สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(12 พฤศจิกายน 2567)--------บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) เปิดผลงานงวด 9 เดือนปี 67 รายได้รวมแตะ 1,195.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.69% อานิสงส์ทยอยรับรู้รายได้ส่งมอบงานขนาดใหญ่หลายโครงการ ฟากซีอีโอ “อธิพร ลิ่มเจริญ” เผยพร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ดันรายได้เติบโตตามเป้าหมาย 20% แตะออลไทม์ไฮ

นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) (I2) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในงวด 9 เดือน (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,195.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 351.71 ล้านบาท หรือ 41.69% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 54.58 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 1,155.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 324.43 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.02% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยมาจากรายได้ธุรกิจโซลูชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) จำนวน 388.44 ล้านบาท เนื่องจากทยอยส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการซื้อพร้อมติดตั้งระบบอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย (SD WAN) , โครงการ Subscription Endpoint Detection and Response license และ Next-Generation Antivirus และงานโครงการอื่นๆ

ขณะที่รายได้จากธุรกิจโซลูชั่นด้านการจัดการและประหยัดพลังงาน (Energy) อยู่ที่ 606.67 ล้านบาท จากการทยอยจัดซื้อและติดตั้งโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่(Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงรายได้จากธุรกิจโซลูชั่นการให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Services) อยู่ที่ 155.52 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปีนี้ บริษัทฯ มียังสามารถทำผลงานเติบโตได้ดีตามแผนที่วางไว้ สามารถส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ได้ตามกำหนด และมีแผนเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการของภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง” นายอธิพร กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% สร้างสถิติใหม่ต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีแผนร่วมประมูลงานใหม่รวมมูลค่าประมาณ 6,455 ล้านบาท คาดว่ามีโอกาสได้รับงานไม่ต่ำกว่า 20% ช่วยผลักดันผลการดำเนินงานในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าให้เติบโตก้าวกระโดด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงศึกษาและมองหาโอกาสในการลงในธุรกิจใหม่ โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้าน ESG การใช้พลังงานหมุนเวียน การประหยัดพลังงาน การลดก๊าซเรือนกระจก รวมไปถึงการสรรหาลูกค้าใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีแผนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้าน ESG และด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สอดคล้องเมกะเทรนด์