สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(12 กันยายน 2567)-------บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน)SEIประเภทธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (“เครื่องมือทางการแพทย์”) และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ รวมเรียกว่า (“เครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์”) ได้สรุปราคาไอพีโอที่ 3.10 บาท/หุ้น เปิดขายวันที่ 16-18 กันยายนนี้ โดย

โดยหุ้นที่เสนอขายประชาชนทั่วไปจำนวนรวมไม่เกิน 50,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 29.41 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมดในครั้งนี้บริษัทฯ จะมีทุนชำระแล้วเป็นจำนวนไม่เกิน 85,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 170,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

สัดส่วนการเสนอขายหุ้นสามัญเบื้องต้น มีดังนี้
ประเภทนักลงทุนที่เสนอขายต่อ จำนวนหุ้น ร้อยละ
1) เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ประมาณ 37,500,000 หุ้น 75.00
2) เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ ไม่เกิน 7,500,000 หุ้น 15.00
3) เสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ ไม่เกิน 5,000,000 หุ้น 10.00
รวม 50,000,000 หุ้น 100.00

การเสนอขายหุ้นสามัญโดยบริษัทฯ ในครั้งนี้ ได้มีการกำหนดราคาเสนอขายที่ 3.10 บาทต่อหุ้น โดยหากพิจารณากำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2566 ถึง ไตรมาส 2 ปี 2567) ซึ่งเท่ากับ 26.83 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้เท่ากับ 170,000,000 หุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 0.16 บาทต่อหุ้น และคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ประมาณ 19.64 เท่า

สัดส่วนหุ้นของ “ผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร” ที่ไม่ติด Silent Period:
จำนวน 20,500,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 12.06 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี ผู้ถือหุ้นเดิมได้ทำข้อตกลงที่จะไม่ขายหุ้นเป็นระยะเวลา 180 วันนับจากวันที่หุ้นทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แก่
(1) นายธีระ ปุญญเจริญสิน จำนวน 10,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 5.88 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก
(2) นายกานต์ ปุญญเจริญสิน จำนวน 10,500,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 6.18 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก และ
(3) นายกันต์ ปุญญเจริญสิน รวมจำนวน 6,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 3.53 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก

บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์) ประมาณ 144.04 ล้านบาท ไปใช้ดังนี้

วัตถุประสงค์การใช้เงิน จำนวนเงินประมาณ

(ล้านบาท) ระยะเวลาการใช้เงินโดยประมาณ

1. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการการขยายธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน เช่น ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการสั่งซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ใช้ในการขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์ประเภทวัสดุสิ้นเปลือง เป็นต้น (ทั้งนี้ โปรดพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนที่ 2. โครงสร้างและการดำเนินงานของบริษัท ในหัวข้อ แผนการดำเนินงานในอนาคต) 100.00
ภายในปี 2568

2. โครงการร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ ที่เกี่ยวเนื่องกันกับการดำเนินงานของบริษัทฯ อันอาจรวมถึงคลินิกหรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง (ทั้งนี้ โปรดพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนที่ 2. โครงสร้างและการดำเนินงานของบริษัท ในหัวข้อ โครงการในอนาคต) 44.04
ภายในปี 2568

รวม 144.04

บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะ

สำหรับปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 21.87 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 5.55 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 17.86 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 4.01 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.43 อันเป็นการสอดคล้องกับเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขาย รายได้จากการให้บริการ และรายได้ตามสัญญาเช่า โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ซึ่งมีค่าเท่ากับร้อยละ 5.54 โดยเพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 0.01 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายต่อรายได้จากการขาย ซึ่งในปี 2566 บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตของรายได้จากการขาย มากกว่าอัตราการเติบโตของค่าใช้จ่ายเงินเดือนพนักงานขาย ที่เป็นต้นทุนคงที่ (Fixed Cost)

สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 19.96 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 9.92 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 15.00 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 4.96 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.03 ท่ามกลางการลดลงของรายได้จากการขายสินค้า ทั้งนี้ บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีค่าเท่ากับ ร้อยละ 7.33 โดยมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้น ซึ่งในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ สามารถขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เพิ่มขึ้น โดยอุปกรณ์ทางการแพทย์นั้นมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าเครื่องมือทางการแพทย์ ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น