มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SETแกว่งตัวออกข้าง โดยช่วงต้นคาดดัชนีจะเผชิญแรงขายจากความกังวลสงคราม ก่อนจะค่อยๆยกตัวขึ้นมาในระหว่างวัน มองปัจจัยกดดัน นำโดย 1) ความกังวลสงครามระหว่างอิสราเอล และ อิหร่าน ยังปกคลุมภาพรวมตลาด โดยล่าสุดสำนักข่าว Guardian ชี้อิสราเอลอาจเลือกโจมตีแท่นขุดเจาะน้ำมันรวมถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อแก้แค้น มีโอกาสที่นักลงทุนจะยังขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง หลังวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยไปกว่า 5.3 พันล้านบาท โดยขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 คาดจะกดดันราคาของหุ้นขนาดใหญ่ที่มักเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ 2) รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบีย เผย ราคาน้ำมันดิบอาจร่วงลงสู่ระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากประเทศกลุ่มสมาชิก OPEC+ บางรายยังคงผลิตเกินกว่าโควต้าที่ตกลงกันไว้ โดยอิรัก และคาซัคสถาน ถูกจับตามองเนื่องจากในเดือน ส.ค. อิรักผลิตน้ำมันออกมามากกว่าโควต้าที่ได้รับถึง 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ขณะที่คาซัคสถานมีแหล่งน้ำมันแทงกิซซึ่งรอจะเริ่มผลิตจึงอาจทำให้การผลิตเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ได้เช่นกัน กดดัน Upside ราคาน้ำมันดิบ WTI โดยเช้านี้อยู่ที่ 70.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ที่ประชุม OPEC+ ยังคงยึดแผนเดิม คือจะตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตอีกครั้งในการประชุมเดือน ธ.ค. ด้านปัจจัยบวกมอง : 1) เม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นของกลุ่มสถาบันยังไม่แผ่ว จากภาพวานนี้ซื้อสุทธิ 4.6 พันล้านบาท โดยซื้อต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 มองจะเป็นแรงหนุนหุ้นขนาดกลางและขนาดใหญ่ 2) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 1.43 แสนราย มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.24 แสนราย และเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน หนุนความสามารถในการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานและดอกเบี้ยของเฟดไปพร้อมกัน 3) จับตาการแสดงวิสัยทัศน์ของนายกฯ ไทยบนเวที ACD ณ กรุงโดฮาคาดจะเห็นการผลักดันนโยบายระยะยาว ช่วยสร้างแรงหนุนให้หุ้น Domestic ส่วนคืนนี้จับตาตัวเลข PMI สหรัฐ คาดตลาดจะตอบรับเชิงบวกหากเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของ PMI
กลยุทธ์การลงทุน : 1) มาตรการภาครัฐ : AOT, BDMS, CPN, CRC, MINT, CK, STEC, PYLON 2) วายุภักษ์ : ADVANC, AP, FTREIT ,GULF, INTUCH, LHHOTEL BGRIM , SCC, CPF 3) Data center : BBIK, BE8 , INSET, TRUE, WHA และ 4) Selective : SISB , ITC
แนวรับ-ต้าน
1,445-1,460
ปัจจัยบวก
+บีโอไอ เผยปัจจุบันมีโครงการ Data Center และ Cloud Service ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ รวม 46 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 167,989 ล้านบาท ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ชลบุรี และระยอง
+ บอร์ด รฟท. เห็นชอบต่อมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท สายสีแดงอีก 1 ปี เตรียมชง ครม. ก่อนหมดอายุ 30 พ.ย. ด้าน รฟม. รอตั้งบอร์ดใหม่ก่อนเคาะมาตรการสายสีม่วงต่อ
+ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 8 เดือนอยู่ที่ 156.37 ล้านลิตร/วัน (+1%y y) เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการ
+ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเผย สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะยังไม่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันขายปลีก เนื่องจากค่าการตลาดที่อยู่ในระดับสูง และ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าช่วยทำให้น้ำมันที่นำเข้ามามีราคาไม่สูงมาก
ปัจจัยลบ
-ปลัดกระทรวงแรงงาน เผยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท อาจต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากต้องรอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพร้อม และต้องรอการแต่งตั้งอธิบดี กสร. คนใหม่หลังท่านเดิมได้เกษียณไปไม่นาน
-กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์ จากประเทศในอาเซียนรวมถึงไทย เพื่อสกัดการทุ่มตลาด โดยภาษีดังกล่าวจะมีผลย้อนหลัง 90 วันนับตั้งแต่วันที่ประกาศ เนื่องจากพบว่าบริษัทต่างๆได้มีการเพิ่มปริมาณการส่งออกในช่วงก่อนหน้าที่จะทราบข่าว
- การหยุดงานของสหพันธ์คนงานขนถ่ายสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศ (ILA) ได้ทำให้การขนส่งสินค้าหลายประเภทตั้งแต่อาหารไปจนถึงรถยนต์ถูกขัดขวางที่ท่าเรือหลายสิบแห่งตั้งแต่รัฐเมนไปจนถึงเท็กซัสจะทำให้เศรษฐกิจสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อวัน
- Toyota Motor จะเลื่อนการเริ่มผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในอเมริกาเหนือไปเป็นช่วงครึ่งแรกของปี 2569 เนื่องจากการปรับเปลี่ยนการออกแบบและยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ชะลอตัว
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์