AT THE OPEN (#ATO)
SET Index พักตามกรอบ 1355-1370
ย่อเป็นจังหวะรับ เลือกหุ้นกำไร 2H67 เติบโต

Market Strategy
คาด SET Index พักตามกรอบ 1355-1370 จุด ความกังวล U.S. Recession กลับมากดดันหลังการรายงาน ISM ภาคผลิตเดือน ส.ค. ออกมาต่ำคาดและอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่เชื่อว่าการปรับลงของตลาดหุ้นบ้านเรายังน้อยกว่าจากความคืบหน้าต่อการฟอร์ม ครม. และความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นใหม่จากรัฐบาล กลยุทธ์วันนี้เลือก BJC และ BDMS

การรายงานตัวเลข ISM ภาคการผลิตเดือน ส.ค. อยู่ที่ 47.2 ต่ำกว่าตลาดคาด 47.5 สะท้อนภาคการผลิตสหรัฐฯ อยู่โหมดชะลอตัว(ติดต่อเดือนที่ 5) สร้างความกังวลต่อ U.S. Recession เพิ่มขึ้น กดดันต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลงในช่วง -1.5% ถึง -3.3% ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลงเกือบ -5% มองการเคลื่อนไหวข้างต้นเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ กลุ่มปิโตรฯ กลุ่มพลังงานในวันนี้ ขณะที่สัปดาห์นี้เชื่อว่าทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะผันผวนพร้อมแกว่งขึ้นลงไปตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่คืนนี้เป็นการรายงาน ADP Employment เดือน ส.ค. ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 1.42 แสนตำแหน่งมากกว่าเดือนก่อน 1.22 แสนตำแหน่ง หากเป็นตามคาดแรงกดดันต่อตลาดหุ้นจะลดลง

การตั้ง ครม. คาดว่าจะมีการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯในวันนี้ การแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอยู่ในช่วง 10-12 ก.ย.และประชุม ครม. 17 ก.ย. ซึ่งนโยบายแรกที่ขับเคลื่อนคาด Digital Wallet 10,000 บาท สำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ 13-14 ล้านคน ซึ่งมองเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC กลุ่มไฟแนนซ์ SAK MTC ส่วนประเด็นอื่นๆ การประชุม ครม. วานนี้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายสำรองกรณีฉุกเฉินปี 67 เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่กระทบจากน้ำท่วมวงเงิน 3.02 พันล้านบาทและพัฒนาแหล่งน้ำวงเงิน 2.29 พันล้านบาท บวกต่อ TASCO

Market Summary
SET Index ปรับขึ้นเกือบ 11 จุดหรือ 0.8% กลุ่มที่ Outperform ตอบรับมาตรการ Digital Wallet เริ่มโครงการกลุ่มเปราะบางเดือน ก.ย. หนุนกลุ่มค้าปลีก CPAXT 4% GLOBAL +3.5% และไฟแนนซ์ JMT +4% SAWAD +2% SAK +2.8% กลุ่มที่ถูกปรับออกจาก MSCI GPSC +3% IVL +6% AWC +3.6% ส่วนกลุ่มที่ Underperform กลุ่มวัสดุก่อสร้างจาก SCC -0.4% แรงซื้อมาจากสถาบัน 1.7 พันล้านบาท

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ BDMS BJC

BJC กำไร 3Q67 ยังเติบโตได้ดี
รายได้ในช่วง 3QTD เติบโตเลขสองหลัก (11% ในเดือนกรกฎาคมและ 9% ในเดือนสิงหาคม) โดยผู้ป่วยต่างชาติมีอัตราการเติบโตสูงกว่าผู้ป่วยไทย โดยเฉพาะจากตะวันออกกลาง จีน และยุโรป ซึ่งถือว่าบรรลุเป้าหมายการเติบโตของรายได้ 10% ในปีนี้ และมีกำไร EBITDA มากกว่า 25%
การเพิ่มขึ้นของสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติและ Occupancy rate ที่สูงขึ้น จะหนุนกำไรมีแนวโน้มขยายตัวต่อไป เราคาดว่าผลประกอบการ 3Q67 จะเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY หนุนกำไรปี 67 เติบโต 14%YoY
ประเด็นผู้ป่วยคูเวต ผู้บริหารคาดกลับมา 2H67 หรือปีหน้า แต่รายได้จากคูเวตมีสัดส่วนเพียง <0.5% คาดไม่มีผลกระทบมากนัก ส่วนผลกระทบจากประกันร่วมจ่าย ผู้บริหารเชื่อว่ากระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากผู้ป่วยที่เจ็บป่วยจำเป็นต้องมารับบริการที่ดี และ BDMS มีราคาสมเหตุสมผล
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 34.00 บาท

BJC กำไรจะดีขึ้นใน 2H67
กำไรหลัก 2H67 คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นตามปัจจัยฤดูกาลที่เข้าช่วงการท่องเที่ยวและประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้น ระยะสั้นจะได้ Sentiment บวกจากมาตรการ Digital Wallet ที่มีโอกาสเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย. 67 เร็วกว่าที่คาดหมายเดิมว่าจะเริ่ม ธ.ค.67 ทั้งนี้การจ่ายรอบแรกสำหรับกลุ่มผู้เปราะบางเราคาดว่าจะช่วยหนุนต่อ SSSG ของ BIG C ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ
ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีปรับลงแรง -9% มากกว่ากลุ่มค้าปลีกที่ปรับลง -3% ไปมากจนราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER67E 19.4 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง -1.85 S.D. ซึ่งถือว่าถูกมาก
นอกจากนี้เราเชื่อว่ามีโอกาสราคาหุ้นจะได้ประโยชน์จาก Cover Short เนื่องจากสถานะ Outstanding Short Position อยู่สูงราว 780 ล้านบาทหรือคิดเป็น 2.5 เท่าของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 5 วัน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 29.00 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐานแรงหลังกลับมาเปิดทำการหลังจากหยุดเนื่องในวันแรงงาน ดัชนี S&P500 -2.12%, Nasdaq -3.26%, DJIA -1.15% ตามลำดับ ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี แกว่งโซนล่างบริเวณ 2.83% โดนผลกระทบจากการรายงาน ISM ภาคการผลิตที่อยู่ที่ 47.2 แย่กว่าที่ตลาดคาด 47.5
กระแสเงินลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่องอีก -699 ล้านบาท สะสมในเดือน ก.ย. -2.178 พันล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสถาบันฯ กลับมาเร่งซื้อ +1.662 พันล้านบาท เป็นแรงหนุนขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ให้ +0.81% Outperform ภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลง สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล ที่คาดว่าจะมีการเสนอรายชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ วันที่ 5 ก.ย. ควบคู่ไปกับการอภิปราย พ.ร.บ. งบประมาณประจำปั 2568 วาระ 2-3 สร้างความคาดหวังต่อการกลับมาเร่งขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐใน ช่วงถัดไป

EYES ON
5 ก.ย. CPI ของไทย เดือน ส.ค., การจ้างงานเอกชน ADP
6 ก.ย. GDP 2Q67 ของ Eurozone, การจ้างงานนอกภาคเกษตร และ อัตราการว่างงานสหรัฐฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ