วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก ได้แรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ลงทุนในหุ้นไทยเป็นวันแรก ประกอบกับ Google ประกาศลงทุน Data Center ในประเทศไทย มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ไอซีที ธนาคาร และค้าปลีก อย่างไรก็ตามนักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขการจ้างงานสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,464.66 จุด +15.83 จุด +1.09% มูลค่าการซื้อขาย 52,588.69 ลบ. Program Trading +369.87 ลบ.ต่างชาติ -1,715.30 ลบ. TFEX +3,725 สัญญา ตราสารหนี้ -3,033.53 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.66 ดอลลาร์ หรือ +2.44% ปิดที่ 69.83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้อิสราเอลที่ใช้ปฏิบัติการสังหารผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่าน
+ กรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเดือนสิงหาคม 2567 ว่ามีมูลค่ารวม 154,987 ล้านบาท +16.2%YoY ทำให้ 8 เดือนแรกปี 2567 มีมูลค่ารวม 1,225,371 ล้านบาท +7.1%YoY
+ ครม. เห็นชอบและรับทราบตามที่สภาพัฒน์เสนอกรอบและงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีวงเงินดำเนินการ 1,512,294 ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน 264,106 ล้านบาท
+สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนสิงหาคม 2567 พบว่าการส่งออกมีมูลค่า 26,182.3 ล้านบาท ขยายตัว 7% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 939,521 ล้านบาท ขยายตัว 13% เมื่อหักทองค้า น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัยพบว่าการส่งออกในเดือนสิงหาคมขยายตัว 6.6% ดุลการค้าของประเทศไทยเกินดุล 264.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขาดดุลในรูปของเงินบาท 1,497 ล้านบาท
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 173.18 จุด หรือ -0.41% จากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังจากมีรายงานว่าอิหร่านยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอล
- ญี่ปุ่นรายงานผลสำรวจภาคเอกชนบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตในเดือนก.ย. ยังคงซบเซาโดยทั้งผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่หดตัวจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอและความต้องการจากต่างประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว
- กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ออกแถลงการณ์ว่าอิหร่านได้ยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้ต่อการสังหารประชาชนในฉนวนกาซา รวมทั้งผู้นำของกลุ่มฮามาสและฮิซบอลเลาะห์
- สหรัฐรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับตัวลงสู่ระดับ 47.3 ในเดือนก.ย. จากระดับ 47.9 ในเดือนส.ค. บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว
- ครม. อนุมัติแผนบริหารหนี้สาธารณะปีงบ 68 ก่อหนี้ใหม่ 1.2 ล้านลบ.เพิ่มขึ้น 61,723 ล้านบาท เมื่อเทียบกับแผนปี 67 โดยประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ 66.80% จากกรอบที่กำหนดไว้ไม่เกิน 70%ของ GDP
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก โดยมีแรงกดดันจากการที่อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลส่งผลให้เกิดสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรง ช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,450-1,471 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
* หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
* หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้้าลด : TASCO DOHOME GLOBAL HMPRO DCC DRT TOA DPAINT
* หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
* สินค้าส่งออกเดือนส.ค.ที่ยังเติบโต : ITC AAI STA NER TEGH GFPT FM
* หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนลงทุน Data Center : WHA ADVANC GULF TRUE INSET
* กกพ. เปิดประมูลพลังงานทดแทนรวม 2,180 MW (ลม 600 MW และแสงอาทิตย์ 1,580 MW) : GUNKUL SSP TSE GULF BGRIM GPSC