ภาวะตลาด : SET Index วันจันทร์มีช่วงปรับตัวขึ้นระหว่างวันก่อนปิดลงรอผลการเลือกตั้งสหรัฐ ปิดตลาดดัชนี -1.22 จุด ปิดที่ 1462.95 มูลค่าซื้อขาย 2.8 หมื่นลบ. นักลงทุนสถาบันในปท.ซื้อสุทธิ +21 ลบ. ส่วนต่างชาติหยุดขายกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย +24 ลบ.
ปัจจัยต่างประเทศ
- ตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์รอดูผลการเลือกตั้งสหรัฐที่สูสีและอาจจะใช้เวลานับคะแนนหลายวัน หุ้นสหรัฐบวกและลงสลับวันเว้นวัน เป็นการรอดูผลการเลือกตั้งสหรัฐที่เริ่มในวันนี้ แต่เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลานับคะแนนหลายวัน และหลังจากนั้นจะเป็นการประชุมเฟดวันที่ 6-7 พย. ซึ่งนโยบายของทรัมป์ จะเอาสหรัฐเป็นหลักและกีดกันการค้ามากกว่าแฮร์ริส จะขึ้นภาษีกับจีนจาก 20% เป็น 40%-60% และประเทศอื่นๆจาก 3% เป็น 10%-20% ด้านภาษีนิติบุคคลทรัมป์ จะลดภาษีจาก 21% เป็น 15%-20% และผ่อนคลายกฏระเบียบทางการเงิน ในขณะที่แฮร์ริสจะขึ้นภาษีเพื่อลดขาดดุลงบประมาณเป็น 28% หากทรัมป์มาอาจจะหนุนหุ้น/เศรษฐกิจมากกว่า แต่เอเชียจะได้ประโยชน์ลดลง ดอลลาร์แข็งค่าบาทอ่อนเป็นลบกับเงินทุนไหลเข้าไทย จากเดิมที่จะได้ประโยชน์ส่วนต่างดอกเบี้ย แคบลงเร็วหนุนบาทแข็ง
- การประชุมเฟดหลังรู้ผลการเลือกตั้ง ตลาดคาด 98% เฟดลดดอกเบี้ยลง 25bps ตอนนี้ตลาดคาดว่าเป็นการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 25bps
ปัจจัยในประเทศฯ
- นักกลยุทธ์ดีบีเอสประเมินว่าการเร่งตัวของ GDP ในครึ่งหลังของปี และกองทุนวายุภักษ์จะช่วยหนุน SET Index การเติบโตของ GDP จะเร่งตัวขึ้นในครึ่งหลังของปี 2024 ประเมิน GDP ใน 2H24 ไว้ที่ 3.5% และเป็นการฟื้นตัวที่ขยายตัวในหลายภาคส่วน /คงประมาณการ GDP ทั้งปี 2024 ไว้ที่ 2.8% และเป้าหมาย SET Index ณ สิ้นปี 2024 ที่ 1,550 จุด โดยใช้ P/E ที่ 17 เท่า /มี 4 ธีมหลักที่น่าจับตามอง ได้แก่ (i) China Plus One, (ii) หุ้นเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์, (iii) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และ (iv) ธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย / หุ้นที่แนะนำ 8 หลักทรัพย์
- ทางเทคนิค SET “ทำฐานเพื่อรอขึ้นไม่ควรหลุด 1460-1456/1446 อีก” SET Index วันจันทร์ที่ผ่านมาตลาดมีช่วงปรับตัวขึ้นแต่ยังไม่ถึงแนวต้านที่ให้ไว้ทำจุดสูงสุดที่ 1473.28 ก่อนลงมาปิดใกล้จุดตํ่าสุดของวัน การปรับตัวขึ้นยังไม่ถึงแนวต้าน 1482/1488-1490 ที่ให้ไว้ การอ่อนตัวลงปิดตํ่าแสดงให้เห็นว่าแรงขายยังคงมี อาจจะเป็นการแกว่งตัวสร้างฐานสักพัก ระยะสั้นมีแนวรับที่ไม่ควรหลุดอยู่ที่ 1460-1456 และแย่สุดแนวรับอยู่ที่ 1450-1446 หากยังไม่หลุดตํ่ากว่าจะเป็นการแกว่งตัวเพื่อรอขึ้นส่วนแนวต้านที่จะทำให้ชะลอการขึ้นยังคงอยู่ที่ 1482/1488-1490 หุ้นเด่นเทคนิควันนี้เป็น IVL, TVO
- คลังยังไม่ชงมาตรการกระตุ้นศก. นายกฯ จี้เร่งเบิกจ่ายงบลงทุน(อินโฟโควสต์) เครื่องมือสำคัญ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยเฉพาะงบลงทุนที่มีมูลค่าถึง 9.6 แสนล้านบาท คิดเป็นมูลค่า 5% ของ GDP นายกฯขอให้ร่วมกันผลักดันเม็ดเงินการลงทุนลงสู่ระบบเศรษฐกิจ
- ระยะกลาง-ยาวเฟดเริ่มลดดอกเบี้ยในที่สุดเป็นบวกต่อหุ้นไทย ในระยะกลาง-ยาวปีนี้การลดดอกเบี้ยของเฟดจะทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยลดลง จะมีเม็ดเงินกลับเข้ามาในภูมิภาคเอเชีย ค่าเงินสกุลเอเชีย/บาทแข็งค่าหนุนหุ้นเอเชียและหุ้นไทย Earning Yield Gap จะดีขึ้นการลดดบ. ในรอบนี้เพื่อให้ดอกเบี้ยมาอยู่ในระดับปกติหลังเฟดขึ้นดบ.เร็วต่างจากอดีตที่ลด ดบ.จากปัญหาเศรษฐกิจ ติดตามการเลือกตั้งสหรัฐ หากทรัมป์ มาผลบวกจะลดลง
หุ้นพื้นฐานแนะนำลงทุน : CHG – คาดกำไรสุทธิใน 3Q24F เติบโตแกร่ง +23%YoY, +109%QoQ เป็น 401 ล้านบาท จากรายได้เพิ่ม +15%YoY,+21%QoQ เพราะเป็น high season ของร.พ. และมีรายได้จากประกันสังคมเข้ามา 90 ล้านบาทใน 3Q คาด GPM งวด 3Q24F เพิ่มเป็น 296.5% จาก 21.5% ใน 3Q23 แนวโน้มยังไปได้ดี ประเมินว่าอัตราค่าชดเชยโรคซับซ้อนจาก SSO จะอยู่ที่ 12,000 บาท/ราย แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 3.30 บาท
นักวิเคราะห์ : พงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ : pongpats@th.dbs.com : Tel. 02 857 7825