ภาวะตลาด : SET Index วานนี้ปรับตัวลดลง -8.22 จุด ปิดที่ 1456.47 มูลค่าซื้อขาย 3.97 หมื่นลบ. โดยลดลงทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ ที่กังวลกับค่าเงินที่จะอ่อนลงจากนโยบายทรัมป์ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้นทำให้มีเงินไหลออกในช่วงนี้แรงขายอยู่ในกลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์และหุ้นที่มีกำไรออกมาตํ่ากว่าคาด รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 4Q24F อ่อนแอลง ต่างชาติขายสุทธิ -756 ลบ. สถาบันในปท.ขายสุทธิ -270 ลบ.
ปัจจัยต่างประเทศ
+/- ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่ง จากมีความหวังว่าทรัมป์ จะลดภาษีนิติบุคคล และเร่งผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมคริปโทเคอร์เรนซี แต่สร้างความกังวลว่านโยบายทรัมป์ จะทำให้ค่าเงินเอเชีย (รวมไทย) อ่อนลง มีการกีดกันการค้ามากขึ้นโดยเฉพาะกับจีนและปท.ที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐมาก
- ราคาน้ำมันดิบร่วงราว 3% เป็น 68-72 US$/bbl จากกังวลศก.จีน หลังนวค.มองมาตรการกระตุ้นศก. 5 ปี ในวงเงิน 10 ล้านล้านหยวนเพื่อรับมือหนี้สินรัฐบาลท้องถิ่น ไม่ได้กระตุ้นศก.ได้โดยตรง และภาคอสังหาฯยังซบเซามาก และการผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้นในปี 25-26
• สหรัฐ : ตลาดคาดดัชนี CPI ทั่วไปต.ค.เพิ่ม 0.2%MoM, 2.4%YoY ส่วน Core CPI เพิ่ม 0.3%MoM, 3.3%YoY เท่ากับเดือนก.ย. (รายงานออกพุธนี้)
+/- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้นเป็น 105.5 เงินบาทอ่อนค่าเป็น 34.54 บาท/ดอลลาร์ ด้าน US bond yield 10 ปีอยู่ที่ 4.33% ดัชนี VIX ทรงตัวที่ 14.97 ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) อ่อนเป็น 142.25 (ระดับสูงสุดรอบนี้ที่ 149) ดัชนี Baltic Dry Index ขยับขึ้นเป็น 1558 (รอบนี้ตํ่าสุด 1374 สูงสุด 2110)
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
•/- แหล่งข่าวก.คลังระบุว่าคณะกรรมการฯคัดเลือกนายกิตติรัตน์เป็นประธานบอร์ดธปท.หลังจากนี้จะเสนอครม.พิจารณา เมื่อเห็นชอบแล้วจะทูลเกล้าฯ เพื่อทรงแต่งตั้งต่อไป ปัจจัยจับตา คือ ฝ่ายการเมืองจะครอบงำการทำงานของธปท.อย่างที่บางกลุ่มกังวลหรือไม่
ปัจจัยติดตาม : สถานการณ์ตะวันออกกลาง, โครงการดิจิตอลวอลเล็ตเฟสสอง, มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมของรัฐบาลไทย, รายงานเงินเฟ้อ (CPI)สหรัฐ,สุนทรพจน์ประธานเฟด 14 พ.ย.นี้
กลุยทธ์ : หลุดตํ่ากว่า 1460-1456 มีแนวรับถัดไป 1450/1443...ดัชนีได้หลุดแนวรับ 1460-1456 ที่ให้ไว้แล้ว หากวันนี้ยังไม่สามารถยืนเหนือแนวรับ 1450/1443 ระวังจะเป็นการพักฐานที่ใช้เวลา แต่หากไม่หลุดตํ่ากว่า จะมีแนวต้านที่ 1465-1468 หุ้นเด่นเทคนิควันนี้เป็น COM7, PRM
หุ้นพื้นฐานแนะนำลงทุน : ADVANC – กำไรสุทธิปกติใน 3Q24 อยู่ที่ 8.5 พันล้านบาท +5.6%YoY รายได้หลักโตดี 20%YoY, 1.4%QoQ มาจากการเติบโตธุรกิจมือถือและ FBB และยอดขายอุปกรณ์เพิ่มขึ้นแต่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายการตลาดและสำรองโบนัส แนวโน้ม 4Q24 ยังเป็นบวก คาดกำไรโตทั้ง YoY และ QoQ โดยภาคท่องเที่ยวที่เติบโตดีช่วยหนุนด้วย แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 290 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@th.dbs.com : Tel 02 587 7829