สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 25 พฤศจิกายน 2567)-------นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมเปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนตุลาคม 2567 ดังต่อไปนี้
*การผลิต*
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนตุลาคม 2567 มีทั้งสิ้น 118,842 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 25.13 และลดลงจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 2.81 เพราะผลิตเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 7.00 และผลิตเพื่อขายในประเทศลดลงร้อยละ 51.70
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,246,868 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 19.28
รถยนต์นั่ง เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ 47,481 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 17.07 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 32,607 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 22.49
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 688 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 34,300
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 500 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 8.76
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 13,686 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 6.48
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 มีจำนวน 474,200 คัน เท่ากับร้อยละ 38.03 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 11.91 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 301,931 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 27.41
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 8,026 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 5,215.23
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 5,067 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 36.85
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 159,176 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 39.38
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนตุลาคม 2567 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 90.74
รถยนต์บรรทุก เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 71,361 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 29.67 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 772,658 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 23.22
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 70,514 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 27.83 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 757,709 คัน เท่ากับร้อยละ 60.77 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 22.33 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 120,468 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 30.03
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 500,462 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 21.84
• รถกระบะ PPV 136,779 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 16.11
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน - มากกว่า 10 ตัน เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ 847 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 77.52 รวมเดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 ผลิตได้ 14,949 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 51.38
*ผลิตเพื่อส่งออก*
เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ 87,741 คัน เท่ากับร้อยละ 73.83 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 7.00 ส่วนเดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 861,916 คัน เท่ากับร้อยละ 69.13 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 4.69
รถยนต์นั่ง เดือนตุลาคม 2567 ผลิตเพื่อการส่งออก 27,187 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 4.99 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 256,817 คัน เท่ากับร้อยละ 54.16 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 3.72
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนตุลาคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 60,554 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 7.87 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 605,099 คัน เท่ากับร้อยละ 79.86 ของยอดการผลิตรถกระบะ ลดลงจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 7.86 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 51,244 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ร้อยละ 22.67
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 443,787 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ร้อยละ 10.88
• รถกระบะ PPV 110,068 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ร้อยละ 19
*ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ*
เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ 31,101 คัน เท่ากับร้อยละ 26.17 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 51.70 และเดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 ผลิตได้ 384,952 คัน เท่ากับร้อยละ 30.87 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 39.89
รถยนต์นั่ง เดือนตุลาคม 2567 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 20,294 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 29.14 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ผลิตได้ 217,383 คัน เท่ากับร้อยละ 45.84 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ลดลงร้อยละ 25.22
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนตุลาคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 9,960 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 68.85 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 152,610 คัน เท่ากับร้อยละ 20.14 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 52.14 ซึ่งแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 69,224 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ร้อยละ 34.64
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 56,675 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ร้อยละ 60.20
• รถกระบะ PPV 26,711 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ร้อยละ 62.13
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนตุลาคม 2567 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 90.74
รถบรรทุก เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ 847 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 77.52 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 14,949 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ร้อยละ 51.83
*รถจักรยานยนต์*
เดือนตุลาคม 2567 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 294,395 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 70.52 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 149,010 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 6.35 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 145,385 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 346.93
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,030,213 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 1.49 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,585,364 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 10.84 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 444,849 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 57.34
*ยอดขาย*
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 37,691 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 36.08 ต่ำสุดในรอบ 54 เดือนนับตั้งแต่ยกเลิกล๊อคดาวน์จากการระบาดโรคหวัด 19 เดือนพฤษภาคม 2563 จากการเข้มงวดในการให้กู้ซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงินเป็นหลัก ส่งผลให้จำนวนบัญชีผู้กู้ซื้อรถยนต์ในไตรมาสสามมี 6,365,571 บัญชีลดลงจากไตรมาสสอง 75,377 บัญชีเท่ากับร้อยละ 1.2 และลดลงจากไตรมาสสามปี 2566 จำนวน 199,655 บัญชีหรือร้อยละ 3.0 จำนวนเงินหนี้รถยนต์ไตรมาสสาม 2,465,204 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสสองร้อยละ 2.8 และลดลงร้อยละ 5.8 จากไตรมาสสามปี 2566 รถบรรทุกลดลงจากเศรษฐกิจของประเทศที่ยังอ่อนแอเติบโตในอัตราต่ำและหนี้ครัวเรือนสูง ดัชนีภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่ำที่ร้อยละ 0.1 ในไตรมาสสาม
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 21,814 คัน เท่ากับร้อยละ 57.67 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 33.21
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 11,562 คัน เท่ากับร้อยละ 30.68 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 27.80
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 3,717 คัน เท่ากับร้อยละ 9.86 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 49.73
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 227 คัน เท่ากับร้อยละ 0.60 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 187.34
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 6,308 คัน เท่ากับร้อยละ 16.74 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 31.23
รถกระบะมีจำนวน 10,896 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 41.65 รถ PPV มีจำนวน 2,451 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 43.33 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,270 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 33.02 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,260 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 10.57
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 140,113 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 18.86 และเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 3.80
ตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 รถยนต์มียอดขาย 476,350 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 26.24 แยกเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 284,304 คันเท่ากับร้อยละ 59.84 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 12.22
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 129,440 คัน เท่ากับร้อยละ 27.17 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 36.65
• รถยนต์นั่งแหละรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 55,936 คัน เท่ากับร้อยละ 11.74 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 0.33
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,880 คัน เท่ากับร้อยละ 0.39 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.17
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 97,048 คัน เท่ากับร้อยละ 20.37 ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 39.56
รถกระบะมีจำนวน 137,456 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 39.54 รถ PPV มีจำนวน 29,395 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 42.98 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 13,582 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 38.83 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 11,613 คัน ลดลงจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว 10.87
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,421,824 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 10.09 แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ICE จำนวน 1,421,624 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 10.04 รถจักรยานยนต์ BEV จำนวน 200 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 9.09
*การส่งออก*
*รถยนต์สำเร็จรูป*
เดือนตุลาคม 2567 ส่งออกได้ 84,334 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 5.08 แต่ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 20.23 ส่งออกลดลงเพราะฐานสูงในเดือนเดียวกันของปี 2566 ที่ส่งออกถึง 105,726 คัน ส่งผลให้ส่งออกลดลงทุกตลาด ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลางและยุโรปที่สงครามอิสราเอลกับฮามาสขยายมากขึ้น อาจจะส่งผลกระทบการส่งออกไปยังตลาดดังกล่าวน้อยลง อีกความขัดแย้งที่ต้องติดตามแบบไม่กระพริบตาที่จะกระทบเศรษฐกิจโลกคือสงครามยูเครนกับรัสเซียที่อาจขยายไปประเทศอื่นซึ่งกระทบการส่งออกรถยนต์และสินค้าอื่นๆ แบ่งเป็น
• รถกระบะ 45,922 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 54.45 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 26.67
• รถยนต์นั่ง ICE 21,831 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 25.89 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 23.17
• รถยนต์นั่ง HEV 3,806 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 4.51 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 80.21
• รถ PPV 12,775 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 15.15 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 1.61
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 55,728.19 ล้านบาท ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 23.11
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,336.39 ล้านบาท ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 10.17
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 15,715.26 ล้านบาท ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 11.96
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,495.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 9.04
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนตุลาคม 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 77,274.86 ล้านบาท ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 19.78
เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 853,221 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 8.02 แบ่งเป็น
• รถกระบะ ICE 486,584 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 57.03 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 11.76
• รถยนต์นั่ง ICE 210,945 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 24.72 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 20.35
• รถยนต์นั่ง HEV 41,336 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 4.84 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 336.59
• รถ PPV 114,356 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 13.40 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 12.23
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 588,790.48 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 0.53 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 29,588.95 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 8.03
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 161,691.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 4.42
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 22,150.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 9.52
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 802,220.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 0.38
*รถจักรยานยนต์*
เดือนตุลาคม 2567 มีจำนวนส่งออก 175,066 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 150.98 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 156.94 โดยมีมูลค่า 6,562.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 16.62
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 268.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 16.24
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 232.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 62.24
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนตุลาคม 2567 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 7,063.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 17.69
เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 776,362 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 15.89 มีมูลค่า 52,751.56 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 5.76
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,183 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 13.48
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,704.83 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 1.10
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 56,639.39 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 5.89
เดือนตุลาคม 2567 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 79,338.66 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ17.59
เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 858,860.17 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 0.06