Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

405


เข้าสู่ฤดูลดดอกเบี้ย
เรากำลังเข้าสู่ฤดูกาลของการปรับลดดอกเบี้ยอย่างเป็นรูปธรรม โดยวันที่ 12 ก.ย. คาดว่า ECB จะปรับลดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่ 2 รวม 0.5% และสัปดาห์หน้า ก็จะถึงคิวของ FEDซึ่งอาจเห็นการปรับลดดอกเบี้ย 0.25 – 0.5% โดยมีแรงกระตุ้นจากความกังวล RECESSION ขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงมาและอยู่ในทิศทางที่ควบคุมได้มากขึ้น ทิศทางดอกเบี้ยขาลงดังกล่าวทำให้เห็น BOND YIELDปรับลดลงชัดเจนทั้งในสว่นของสหรัฐ และ บ้านเรา (แม้ดอกเบี้ยนโยบายยังไม่ปรับลดลง) ภาวะดังกล่าวถือว่าดีต่อตลาดการเงินเฉพาะอย่างยิ่งตลาดหุ้น ส่วนปัจจัยอื่นที่ติดตามเป็นการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 12-13 ก.ย. หลังจากนั้นจะมีการประชุม ครม. นัดแรก 17 ก.ค. ซึ่งน่าจะเห็นการเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจSET INDEX อยู่ในช่วงของการพักฐานระยะสั้น หลังจากที่ปรับตัวขึ้นแรงแต่ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น ทำให้เชื่อว่ายังอยู่ในขาขึ้น วันนี้คาดกรอบ 1417-1437 จุด หุ้น TOP PICK เลือก CKP, GPSC และTASCO

 

น้ำมันลงฉ่ำ กดเงินเฟ้อชะลอ เตรียมเข้าสู่วงจรดอกเบี้ยขาลง
วานนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงแรงราว 4% หรือ -10.6%MTD ย่อต่ำสุดรอบ 16เดือน หลัง OPEC ปรับลดคาดการณ์DEMAND น้ำมันในปี 2567 เหลือ 2.03 ล้านบาร์เรล/วัน (เดิมคาด 2.11 ล้านบาร์เรล/วัน) และในปี 2568 เหลือ 1.74 ล้านบาร์เรล/วัน (เดิมคาด 1.78 ล้านบาร์เรล/วัน) ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าในอีกแง่มุมหนึ่งถือเป็นแรงกดดันให้เงินเฟ้อ มีแนวโน้มชะลอตัวลงเข้าสู่กรอบเป้าหมายซึ่งวันนี้ เวลา 19.30 น. สหรัฐฯ จะมีรายตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน ส.ค. 67 โดยCONSENSUS คาดขยายตัว +2.5%YOY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อน +2.9%YOYทั้งนี้ หากเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ อาจมีโอกาสเห็น FED ลดดอกเบี้ยมากกว่า 25 BPS. ในปีนี้ หรือปรับลดดอกเบี้ย 50 BPS. ในปีนี้ มีความเป็นไปได้สูงขึ้น

 

ในขณะเดียวกัน การเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงมีสัญญาณที่ชัดเจนขึ้น สะท้อนจากBOND YIELD 10Y สหรัฐฯ ร่วงลงมาหลือ 3.64% ท าจุดต่ำสุดใหม่รอบ 15 เดือน โดยการประชุม FED รอบ 18 ก.ย. 67 CONSENSUS คาดการณ์ว่าจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยลงครั้งแรกของปีนี้ 25 BPS. สู่ระดับ 5.25%รวมทั้ง ECB มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยลงมาต่อเนื่องในปีนี้ โดยครั้งแรกเดือน มิ.ย.(จาก 4.0% 3.75%) และครั้งที่ 2 ซึ่งจะประชุมในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย. 67)CONSENSUS คาดการณ์ว่าจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 25 BPS. สู่ระดับ 3.25%

ที่มา: TRADINGVIEW, สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส ที่มา: BLOOMBERG, สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส

สรุป ราคาน้ำมันชะลตัวลง สะท้อนถึงความกลัวเรื่อง RECESSION ที่ซ่อนอยู่ ขณะที่เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม ล้วนเป็นปัจจัยหนุนของการเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงยอดนำเข้าจีน อาจชะลอตัวลง กดดันส่งออกไทย เล่นหุ้นรับบาทแข็งค่าหลังเกิดความคาดหวังการใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้นทั้งใน FEDและ ECB หนุนให้เม็ดเงินไหลออกจากประเทศดังกล่าว และเห็นการไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะไทยที่สะท้อนผ่านค่าเงินบาทที่แข็งค่าแรง 8.5%QTD จาก36.75 บาท/เหรียญสู่ระดับ 33.65 บาท/เหรียญ


ขณะที่อีก 1 ปัจจัยหนุนค่าเงินบาทแข็งค่า คือ ตัวเลขส่งออก/นำเข้าของจีน ที่รายงานออกมาวานนี้ โดยยอดส่งออกพุ่งขึ้น 8.7%YOY(ดีกว่าที่คาด 6.6%YOY) แต่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 0.5%YOY(แย่กว่าที่คาด 2.5%YOY) ซึ่งอาจสะเทือนต่อยอดส่งออกไทยในอนาคต เนื่องจากจีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับต้นๆของไทย และไทยมีมูลค่าส่งออกไปจีนเป็นอันดับ 1 ซึ่งจากสถิติในอดีตบ่งชี้ว่า ตัวเลขยอดนำเข้าจีน กับยอดส่งออกไทย มีค่าสหสัมพันธ์หรือ CORRELATION สูงถึง 0.62


ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ จึงเน้นไปที่หุ้นได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ GPSC, BGRIM, GULF, TFG, TVO
หาหุ้นเดินหน้าต่อ หลังจาก SET ขึ้นมาแรง

หลังจากได้นายกฯ คนที่ 31 เกือบ 1 เดือน (16 ส.ค. – 10 ก.ย.) พร้อมกับมีประเด็นกองทุนวายุภักษ์เข้ามา หนุนให้ FUND FLOW ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทย 3.2 หมื่นล้านบาท (โดยต่างชาติซื้อทางตรง 1.5 หมื่นล้านบาท และซื้อผ่าน NVDR 1.7 หมื่นล้านบาท) ผลักดันให้ SET INDEX ปรับตัวขึ้นได้แรง138 จุด หรือ 10.7%ปัจจุบันมีปัจจัยกดดันให้ SET INDEX ที่ขึ้นมาแรงมีโอกาสย่อตัวลงมาบ้าง จาก 2ประเด็น

1. ต่างชาติเริ่มชะลอการซื้อหุ้นไทยในวานนี้ โดยซื้อทางตรงเหลือเพียง 560 ล้านบาท แต่ขายผ่าน NVDR -743 ล้านบาท หากแรงซื้อต่างชาติชะลอ อาจทำให้เกิดช่องว่างการเติมเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มเติม ก่อนกองทุนวายุภักษ์จะเข้ามาหนุนตลาดในเดือน ต.ค. 67

2. ราคาน้ำมันวานนี้ลงแรง -3.7% ทำจุดต่ำสุดในรอบ 16 เดือน และ -19%QTDจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อาจกดดันราคาหุ้นอิงน้ำมันที่มีสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของตลาด และยังขึ้นมาแรงย่อตัวลงได้อาทิ หลังจากได้นายกคนใหม่ (16 ส.ค. –10 ก.ย.)ราคาหุ้น IRPC ขึ้น 20.7%, BCP 17.7%,BSRC 10.8% TOP 6.9% ขณะที่ราคาน้ำมันย่อตัวลงมา -15.1%

อย่างไรก็ตามยังมีหุ้นที่ได้ SETIMENT เชิงบวก มีโอกาสขึ้นต่อ หลังจาก SET ขึ้นมาแรงแนะนำ
1. หุ้น ANTI – OIL -> TASCO, GPSC, BGRIM, GULF, AAV, BA, RCL, PSL
2. BOND YIELD US ลง -> MTC, SAWAD, TIDLOR, GPSC, BGRIM,GULF, TFG, TVO


Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้