Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

452

 

 

SET Index แกว่งในกรอบ 1445-1460 จุด
กลยุทธ์เลือกหุ้นได้ประโยชน์ภาคการท่องเที่ยว
Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1445-1460 จุด ปัจจัยแวดล้อมต่างประเทศผสมผสานโดยมีปัจจัยบวกจากทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯ แต่จะถูกลดทอนจากความกังวลต่อ Yen Carry Trade และความเสี่ยงในตะวันออกกลาง (อิสราเอล-อิหร่าน) ที่กลับมา แต่เราเชื่อว่าทิศทาง Fund Flow จากนักลงทุนสถาบันฯ และต่างชาติที่ไหลเข้าจะเป็นปัจจัยหนุน กลยุทธ์เลือก AOT และ CPN

 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ผ่านมาแกว่งผสมผสาน +/-0.3% จากการรายงานตัวเลข CORE PCE สหรัฐฯ เดือน ส.ค. ขยายตัว 2.7%YoY ตามคาด ทำให้วงจรดอกเบี้ยฯขาลงสหรัฐฯ ยังดำเนินต่อไป ซึ่งล่าสุด FEDWATCH คาดว่า FED จะลดดอกเบี้ยฯ 50 bps และ 25 bps ในการประชุมเดือน พ.ย. และ ธ.ค. 67 ส่วนประเด็นที่จะส่งผลต่อทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้อยู่ที่การรายงาน ISM ภาคบริการและภาคการผลิต รวมถึงตัวเลขภาคแรงงาน จุดที่บวกอ่อนๆ คือ Consensus คาดว่าจะออกมาไม่แย่ไปกว่าเดือนก่อน หากเป็นไปตามคาดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯยัง Soft Landing ซึ่งจะดีต่อ Fund Flow ไหลเข้าตลาด Emerging Market

 

ค่าเงินเยนวันศุกร์ที่ผ่านมาแข็งค่า 1.8% จากความกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ยฯ หลังว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น สนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินกลับสู่สภาวะปกติของ BOJ โดยดัชนี NIKKEI เช้านี้ปรับลง -4.5% ประเมินสถานการณ์ข้างต้นอาจทำให้ความกังวล Unwind Position ของ Yen Carry Trade กลับมา แต่เชื่อว่าผลต่อตลาดหุ้นบ้านเราไม่มาก เนื่องตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี 2.4% Laggard ตลาดหุ้นโลกที่ปรับขึ้น 17.3% ขณะที่ค่าเงินเยนที่แข็งค่า สวนทาง Dollar Index จะส่งผลให้ค่าเงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่าซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อ Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นบ้านเรา

 

สำหรับปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้เราคาดว่าหุ้นเกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยว (AOT CENTEL CPN ERW) จะได้ Sentiment บวกจากการเข้าสู่ Golden Week ของจีน นอกจากนี้ยังมีเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ที่จะเข้าสู่ตลาดตั้งแต่เดือน ต.ค. เป็นปัจจัยหนุน SET Index ต่อไป

 

Market Summary
SET Index ติดลบ 5 จุด กดดันหลักมาจากกลุ่มธนาคาร KBANK-3% BBL-2% จากกระแสกดดัน กนง. ปรับลดดอกเบี้ยฯ กลุ่มพลังงาน PTTEP -4% จากข่าวซาอุฯเตรียมเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันในเดือน ธ.ค. และกลุ่ม ICT ADVANC -1.5% TRUE -0.9% ส่วนกลุ่มที่ขึ้นสวนกลุ่มท่องเที่ยว สายการบินเก็ง Golden Week จีนหนุน AAV BA บวกกว่า 6% ERW +5% AOT +0.8% และหุ้นกลุ่มฟื้นฟูหลังน้ำท่วม GLOBAL +2% TASCO +2.8%

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ AOT CPN
AOT
ได้ประโยชน์จาก
Golden Week
ราคาหุ้นปรับลงกว่า 4% นับจาก พ.ค. ที่ผ่านมา กดดันจากยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า และการโอนสนามบินภูมิภาคมาบริหาร ซึ่งเราเชื่อว่าความกังวลได้ซึมซับไปในราคาแล้ว และประเมินว่าแรงขับเคลื่อนต่อไปจะอยู่ที่แนวโน้มกำไร ซึ่งคาดว่า EPS Growth ปี 67/68 จะขยายตัว 124% และ 31% และ ROE ปีหน้าคาดจะเร่งตัวไปที่ 17.3% มากกว่าระดับ Pre-Covid

 

เราคาด AOT จะได้ Sentiment บวกหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 4Q67 ที่จะเร่งตัวขึ้นตามปัจจัยทางฤดูกาล หนุนจำนวนนักท่องเที่ยวปี 67 ทั้งปี ขึ้นไปที่ 36 ล้านคน จากปัจจุบัน YTD อยู่ที่ 25.4 ล้านคน

 

ส่วนแรงขับเคลื่อนระยะสั้นเชื่อว่าจะได้แรงหนุนจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะเร่งตัวขึ้นจากการเข้าสู่ช่วง GOLDEN WEEK (ระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค.) สอดรับกับ 3 ปีที่ผ่านมาราคา AOT ปรับขึ้นในช่วงระหว่าง 30 ก.ย. -7 ต.ค. เฉลี่ย 1.3%
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 71.00 บาท


CPN
กำไรครึ่งปีหลังจะเติบโตดี
และมีลุ้นได้เม็ดเงินวายุภักษ์หนุน
แนวโน้มธุรกิจ 2H67 ยังเติบโตหนุนจากธุรกิจศูนย์การค้าและโรงแรม ที่เชื่อว่าจะได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและการเข้าสู่ช่วงท่องเที่ยวปลายปี ช่วยหนุนปริมาณผู้ใช้บริการ หนุนกำไรปกติปี 67 อยู่ที่ 1.66 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 9.4%YoY

 

แต่ราคาหุ้น YTD กลับให้ผลตอบแทนติดลบ -6% สวนทางกำไรที่ยังเติบโต ขณะที่ในด้าน Valuation ซื้อขาย PER67E อยู่ที่ 17.8 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี กว่า – 1 SD จึงมองว่าเป็นระดับที่ไม่แพง

 

ด้วยแนวโน้มกำไรที่ยังเติบโต ด้าน Valuation ไม่แพง SET ESG Rating อยู่ระดับ AA จึงคาด CPN ยังเป็นหนึ่งในเป้าหมายของเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์เตรียมเข้าสู่ตลาดหุ้นตั้งแต่ ต.ค. เป็นต้นไปอีกด้วย
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 77.50 บาท

 

KEY FACTOR
จำนวนตำแหน่งงานเปิดใหม่ น่าจะเพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค. เป็นสัญญาณบวกภาคแรงงาน
ในสัปดาห์นี้จะเข้าสู่ช่วงการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจประจำเดือน ก.ย. ซึ่งมีตัวเลขสำคัญ ประกอบด้วย 1) จำนวนตำแหน่งงานเป็นรับสมัครใหม่ (JOLTS) ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ตลาดจะจับตามอง และเป็นตัวเลขภาคแรงงานที่มีนัยสำคัญตัวแรกๆ หลังการประชุม FOMC เดือน ก.ย. ที่ผ่านมา (Consensus คาดว่า จะเพิ่มขึ้น 1.1 แสนตำแหน่ง) 2) ตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือน ก.ย. PMI ภาคการผลิต (คาด 49.4) / ภาคบริการ (คาด 50.4) และ Caixin PMI ภาคการผลิต (คาด 50.5) / ภาคบริการ (คาด 51.6) ซึ่งสะท้อนภาพที่ไม่ต่างจากเดือนก่อนมากนัก

 

ส่วนปัจจัยภายในประเทศคาดว่าจะเริ่มให้น้ำหนัก 1) การ Preview ผลประกอบการงวด 3Q67 หลังปิดไตรมาสที่ 2) เม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ที่จะเริ่มทยอยเข้าซื้อหุ้น ในตลาดตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. และ 3) กระแสเงินทุนต่างชาติ ที่ช่วงปลายสัปดาห์พลิกกลับมาขายติดต่อกัน 3 วัน (เป็นครั้งแรกตั้งแต่ 5 ก.ย.) สะสมรวม -3.69 พันล้านบาท

 

EYES ON
30 ก.ย. PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ, Caixin PMI ภาคการผลิตและบริการ
1 ต.ค. จำนวนตำแหน่งงานเปิดใหม่ (JOLTS), ISM ภาคการผลิต, CPI เดิอน ก.ย. ของ Eurozone
2 ต.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ISM ภาคบริการ
3 ต.ค. PPI เดิอน ก.ย. ของ Eurozone

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ


 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้