มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
 SETคาดอิงทางขึ้น โดยมองหุ้นที่จะทำหน้าที่ผลักดันตลาดขึ้นจะเปลี่ยนจากกลุ่ม Domesticเป็นหุ้นที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ประเด็นบวก นำโดย 1) PBOC เตรียมออกมาตรการทางการเงินหลายรูปแบบ คือ ก.)ปรับลดอัตราส่วนเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์(RRR) ลง 0.5% ภายในสิ้นปี 2024 คาดจะมีเงินส่วนเกินเข้ามาในระบบมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านหยวน ข.)ออกมาตรการลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลระยะเวลา 7 วัน จาก 1.7% เป็น 1.5% ค.)ลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงเฉลี่ย 0.5%และลดดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าชั้นดี(LPR) ลงอีก 0.2-0.25% ง.)ลดเงินดาวน์สำหรับบ้านหลังที่ 2 จาก 25% เหลือเพียง 15% จ.)สร้าง Swap Program และแหล่งเงินกู้ราคาถูกจาก PBOC คาดจะมีเม็ดเงินเข้ามาอีก 8 แสนล้านหยวน นับเป็นความพยายามครั้งใหญ่ของจีนที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจพร้อมกับแก้ปัญหาภาคอสังหาฯ เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัว 5%ตามที่ตั้งไว้ได้ สร้าง Sentiment บวกให้ตลาดหุ้นในเอเชียซึ่งมีสัดส่วนการค้ากับจีนค่อนข้างมาก มองหุ้นในกลุ่มยางพารา ปิโตรเลียม ชิ้นส่วนอิเล็กฯ จะรับอานิสงส์บวก 2)ความหวังต่อนโยบายภาครัฐไทยยังมี โดยวานนี้ครม.มีมติเห็นชอบในประเด็นงบสนับสนุนการใช้ยานยนต์ EV โดยใช้งบกลางกว่า 7,125 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการซื้อรถ EV และการลงทุนในอุตสาหกรรม EV มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและชิ้นส่วนยานยนต์ นอกจากนี้รองนายกเผยเตรียมออกมาตรการกระตุ้น ภาคอสังหาฯในเร็วๆนี้ สร้าง Sentiment บวกให้หุ้นอสังหาฯ ส่วนปัจจัยกดดันมองตลาดเริ่มกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้งหลังตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนก.ย. 67 ออกมาที่ 98.7 จุด ลดลงจากเดือนส.ค.67ที่ 103.3 จุดและต่ำกว่าคาดที่ 103.9 จุด ต่ำกว่าค่า 100 อีกครั้งในรอบ 5 เดือน สร้างความกังวลว่ากำลังซื้ออาจชะลอตัวลงในระยะถัดไป ปัจจัยอื่นจับตาตัวเลขนำเข้าและส่งออกไทยเดือน ส.ค.67 นำเข้าคาดขยายตัวเพียง 6.5%y-y (เดือนก่อน 13.1%) ส่วนส่งออกคาดขยายตัวเพียง 6%y-y (เดือนก่อน 15.2%)

กลยุทธ์การลงทุน : 1) งบและนโยบายภาครัฐฯ : BE8, CENTEL, CK, KTB, MINT, PYLON, STEC, SPALI, AP, SIRI, SC 2) ดอกเบี้ยโลกขาลง+บาทแข็ง : AAV, BGRIM, DELTA, GULF, GPSC, HANAและ 3)China Play : SCGP, IVL, SNNP, CPF, NER, STA, PSL, RCL

แนวรับ-ต้าน
1,455 –1,470

ปัจจัยบวก
+ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ประกาศใช้ เครื่องมือใหม่ 2 อย่างเพื่อกระตุ้นตลาดทุน ได้แก่ Swap Program ขนาดเริ่มต้น 5 แสนล้านหยวน ซึ่งช่วยให้กองทุน ประกันภัย และโบรกเกอร์เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น และการให้กู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำแก่ธนาคารพาณิชย์สูงสุด 3 แสนล้านหยวนเพื่อช่วยสนับสนุนการซื้อหุ้นและการซื้อคืนหุ้นขององค์กรอื่น ๆ
+ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น เผยว่า BOJ ไม่ได้ เร่งรีบที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ โดยระบุว่า BOJ ยังมีเวลาเหลือเฟือในการจับตาดูสถานการณ์ตลาดและเศรษฐกิจโลก ก่อนที่จะตัดสินใจ
+สศก. เผยทิศทางราคา และปริมาณส่งออกข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้เพิ่มขึ้นกว่า 4.09%y-y และ 21.96%y-y ตามลำดับ
+ก. ท่องเที่ยวฯเผยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 22 ก.ย.67 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแล้วทั้งสิ้น 25.41 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1.188 ล้านลบ.

ปัจจัยลบ
- ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถยนต์ ในเดือน ส.ค. 67 อยู่ที่ 119,680 คัน ลดลง 20.56% ยอดขายรถยนต์ อยู่ที่ 45,190 คัน ลดลง 24.98% โดยมีสาเหตุจากการที่ธนาคารเข้มงวดอนุมัติสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือน และการพุ่งขึ้นของ NPL ในสินเชื่อยานยนต์
-สถาบัน Ifo เผยแพร่รายงานการสำรวจพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีอยู่ที่ระดับ 85.4 ในเดือนก.ย. ลดลงจากระดับ 86.6 ในเดือนส.ค. ด้านดัชนีชี้วัดสภาพธุรกิจปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ 84.4 ในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 86.0 สะท้อนภาพลบของประเทศเศรษฐกิจใหญ่ในกลุ่มยูโรโซน
- รอยเตอร์รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณากฎระเบียบเพื่อสกัดกั้นการขาย-นำเข้า สำหรับฮาร์ดแวร์ และ ซอฟต์แวร์ในยานพาหนะที่มีการเชื่อมต่อกับสัญญาณภายนอก (Connected Vehicles) ซึ่งผลิตในจีน และรัสเซีย อาจส่งผลต่อสายการผลิตของบริษัทยานยนต์ขนาดใหญ่อย่าง GM และ Ford

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ - นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์