะที่โครงสร้างพื้นฐาน AI ที่พร้อม ผสาน ความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งมหาวิทยาลัย และภาครัฐฯ พัฒนา Solution AI ที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมต่างๆ

เราประเมินเป็นภาพบวกต่อศักยภาพการนำเทคโนโลยี AI มาต่อยอดโครงสร้างพื้นฐาน Data Center ที่กำลังเป็นขาขึ้นต่ออุตสาหกรรมหลักอื่นๆของไทยได้ในระยะกลาง-ยาว ขณะที่การประกาศชัดเจนถึงความร่วมมือกันระหว่าง NVIDIA ผ่าน Siam AI กับ GSA และ TRUE IDC (กลุ่ม CP) เราประเมินเป็นบวกต่อโอกาสทางธุรกิจระยะกลาง - ยาว หุ้นที่เชื่อมโยง อาทิ GULF ADVANC TRUE

(*) TH CPI: เงินเฟ้อ CPI ไทย พ.ย. 24 +0.95%y-y ต่ำกว่าคาด vs prev. +0.83%y-y ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน พ.ย. 24 ตามคาด +0.8%y-y vs prev. +0.77%y-y โดยรวมยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ BOT ที่ 1-3% เล็กน้อย ทำให้ประเมินตลาดยังไม่น่าปิดโอกาสที่ BOT น่าจะพิจารณาลดดอกเบี้ยอีกครั้งได้ในช่วงต้นปี 2025F ตามมุมอง Krungsri Research

(*) EV Measures: บอร์ดอีวี มีมติ

1.) ให้ปรับปรุงเงื่อนไขมาตรการ EV3 ที่เดิมกำหนดให้ต้องผลิตรถยนต์เพื่อชดเชยการนำเข้าในอัตราส่วน 1 : 1 เท่า (นำเข้า 1 คัน ผลิตชดเชย 1 คัน) ภายในปี 2024 หรือ 1:1.5 เท่า (นำเข้า 1 คัน ผลิตชดเชย 1.5 คัน) ในปี 2025 ห้ผู้ประกอบการสามารถขยายเวลาผลิตชดเชยตามมาตรการ EV3 ไปผลิตชดเชยภายใต้เงื่อนไขของมาตรการ EV3.5 ได้ (ผลิตชดเชย 2 เท่า ภายในปี 2026 หรือ 3 เท่า ภายในปี 2027

2.)เห็นชอบการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์นั่ง และรถยนต์โดยสาร ขนาดที่นั่งไม่เกิน 10 คน แบบ HEV และ MHEV ซึ่งผลิตในประเทศ

เราประเมินเป็นกลาง โดยแม้ยอดผลิต EV อาจจะลดลงในระยะสั้น แต่อาจจะเห็นยอดรถ Hybrid เพิ่มขึ้นมาแทน ขณะที่กำลังซื้อในประเทศยังฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป สถาบันการเงินยังระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ ทำให้เชื่อว่าการฟื้นตัวอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังต้องใช้เวลา

(*/+) FDI-SEMI: บอร์ดเซมิคอนดักเตอร์เห็นชอบกรอบการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง วางแผน 5 ปี (2025-29) ดึงเม็ดเงินลงทุน 5.0 แสนล้านบาท เรามองจิตวิทยาบวกต่อแผนที่รัฐฯกำลังสร้าง New S Curve ใหม่ๆ ต่อจากแผนในส่วน Infra Tech และ Entertainment Complex ที่กำลังเดินหน้าในปัจจุบัน

(*) To Monitor: สัปดาห์หน้า ปัจจัยภายในติดตาม 1.) ต้นสัปดาห์ ประชุม ครม. คาดมีโอกาสอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม 2.) 11 ธ.ค. รัฐฯเตรียมหารือ BOT มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ 3.) 12 ธ.ค. นายกฯ แถลงผลงาน 3 เดือน พร้อมคาดว่าจะมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นของขวัญปีใหม่ เราประเมินมีโอกาสเป็นลักษณะ การซื้อสินค้า - บริการแล้วคืนภาษี , มาตรการท่องเที่ยวลักษณะคนละครึ่ง และมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพต่างๆ 4.) 9-13 ธ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) พ.ย. 24 ไม่มีคาด vs prev. 56 จุด

 

Daily Strategy : ADVANC, GULF, GPSC เด่น

ระยะสั้น วันนี้มองตลาดหุ้นไทย "Sideways/Up" ปัจจัยต่างประเทศช่วงไทยหยุดยาวเป็นบวกจากความเห็นคุณ Powell ที่มองภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯทางบวกขึ้น โดยเฉพาะฝั่งภาคแรงงาน และวงจรดอกเบี้ยคาดจะลดลงค่อยเป็นค่อยไป สอดคล้องเศรษฐกิจที่ยังเป็นภาพ Goldilocks to Soft Landing ขณะที่ภายในสัปดาห์หน้ารอติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ส่วนระยะกลาง-ยาว New S Curve ด้าน Infra Tech หลังการแถลง NVIDIA ที่มาเยือนไทย บ่งชี้ภาพโอกาสที่ไทยอาจก้าวไปไกลกว่าที่เป็นเพียงหนึ่งในศูนย์กลาง Infra Tech โดยรวมมองหุ้นนำวันนี้ ได้แก่หุ้นในกลุ่ม Domestic (ค้าปลีก ธนาคาร เช่าซื้อ) , Infra Tech (โรงไฟฟ้า สื่อสาร) และ Peaking Yield

หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักจากกองทุนวายุภักษ์
กลุ่มที่ 1 หุ้นที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น, อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และมีแนวโน้มเติบโตดีในช่วง 2024 – 2025 ได้แก่ AOT, KTB, PTT

กลุ่มที่ 2 หุ้นที่อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และซื้อขายในระดับ Valuation Zone รวมถึงมีแนวโน้มการเติบโตดี ได้แก่ CPALL, SCC, MINT, CRC, HMPRO, SCGP

กลุ่มที่ 3 หุ้นที่มีน้ำหนักใน SETESG สูงและมีแนวโน้มการเติบโตดี อยู่ใน Theme Data Center ได้แก่ ADVANC, GULF มีโอกาสเป็นเป้าหมาย

กลุ่มที่ 4 หุ้นได้ประโยชน์กองทุนวายุภักษ์ Theme ที่ 4 คือ Div Yield 2024-2025 สูง >5% และอยู่ใน ThaiESG หุ้น (KBANK, BBL, HMPRO, INTUCH)

กลุ่มที่ 5 หุ้นที่ยังมีน้ำหนักในกองทุนวายุภักษ์น้อย ขณะที่เข้าเกณฑ์ ESG Score (ถ้าอยู่ใน SET100 เรทติ้ง A ขึ้นไป ต่ำกว่า SET100 AA ขึ้นไป การเติบโตปี 2024-25 เกณฑ์ดี CPALL CPAXT BDMS CRC HMPRO IVL MTC BJC WHA

หุ้นในธีมประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง Infrastructure Technology ของภูมิภาค (WHA, GULF, GPSC, STPI, DELTA ADVANC, TRUE, INSET, BE8, BBIK)
หุ้นในธีม Trump 2.0 (AMATA, WHA, PTT, PTTEP, CPF, SCB, KBANK, KTB, CPALL, BJC, HMPRO, ADVANC, GULF, GPSC)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มไวขึ้นของรัฐบาลใหม่ ผสาน ท่องเที่ยว การผลักดัน Entertainment Complex คาดเป็นนโยบายหลัก หนุน บริโภค ท่องเที่ยว โรงแรม ร.พ. (AOT, BTS, VGI, BJC, STECON, ERW, BA, MBK)
กลุ่มได้ประโยชน์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ (IVL, AOT, AU, PTTGC, SCC, CPALL, BJC)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, BA, AAV, MTC, AEONTS, TRUE, CPALL, BJC)
• DEC24 Best Picks : ADVANC, BJC, BTS, GULF, AOT, IVL, MALEE

• 4Q24 Stock Picks : GULF, GPSC, MTC, CPALL, BJC, BDMS, AOT, KTB, ADVANC, HMPRO Mid-Small Cap Play : BTS, MALEE, MOSHI, CHG, ERW, BA

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้