News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

4 ก.ย. 2567 09:37:18 814

Market Wrap-Up

SET วันที่ 3 ก.ย.67 ปิด +10.96 จุด อยู่ที่ 1,364.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,261 ลบ.สถาบันซื้อ 1,662 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 418 ลบ .รายย่อยขาย 1,381 ลบ. ต่างชาติขาย 699 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 942 ลบ. โดยซื้อสุทธิในหุ้น BCP,CPF,TISCO,MINT,BTS และขายสุทธิ KBANK,AWC,CPALL,HMPRO,ADVANC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,664 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ AMATA,RPC,CRC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 1,583 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 137,740 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 956 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.51%, S&P500 -2.12%, Nasdaq -3.26% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -4.4% นำโดย Nvidia -10% และกลุ่มพลังงาน -2.4% จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐอาจเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.97% จากแรงขายกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน -3.3%, พลังงาน -2.8% และเทคโนโลยี -2.3%

Market View

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลังรายงาน ISM ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐ ส.ค. 47.2 & ก.ค. 46.8 & คาด 5 อยู่โซนหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เช่นเดียวกับ PMI ภาคการผลิตสหรัฐ ส.ค. ลดลงอยู่ที่ 47.9 & ก.ค. 49.6 หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ส่งผลให้นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจสหรัฐอาจเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย ค่ำวันนี้ติดตาม JOLTs เผยตัวเลขเปิดรับสมัครงาน ก.ค. คาด 8.09 ล.ราย & มิ.ย. 8.18 ล. ราย และวันศุกร์ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ส.ค. คาด 164,000 & ก.ค. 114,000 ราย และอัตราว่างงาน ส.ค. คาด 4.2% & ก.ค. 4.3% YoY ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจของเฟดว่าจะลดดอกเบี้นในอัตรา 0.25 หรือ 0.50%
ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน, พลังงาน จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว โดยนักลงทุนรอประเมินตัวเลขจ้างงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ ขณะที่ CPI ยูโรโซน เบื้องต้น ส.ค.ปรับลดลงอยู่ที่ 2.2% & ก.ค. 2.6% YoY ส่งผลให้ LSEG คาด ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม 12 ก.ย. ส่วนเย็นวันนี้ติดตาม PMI ภาคบริการยูโรโซน ส.ค.คาด 53.3 & ก.ค. 51.9 และ PPI ยูโรโซน ส.ค. คาด -2.5% & ก.ค. -3.2% YoY และ ส.ค. คาด 0.3% & ก.ค. 0.5% MoM
ตลาดหุ้นเอเขียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.29% จากแรงชายกลุ่มธนาคาร และฮั่งเส็ง -0.23% กังวลเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า หลัง PMI ภาคการผลิตจีน ส.ค. หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ส่วนดัชนีนิเกอิเช้านี้ -3.3% จากแรงขายกลุ่มเหมืองแร่, น้ำมัน จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว ขณะทีเช้านี้รายงาน PMI ภาคบริการญี่ปุ่น ส.ค.ทรงตัวอยู่ที่ 53.7 แต่ต่ำกว่าคาดที่ 54.0 และรอรายงาน PMI ภาคบริการจีน ส.ค. คาด 51.9 & ก.ค. 52.1
ดัชนี SET วานนี้ +0.81% ปริมาณการซื้อขาย 4.2 หมื่น ลบ.สถาบันซื้อ 1,662 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 418 ลบ. รายย่อยขาย 1,381 ลบ. และต่างชาติขาย 699 ลบ. ดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มปิโตรเคมี +4.3% นำโดย IVL +5.98% หลังถูกแรงขายปรับพอร์ตจาก MSCI รีบาลานท์ ขณะที่แนวโน้มกำไร IVL ปีนี้คาดได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ส่วนกลุ่มไฟแนนท์ +1.9% และค้าปลีก +1.75% ได้ปัจจัยหนุนจากความชัดเจนรายชื่อ ครม.ชุดใหม่อาจจะเสร็จเรียบร้อยในวันนี้ และหลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ รัฐบาลจะจัดประชุม ครม.นัดพิเศษทันที เพื่ออนุมัติโครงการกระตุ้นกำลังซื้อ 1.4 แสน ลบ., ม.ชวยเหลือภัยน้ำท่วม และ ม.ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และอื่น ๆ ซึ่งเป็นผลบวกต่อการเติบโตของ GDP ในช่วง Q3 – Q4 นี้ และส่งผ่านผลบวกไปยังกำไร บจ.ด้วย สัปดาห์นี้วันที่ 3 – 5 ก.ย.ติดตามสภา ฯ จะพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 68 วงเงิน 3.75 ล.ลบ.ในวาระ 2, 3 และวันพฤหัส ก.พาณิชย์รายงาน CPI ส.ค. คาด 0.40% & ก.ค. 0.83% YoY ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจด้านนโยบายดอกเบี้ยของ กนง

Daily Strategy

วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,345 - 1,350 กรณียืนถือพอร์ตต่อ โดยมีแนวต้านที่ 1,370 คาดดัชนีเช้านี้มีโอกาสปรับลดลง จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวในกลุ่มอุปโภค เช่น CPALL,CPAXT,BJC,CBG,ICHI ได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นกำลังซื้อ/ กลุ่มงานประมูลรัฐ CK,STEC,TASCO,SCC,SPREME และพักเงินในกลุ่มปลอดภัย BH,BDMS,BCH,GULF,GPSC,CPF,BTG
FM* (ซื้อ / ราคาเป้า IAA Consensus 8.10 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 240 ล้านบาท +97%QoQ, +168%YoY เนื่องจากปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งไก่ชำแหละและแปรรูปปรุงสุก (Cook added value : CAV) อีกทั้งได้รับปัจจัยบวกจากอุตสาหกรรมที่ราคาไก่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยสัดส่วนรายได้ธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกที่สูงขึ้นเป็น 37% ส่งผลให้ GPM ปรับตัวดีขึ้น ส่วนแนวโน้ม 2H67 เติบโตต่อเนื่อง เพราะมีออเดอร์ใหม่ในกลุ่มไก่แปรรูปปรุงสุกจากลูกค้าเดิม และการรับออเดอร์จากลูกค้ารายใหม่เกาหลีใต้ใน 3Q67 และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ใน 4Q67 โดยบริษัทจะมุ่งเน้นในการขยายกำลังการผลิตในส่วนนี้ (ปัจจุบันมี 5 line) และมองสัดส่วนรายได้ธุรกิจ CAV แตะ 60% ภายใน 3 ปี ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67-68 ที่ 532 ล้านบาท +110%YoY และ 657 ล้านบาท +23%YoY
PR9* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 76 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 139 ลบ. -13%QoQ, +15%YoY อ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ยัง +YoY ดีมีแรงหนุนจากจากการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติ Fly-in โดยเฉพาะอาหรับ ลาว พม่า ขณะที่ฝั่งผู้ป่วยไทยยังโดดเด่นในเรื่องโรคไต/โรคซับซ้อน ส่วนการดำเนินงานช่วงถัดไป ครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีต่อเนื่องเข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 มีสัญญาณดีจากผู้ป่วยกลุ่มชาติอาหรับมากขึ้นหลังทำการตลาดเชิงรุก ทั้งนี้ตลาดคาด กำไรสุทธิ ปี67 และ ปี68 จะขยายตัวต่อเนื่องมาอยู่ที่ 650 ลบ.(+16%YoY) และ 734 ลบ.(+13%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ต.ค. -$3.21 อยู่ที่ $70.34/บาร์เรล , Brent ต.ค. -$3.77 อยู่ที่ $73.75/บาร์เรล หลังสถานการณ์การเมืองในลิเบียเริ่มคลี่คลาย กอปรกับกลุ่มโอเปกพลัสคาดจะเพิ่มกำลังการผลิตราว 1.8 แสน บาร์เรล/วัน ตั้งแต่ ต.ค. 67 จากปัจจุบันลดกำลังการผลิตอยู่ที่ 5.86 ล.บาร์เรล/วัน

Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค. -$4.60 อยู่ที่ $2,523.00 /ออนซ์ ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.17% อยู่ที่ 101.825 และวันศุกร์นี้รอรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ส.ค.

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -12.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -20.41 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +7.51 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +0.36 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 34.27 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 3.829 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +28 จุด อยู่ที่ 1,947

(-) BitCoinเช้านี้ -5.16% อยู่ที่ 56,199 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ( ส.ค.)

ต่างประเทศ

02 ก.ย. US วันแรงงาน

03 ก.ย. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ส.ค.)

04 ก.ย. US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs ( ก.ค.)

05 ก.ย. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)( ส.ค.)

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ส.ค.)

06 ก.ย. US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)

US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ( ส.ค.)

US อัตราการว่างงาน ( ส.ค.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio September 2024: KCG*, CPALL, AU*, CPF, THCOM