สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(12 พฤศจิกายน 2567)--------ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่จะเสนอขายของบริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG ที่ AA+(tha) โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะออกขายเป็นชุดภายในเดือนธันวาคม 2567 โดยจะมีอายุไม่เกิน 5 ปี และเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้จะนำไปใช้ในการลงทุนในตราสารที่มีลักษณะคล้ายทุนของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank (อันดับเครดิตภายในประเทศ AA+(tha)/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ)
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
หุ้นกู้ของ LHFG ได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับเดียวกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวถือเป็นภาระผูกพันอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน ของบริษัท
อันดับเครดิตภายในประเทศของ LHFG พิจารณาจากปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นซึ่งคือ CTBC Bank Co., Ltd. (CTBC; อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ A/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน a) ซึ่งอยู่ในไต้หวัน โดย CTBC มีสัดส่วนการถือหุ้นโดยตรงใน LHFG ที่ 46.6% และมีอำนาจควบคุมการบริหารจัดการ นอกจากนี้ อันดับเครดิตของ LHFG ยังรวมการพิจารณาถึงโครงสร้างเครดิตของบริษัทในเชิงเปรียบเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศโดยฟิทช์
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต สามารถดูได้จาก "Fitch Affirms LHFG and LH Bank's National Long-Term Rating at 'AA+(tha)'; Outlook Stable" ลงวันที่ 24 มีนาคม 2567
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การเปลี่ยนแปลงในเชิงลบใดๆของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ LHFG จะส่งผลในเชิงลบเช่นเดียวกันต่ออันดับเครดิตของหุ้นกู้ อันดับเครดิตของ LHFG มีความอ่อนไหวต่อการลดลงของความสามารถและโอกาสที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนเป็นพิเศษนอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติที่จะมีให้แก่บริษัทลูก
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกใดๆของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ LHFG จะส่งผลเช่นเดียวกันต่ออันดับเครดิตของหุ้นกู้ กรณีดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากความสามารถหรือโอกาสที่เพิ่มขึ้นของ CTBC ในการให้การสนับสนุนแก่ LHFG ทั้งนี้จะต้องพิจารณาถึงโครงสร้างเครดิตซึ่งรวมปัจจัยสนับสนุนจาก LHFG เปรียบเทียบกับธนาคารและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย
อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของ LHFG มีความเชื่อมโยงกับโครงสร้างเครดิตของ CTBC